งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ
ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ
สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ
รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ
ความผิดหลบหนีจากที่คุมขัง
ทนายคลายทุกข์ขอนำคดีผู้ต้องหาคดียาบ้าซึ่งมีโทษถึงขั้นประหารชีวิต
2 คน หลบหนีระหว่างสอบสวน
ถือเป็นความบกพร่องอย่างร้ายแรงของพนักงานสอบสวนและสิบเวร
จะต้องรับผิดโดยไม่มีข้อแก้ตัว สะท้อนให้เห็นว่าตำรวจไทยยังหย่อนยานเรื่องวินัยและสำนึกในหน้าที่ของตัวเองทั้งที่เป็นคดีสำคัญไม่ใส่ใจ
ทนายคลายทุกข์จึงขอนำตัวบทกฎหมายที่เป็นบทลงโทษเจ้าพนักงาน , ผู้ช่วยเหลือ ,
ผู้หลบหนี , ผู้ให้ที่พัก , ผู้ช่วยให้ไม่ถูกจับกุม มานำเสนอดังนี้
ตำรวจที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
มาตรา157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติ
หน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองหมื่นบาทหรือ
ทั้งจำทั้งปรับ
บุคคลที่ให้ที่พักอาศัยกับผู้ต้องหา
มาตรา 189 ผู้ใดช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด
หรือเป็นผู้ต้อง หาว่ากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องโทษ
โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้นหรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใด
เพื่อไม่ให้ถูกจับกุม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกิน สี่พันบาท
หรือทั้งจำทั้งปรับ
ผู้ต้องหาคดียาบ้าที่หลบหนี
มาตรา 190 ผู้ใดหลบหนีไประหว่างที่ถูกคุมขังตามอำนาจของศาล
ของพนักงานอัยการ ของพนักงานสอบสวน หรือของเจ้าพนักงานผู้มี อำนาจสืบสวนคดีอาญา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี
หรือปรับ ไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าความผิดดังกล่าวมาในวรรคแรกได้กระทำโดยแหกที่คุมขัง
โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือโดยขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป
ผู้กระทำ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าความผิดตาม มาตรานี้ ได้กระทำโดยมีหรือใช้อาวุธปืน หรือ วัตถุระเบิดผู้กระทำต้องระวางโทษหนักกว่าโทษที่กฎหมายบัญญัติ
ไว้ในสองวรรคก่อนกึ่งหนึ่ง
ผู้ที่เป็นต้นเหตุให้ผู้ต้องหาหลบหนี
มาตรา 191 ผู้ใดกระทำด้วยประการใดให้ผู้ที่ถูกคุมขังตามอำนาจ
ของศาล ของพนักงานอัยการ ของพนักงานสอบสวน หรือของเจ้าพนักงาน ผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา
หลุดพ้นจากการคุมขังไป ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าผู้ที่หลุดพ้นจากการคุมขังไปนั้นเป็นบุคคลที่ต้องคำพิพากษาจาก ศาลหนึ่งศาลใดให้ลงโทษประหารชีวิต
จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุก ตั้งแต่สิบห้าปีขึ้นไป หรือมีจำนวนตั้งแต่สามคนขึ้นไป
ผู้กระทำต้องระวาง โทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงเจ็ดปี และปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาทถึง
หนึ่งหมื่นสี่พันบาท
ถ้าความผิดตาม มาตรานี้ ได้กระทำโดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือ
โดยขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือโดยมีหรือใช้อาวุธปืนหรือ วัตถุระเบิดผู้กระทำต้องระวางโทษหนักกว่าโทษที่กฎหมายบัญญัติ
ไว้ในสองวรรคก่อนกึ่งหนึ่ง
ผู้ที่ช่วยไม่ให้จับกุมหลังจากหลบหนี
มาตรา 192 ผู้ใดให้พำนัก
ซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใดให้ ผู้ที่หลบหนีจากการคุมขังตามอำนาจของศาลของพนักงานสอบสวน
หรือของเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา เพื่อไม่ให้ถูกจับกุม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี
หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
เนื้อหาข่าวนำมาเสนอเพื่อประกอบการรายงาน
บนโรงพักแท้ๆ
ตร.งามหน้า ปล่อย 2 ยาบ้าหนี
[29 เม.ย. 51 -
เมื่อเวลา
03.50 น. วันที่ 28 เม.ย. พ.ต.อ.วีรสันธ์ สมใจ ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์
อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งจาก พ.ต.ท.นันทิกรณ์
เย็นวัฒนา สวส.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ว่า
เกิดเหตุผู้ต้องหาคดีครอบครองยาบ้า 2 คน
หลบหนีออกไปจากโรงพัก หลังนำตัวออกจากห้องควบคุมมาสอบปากคำ จึงรายงานให้ พล.ต.ต.ประพันธ์ พานิคม ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี
พ.ต.อ.นันทชาติ ศุภมงคล รอง
ผบก. นำกำลังฝ่ายสืบสวนมาตรวจสอบ
จากการสอบถาม
พ.ต.ท.นันทิกรณ์ เย็นวัฒนา พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี
เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ที่หลบหนีคือนายมงคล หาญกำจร อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8 หมู่ 5
ต.แม่เปา อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย และนายวีระพล แซ่หาง อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 หมู่บ้านเดียวกัน
เป็นผู้ต้องหาค้ายาบ้าที่ถูกตำรวจกองปราบปราม นำโดย พ.ต.อ.พรศักดิ์
สุรสิทธิ์ ผกก.ฝ่ายปฏิบัติการ 7
ล่อซื้อจับกุมพร้อมยาบ้า 20,000 เม็ด
ได้ที่ลานจอดรถห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี รังสิต
คุมตัวส่งมาดำเนินคดีเมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 26 เม.ย. ที่ผ่านมา หลังจากลงบันทึกส่งมอบตัวเรียบร้อยแล้ว
นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 เข้าห้องควบคุมตัว
สารวัตรเจ้าของคดีกล่าวต่อไปว่า
ต่อมาในช่วงค่ำวันที่ 27 เม.ย.
ได้เบิกตัวผู้ต้องหาทั้ง 2
ใส่กุญแจมือติดกันคนละข้างออกมาสอบปากคำ โดยมีทนายความร่วมสอบสวนตามขบวนการ
ใช้เวลานานกว่า 5 ชม.
กระทั่งเวลาประมาณตีสามเศษ
จึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งคู่มาลงประจำวันเพื่อเตรียมนำเข้าห้องขัง โดยมี ด.ต.เกษมสันต์ สำเริง เสมียนเวรประจำวันควบคุมตัวอยู่
ก่อนที่ตนจะขอตัวไปเข้าห้องน้ำที่ชั้น 3 ของโรงพัก แต่ระหว่างที่อยู่ในห้องน้ำได้ยินเสียงคนร้องเอะอะโวยวายเสียงดังลั่น
รีบลงมาดูพบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 วิ่งหลบหนีไปแล้ว
จึงวิทยุแจ้งสายตรวจและสายสืบสกัดจับแต่ไร้วี่แวว ก่อนรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
พ.ต.อ.วีรสันธ์ สมใจ ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ กล่าวว่า จากการสอบถามผู้เกี่ยวข้องยังให้การขัดกัน
โดย พ.ต.ท.นันทิกรณ์
สารวัตรเจ้าของคดีอ้างว่าทิ้งผู้ต้องหาไว้กับ ด.ต.เกษมสันต์
เสมียนเวรประจำวัน
แต่ทางเสมียนเวรประจำวันก็อ้างว่าขณะผู้ต้องหาหลบหนีนั้นยังไม่ได้รับการฝากไว้
เพียงแต่เห็นผู้ต้องหาทั้ง 2 เดินออกมาจากห้องสอบสวน ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะสะเดาะกุญแจมือปลดออกแล้วทั้งคู่ก็เปิดประตูวิ่งเผ่นหนีไปคนละทางทันที
จึงรีบวิ่งตามออกไปพร้อมร้องเอะอะโวยวาย โดยเหตุการณ์
ทั้งหมดได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้ว
คงจะมีการตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเกิดจากความประมาทเลินเล่อของใคร
เพื่อดำเนินการตามระเบียบต่อไป
ด้าน
พล.ต.ต.ประพันธ์ พานิคม ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี
กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาทั้ง 2
เป็นขบวนการค้ายาบ้าจากทางภาคเหนือ ถูกตำรวจกองปราบฯล่อซื้อจับกุมได้ของกลาง 10,000 เม็ด จากนั้นขยายผลตรวจค้นห้องพักเลขที่ 5612 ชั้น 5 อาคารแนชเชอรี่เพลส
ซอยพหลโยธิน 94 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
พบยาบ้าอีก 10,000 เม็ด จึงยึดไว้เป็นหลักฐานนำตัวส่ง
พ.ต.ท.นันทิกรณ์ เย็นวัฒนา สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เจ้าของพื้นที่ดำเนินคดี
เมื่อเกิดเหตุผู้ต้องหาหลบหนีไป ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.นันทชาติ
ศุภมงคล รอง ผบก. พ.ต.ท.จีรวัฒน์
แนวจำปา รอง ผกก. กลุ่มงานสืบสวน ภ.จ.ปทุมธานี
นำกำลังไล่ล่าผู้ต้องหาสำคัญทั้ง 2
ที่คาดว่าจะหลบหนีไปยังไม่ไกล
พร้อมทั้งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงตำรวจที่เกี่ยวข้องทั้งหมดด้วย
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าวจากเวปไซด์ไทยรัฐ