ฎีกาแก้! ให้รอลงอาญา “ทวี ไกรคุปต์” หมิ่น “สุเทพ” ส่อโกงอีริเดียม |ฎีกาแก้! ให้รอลงอาญา “ทวี ไกรคุปต์” หมิ่น “สุเทพ” ส่อโกงอีริเดียม

ฎีกาแก้! ให้รอลงอาญา “ทวี ไกรคุปต์” หมิ่น “สุเทพ” ส่อโกงอีริเดียม

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

ฎีกาแก้! ให้รอลงอาญา “ทวี ไกรคุปต์” หมิ่น “สุเทพ” ส่อโกงอีริเดียม

ทนายคลายทุกข์ขอนำความคืบหน้าคดี ศาลฎีกาพิพากษาแก้ให้รอลงอาญา 2 ปี “ทวี ไกรคุปต์” อดีต ส.ส.ราชบุรี

บทความวันที่ 28 พ.ค. 2552, 00:00

มีผู้อ่านทั้งหมด 1262 ครั้ง


ฎีกาแก้! ให้รอลงอาญา “ทวี ไกรคุปต์” หมิ่น “สุเทพ” ส่อโกงอีริเดียม  
 
     ทนายคลายทุกข์ขอนำความคืบหน้าคดี ศาลฎีกาพิพากษาแก้ให้รอลงอาญา 2 ปี “ทวี ไกรคุปต์” อดีต ส.ส.ราชบุรี ปชป.หลายสมัย หมิ่น “เทพเทือก” ขณะเป็น รมว.คมนาคม เมื่อปี 43 กล่าวว่าพฤติการณ์ส่อทุจริตโครงการโทรศัพท์ผ่านดาวเทียมอีริเดียม เจ้าตัวเผยเป็นคนเริ่มคัดค้านและโครงการยุติแล้วถือว่าประสบความสำเร็จ แม้ศาลจะพิพากษาแก้โทษศาลชั้นต้น-ศาลอุทธรณ์ที่แค่สั่งปรับ 5 พัน
       
       วันนี้ (28 พ.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ห้องพิจารณาคดี 809 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีหมายเลขดำที่ ด.8686/2543 ที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายทวี ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์, นายสุชาติ ศรีสุวรรณ อดีตบรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณาหนังสือพิมพ์มติชน และนายไพฑูรย์ สุนทร อดีตบรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณาหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา โดยโจทก์ ยื่นฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 2 พ.ย.43 สรุปว่า เมื่อวันที่ 30-31 ต.ค.43 เวลากลางวัน พวกจำเลยได้หมิ่นประมาทโจทก์ ขณะดำรงตำแหน่ง รมว.คมนาคม โดยลงพิมพ์บทความใน นสพ.มติชน ว่าโจทก์มีพฤติการณ์ทุจริตในโครงการโทรศัพท์ผ่านสัญญาณดาวเทียมอีริเดียม ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นและเกลียดชัง
      
       โดยศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 17 ก.ย.46 ว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดฐานหมิ่นประมาท โดยใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม ทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 ส่วนจำเลยที่ 2-3 มีความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาด้วยเอกสาร มาตรา 328 และ พ.ร.บ.การพิมพ์ พ.ศ.2484 มาตรา 48 ให้จำคุก จำเลยที่ 1-3 คนละ 3 เดือน และปรับคนละ 5,000 บาท แต่โทษจำคุกให้ยก คงโทษปรับสถานเดียว ตามมาตรา 55 และให้ลงคำพิพากษาใน นสพ.มติชน, ไทยรัฐ เป็นเวลา 3 วันติดต่อกัน โดยจำเลยได้ชำระค่าปรับแล้วตามคำพิพากษา ต่อมาโจทก์-จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์มีพิพากษาเมื่อวันที่ 25 เม.ย.48 แก้ว่าจำเลยทั้งสามมีความผิดตาม มาตรา 328 โดยการลงโทษให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น แต่ต่อมาโจทก์-จำเลยยื่นฎีกา โดยโจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 สถานหนักและไม่ให้รอการลงโทษ
      
       ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมหารือแล้วเห็นว่า ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้บทลงโทษจำเลยที่ 1 ตามมาตรา 328 แล้วศาลอุทธรณ์ยังให้คงลงโทษจำเลยที่ 1 ตามที่ศาลชั้นต้นกำหนดนั้น ตามพฤติการณ์แห่งคดี ศาลฎีกาเห็นว่า การลงโทษเบาเกินไป ซึ่งกรณีไม่มีเหตุสมควรยกโทษจำคุกจำเลยที่ 1 ตามที่ศาลชั้นต้นพิพากษา แต่เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน และจำเลยเป็น ส.ส.หลายสมัย ซึ่งเคยทำประโยชน์แก่ประเทศชาติ กรณีจึงมีเหตุสมควรที่จะลงการลงโทษจำเลยที่ 1 ฎีกาของโจทก์ จึงฟังขึ้นแค่เพียงบางส่วน ศาลฎีกา จึงพิพากษาแก้เป็นว่า ไม่ยกโทษจำคุกจำเลยที่ 1 โดยให้รอการลงโทษจำเลยที่ 1 กำหนด 2 ปี ส่วนจำเลยที่ 2-3 พิพากษาให้ยกฟ้อง (โจทก์ยื่นขอถอนฟ้อง เมื่อปี 2549)
      
       ขณะที่ นายทวีกล่าวถึงโครงการโทรศัพท์ผ่านสัญญาณดาวเทียมอีริเดียมว่า เมื่อช่วงที่เริ่มโครงการตนได้ยื่นคำร้องคัดค้านต่อนายกรัฐมนตรี เนื่องจากมองว่าจะทำให้ประเทศชาติเสียหาย เกือบพันล้านบาท จนในที่สุดโครงการดังกล่าวได้ยุติไป ซึ่งถือว่าเป็นความสำเร็จของตนในการทำหน้าที่ ส.ส. ดังนั้น แม้ว่าคำพิพากษาของศาลออกมาเช่นนี้ก็ไม่เป็นไร

ขอขอบคุณรายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ
 
 
 
 
 
 
 

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก