งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ
ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ
สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ
รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ
ตร.เตือนคนขับรถเจอใบสั่ง แต่ยังไม่ไปชำระค่าปรับ ถ้าเกินกำหนด7วัน ต้องเสียค่าปรับเพิ่มอีก 300บาท
วันที่ 10 ก.ย. ที่ บช.น. พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผบช.น.รับผิดชอบงานจราจร กล่าวว่า ได้รับรายงานจาก พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ ผบก.จร. กรณีตรวจสอบข้อเท็จจริง ส.ต.อ.อธิพงศ์ กันดี ผบ.หมู่ งานจราจรทางด่วน 2 ที่มีชื่อในใบสั่งที่ถูกร้องเรียนว่าเป็นใบสั่งปลอม ให้ออกจากราชการไว้ก่อน พร้อมตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเอาผิดทางวินัยและอาญา หลังจากได้สอบถามเจ้าตัวให้การรับสารภาพว่า ได้นำใบสั่งไปให้เพื่อนที่อยู่ในบริษัทเอกชน(โตโยต้า)จริง และสอบผู้บังคับบัญชาของระดับ สารวัตร และ ผกก.ของ ส.ต.อ.อธิพงศ์ ด้วยว่าบกพร่องหรือไม่อย่างไร
รอง ผบช.น. กล่าวต่อ ที่ผ่านมาเคยตรวจพบว่ามีชาวบ้านทำใบสั่งปลอมเองทั้งฉบับ มีการประทับตราปลอม รหัสตำรวจจราจรที่ออกใบสั่งปลอม ส่วนใหญ่จะเป็นรถบรรทุกที่ถูกจับตรวจควันดำ อีกรายเป็นตำรวจ สน.บางขุนเทียน เป็นคนเบิกใบสั่งแล้วไปออกปลอม มีการสั่งขัง แต่เนื่องจากมีหลักฐานชี้แจงว่าได้แจ้งความใบสั่งหายไว้ แต่ตรวจสอบแล้วทำเพียงฉบับเดียวจึงรอดตัวไป อีกรายที่พบใบสั่งปลอมเป็นแถวมีนบุรี ตรวจสอบแล้วไม่รู้ตัวผู้กระทำผิด
ส่วนรายของ ส.ต.อ.อธิพงศ์ กันดี เป็นใบสั่งจริง แต่เบิกไปมากผิดปกติ คือ ที่ตรวจพบมีการเบิกไปถึง 5 เล่ม ๆ หนึ่งมี 25 ใบ เจ้าตัวรับว่าเอาไปให้เพื่อนไว้เพื่อป้องกันถูกจับ เห็นได้ว่ามีพฤติการณ์เอาไปหากินจริง เป็นการประพฤติมิชอบหาประโยชน์จากการปฏิบัติหน้าที่ การให้ออกไว้ก่อนเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว
สำหรับใบสั่งทุกเล่มทุกฉบับจะมีหมายเลขกำกับ การเบิกจ่ายใบสั่ง กทม.จะออกโดยผู้บังคับการจราจรซึ่งเป็นเจ้าพนักงานจราจร ทุก สน.จะเบิกจาก กก.3 บก.จร.เพียงที่เดียว ที่พิมพ์เอาไว้มีการควบคุมเบิกจ่ายว่าใบสั่งเล่มใบ สน.ใดเบิกไป สน.จะคุมว่าตำรวจจราจรคนใดเบิกใบสั่งเล่มใดไป เมื่อตำรวจจราจรเขียนใบสั่งแก่ผู้ขับขี่ที่กระทำผิดกฎจราจรแล้วจะให้ใบสั่งสีขาวแก่ผู้ขับขี่ใช้แทนใบอนุญาตขับขี่มีกำหนดจะต้องไปพบพนักงานสอบสวนเพื่อเสียค่าปรับภายในเวลา 7 วัน ส่วนก๊อบปี้ใบสีเหลืองติดไว้กับใบขับขี่ที่ยึดมาส่งไปเก็บไว้ที่โรงพัก ใบสีชมพูกับสีฟ้าจะติดไว้ที่ต้นขั้ว ส่งคืนกลับไว้ที่ สน. จะมีการควบคุมตรวจสอบได้ว่า มีการออกใบสั่งผู้กระทำผิดกฎจราจรจำนวนเท่าใด ให้ใครไปบ้าง เพื่อติดตามผลการชำระค่าปรับแล้วเท่าใด จะได้ทราบว่าแต่ละนายมีจำนวนส่วนแบ่งรางวัลนำจับเท่าใด ซึ่งผู้บังคับบัญชาจะต้องดูแลตรวจสอบการปฏิบัติ เมื่อใบสั่งหายไปก็จะรู้
พล.ต.ต.ภาณุ กล่าวเตือนประชาชนผู้ขับขี่ ว่า เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรพบการกระทำผิด อาจจะว่ากล่าวตักเตือนหรือออกใบสั่งหรือยึดใบอนุญาตขับขี่ก็ได้ กรณีใบสั่งที่ยึดใบอนุญาตขับขี่ไว้ สามารถใช้แทนใบขับขี่ได้ในระยะเวลา 7 วัน กรณีที่ถูกใบสั่งแล้วไปกระทำผิดอีก ตำรวจจราจรสามารถจะออกใบสั่งตามข้อหาที่พบใหม่ จะยึดใบสั่งใบแรกไว้หรือไม่ยึดก็ได้ ปกติทางปฏิบัติจะยึดใบสั่งเก่าไว้ แต่จริงๆ ไม่มีประโยชน์อะไร ซึ่งใบสั่งใบหลังจะต้องระบุไว้ว่า ไม่ได้ยึดใบอนุญาตใบขับขี่ไว้ เมื่อไปถูกจับความผิดจราจรอีกครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องนำตัวผู้ขับขี่รายนั้นไปส่งพนักงานสอบสวนเพื่อเปรียบเทียบปรับข้อหาไม่พกพาใบอนุญาตใบขับขี่ จะต้องเสียค่าปรับเพิ่มจากข้อหาเดิมอีก 300 บาท ข้อหาไม่มารายงานตัว ตาม ม.141(1) พ.ร.บ.จราจรทางบก และต้องไปเสียค่าปรับตามใบสั่งแรกมาก่อนด้วย ฉะนั้นการเอาใบสั่งวางโชว์หน้ารถหรือแสดงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าถูกออกใบสั่งมาแล้ว ไม่ใช่เหตุผลให้ตำรวจยกเว้นการกระทำผิดกฎจราจรครั้งต่อไปได้
ขอขอบคุณรายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์มติชน