ศาลไม่ให้ประกันตัว ตร.ปืนดุ|ศาลไม่ให้ประกันตัว ตร.ปืนดุ

ศาลไม่ให้ประกันตัว ตร.ปืนดุ

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

ศาลไม่ให้ประกันตัว ตร.ปืนดุ

วันนี้ทนายคลายทุกข์ขอเสนอข่าวที่ศาลไม่ให้ประกันตัวเจ้าหน้าที่ ตร. 2 นายภายหลังยื่นคำร้องฝากขังแล้ว และมีการยื่นคำร้องต่อศาลขอให้ปล่อยชั่วคราว

บทความวันที่ 13 มี.ค. 2551, 00:00

มีผู้อ่านทั้งหมด 488 ครั้ง


                                                ศาลไม่ให้ประกันตัว ตร.ปืนดุ

 

            วันนี้ทนายคลายทุกข์ขอเสนอข่าวที่ศาลไม่ให้ประกันตัวเจ้าหน้าที่ ตร. 2  นายภายหลังยื่นคำร้องฝากขังแล้ว  และมีการยื่นคำร้องต่อศาลขอให้ปล่อยชั่วคราว  ในขณะที่พนักงานสอบสวนไม่คัดค้านการประกันตัว  จากเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย   เข้าไปจับซีดีเถื่อนในตลาดแล้วเกิดเหตุการณ์   เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งใช้ปืนยิงทหารที่เข้าไปว่ากล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจ

 

        ในการสั่งไม่ให้ปล่อยตัวชั่วคราวศาลต้องแสดงเหตุผล  และต้องแจ้งเหตุดังกล่าวเหตุดังกล่าวให้ผู้ต้องหาหรือจำเลยและผู้ยื่นคำร้องขอให้ปล่อยตัวชั่วคราวทราบเป็นหนังสือโดยเร็ว

และต้องมีเหตุอันควรเชื่อว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยจะหลบหนี  หรือจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน

หรือจะไปก่อเหตุอันตรายประการอื่น หรือหลักประกันไม่น่าเชื่อถือ หรือจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อการสอบสวน  ตาม  ป.วิ.อ.มาตรา  108/1 

 

            ซึ่งศาลให้เหตุผลในการไม่ให้ประกันตัวว่า  ?พฤติการณ์ของผู้ต้องหาเป็นการกระทำต่อผู้ตายโดยที่ผู้ตายไม่ทันระวังตัวและไม่มีการแสดงท่าทางข่มขู่หรือขัดขวาง  การปฏิบัติหน้าที่ของผู้ต้องโดยที่ผู้ตายไม่ได้ชักอาวุธออกมาตามที่ระบุในคำร้องฝากขัง  อีกทั้งเมื่อเพื่อนและผู้บังคับบัญชาของผู้ตายจะพาตัวส่งโรงพยาบาลผู้ต้องหาก็ไม่ยอม  ดังนั้น  หากปล่อยตัวชั่วคราวไปเกรงว่าจะหลบหนีและจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานทำให้พยานเกิดความหวาดกลัวได้  จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้องขอประกันตัวพร้อมสั่งคืนหลักทรัพย์

 

       

            ตัวบทกฎหมายอ้างอิง

            ประมวลวิธีพิจารณาความอาญา 

 

             มาตรา  108 ในการวินิจฉัยคำร้องขอให้ปล่อยชั่วคราว ต้องพิจารณาข้อเหล่านี้ประกอบ

            (1) ความหนักเบาแห่งข้อหา

            (2) พยานหลักฐานที่ปรากฏแล้วมีเพียงใด

            (3) พฤติการณ์ต่างๆ แห่งคดีเป็นอย่างไร

            (4) เชื่อถือผู้ร้องขอประกันหรือหลักประกันได้เพียงใด

            (5) ต้องหาหรือจำเลยน่าจะหลบหนีหรือไม่

            (6) ภัยอันตรายหรือความเสียหายที่จะเกิดจากการปล่อยชั่วคราวมีเพียงใดหรือไม่

            (7) ในกรณีที่ผู้ต้องหาหรือจำเลยต้องขังตามหมายศาล ถ้ามีคำคัดค้านของพนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ โจทก์ หรือผู้เสียหาย แล้วแต่กรณี ศาลพึงรับประกอบการวินิจฉัยได้

 

            เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการตามวรรคหนึ่ง เจ้าพนักงานซึ่งมีอำนาจสั่งให้ปล่อยชั่วคราวหรือศาลอาจรับฟังข้อเท็จจริง รายงานหรือความเห็นของเจ้าพนักงานซึ่งกฎหมายกำหนดให้มีอำนาจหน้าที่ที่เกี่ยวกับการนั้นเพื่อประกอบการพิจารณาสั่งคำร้องด้วยก็ได้

 

            ในการอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว เจ้าพนักงานซึ่งมีอำนาจสั่งให้ปล่อยชั่วคราว หรือศาลจะกำหนดเงื่อนไขเกี่ยวกับที่อยู่ของผู้ที่ถูกปล่อยชั่วคราว หรือกำหนดเงื่อนไขอื่นใดให้ผู้ถูกปล่อยชั่วคราวปฏิบัติเพื่อป้องกันการหลบหนีหรือเพื่อป้องกันภัยอันตราย หรือความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการปล่อยชั่วคราวก็ได้

 

            มาตรา  108/1  การสั่งไม่ให้ปล่อยชั่วคราว จะกระทำได้ต่อเมื่อมีเหตุอันควรเชื่อเหตุใดเหตุหนึ่งดังต่อไปนี้

            (1) ผู้ต้องหาหรือจำเลยจะหลบหนี

            (2) ผู้ต้องหาหรือจำเลยจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน

            (3) ผู้ต้องหาหรือจำเลยจะไปก่อเหตุอันตรายประการอื่น

            (4) ผู้ร้องขอประกันหรือหลักประกันไม่น่าเชื่อถือ

            (5) การปล่อยชั่วคราวจะเป็นอุปสรรคหรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อการสอบสวนของเจ้าพนักงานหรือการดำเนินคดีในศาล

 

            คำสั่งไม่ให้ปล่อยชั่วคราวต้องแสดงเหตุผล และต้องแจ้งเหตุดังกล่าวให้ผู้ต้องหาหรือจำเลยและผู้ยื่นคำร้องขอให้ปล่อยชั่วคราวทราบเป็นหนังสือโดยเร็ว

 

 

        รายงานข่าวจากเวบไซด์คมชัดลึกมีดังนี้

 

            ผบช.น.สั่งสอบวินัยร้ายแรง"ส.ต.อ." ปืนดุ ลั่นผิดไม่เอาไว้ ก่อนหิ้วมือยิงพร้อมเพื่อนฝากขังศาล เจ้าตัวยังอ้างป้องกันตัว ด้านร้อยตรี สห.แฉยิงแล้วเหยียบอกไม่ให้ส่ง รพ.นานครึ่งชั่วโมงจนตายคาเท้า พ่อ-เมียร่ำไห้รับศพ ครวญไม่น่าทำรุนแรง ขณะที่บิ๊กทหารยันทำเกินกว่าเหตุ เตรียมแถลงท่าทีวันนี้

 

            จากเหตุการณ์ส.ต.อ.ประสาท จันทิมา ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม ช่วยงานฝ่ายสืบสวน สน.ประชาชื่น ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม.ยิง ส.ต.ชัยวุฒิ ประสมศรี ทหารสังกัดกองพันสารวัตรทหารบก กรมยุทธบริการทหาร กองบัญชาการทหารสูงสุด (บก.สส.) เสียชีวิต ขณะที่ ส.ต.อ.ประสาทเข้าจับกุมพ่อค้าแผงขายซีดีเถื่อนในตลาดนัดทางเข้า บก.สส. จนนายทหารและเพื่อนของผู้ตายไม่พอใจพากันเดินทางไปที่ สน.ประชาชื่น กว่า 100 นาย เพื่อกดดันให้ตำรวจเร่งสอบสวนเอาผิด ส.ต.อ.ประสาท ตำรวจปืนดุรายนี้ เพราะเห็นว่าเป็นการทำเกินกว่าเหตุ โดยขณะนี้ฝ่ายตำรวจอ้างว่าคนตายต่อสู้ ส่วนชาวบ้านและเพื่อนทหารยืนยันว่าตำรวจทำเกินกว่าเหตุ เพราะผู้ตายไม่ได้ต่อสู้

 

            พี่สาวสห.เหยื่อกระสุนให้ปากคำ ตร.

 

            ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 12 มีนาคม พล.ต.ต.วิบูลย์ บางท่าไม้ รอง ผบช.น.ได้มายัง สน.ประชาชื่น เพื่อตรวจรายละเอียดเรื่องการสอบสวนและรูปแบบคดี โดยมี พ.ท.วิฑูรย์ รวยสวัสดิ์ ผู้บังคับกองทหารสารวัตร กรมยุทธบริการทหาร กองบัญชาการทหารสูงสุด และ ร.อ.สิทธิพล ภักดีวงศ์ นายทหารพระธรรมนูญ นำพี่สาวของ ส.ต.ชัยวุฒิ ผู้ตาย มาพบ พ.ต.อ.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ ผกก.สน.ประชาชื่น เพื่อให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน และเข้าร่วมการสอบปากคำด้วย

 

            พล.ต.ต.วิบูลย์กล่าวว่า มาตรวจสอบรูปแบบคดีหลังเกิดเหตุ โดยจะสอบสวนให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย จึงสั่งการให้พนักงานสอบสวนทำสำนวน 3 รูปแบบ คือ 1.เจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำความผิด 2.เจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำการตามหน้าที่ และ 3.ให้เป็นไปตามแนวทางการสืบสวน ส่วน ส.ต.อ.ประสาทนั้น ระหว่างการทำสำนวนไม่ได้กักขังหรือควบคุมตัว ยังให้ทำงานตามปกติ เพราะหลังก่อเหตุไม่ได้หลบหนีไปไหน จึงไม่ต้องควบคุมตัว หากทำสำนวนเสร็จสิ้นแล้วพบว่ากระทำความผิดจริงก็จะดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกนายถูกตั้งข้อหาพยายามฆ่า 

 

            ผบช.น.สั่งสอบวินัยร้ายแรงตร.ปืนดุ

 

            พล.ต.ท.อัศวินขวัญเมือง ผบช.น.กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาอ้างว่า ขณะเกิดเหตุกำลังปฏิบัติงานตามหน้าที่ และเป็นการยิงป้องกันตัว เพราะเห็นผู้ตายมีปืน แต่ยังไม่ปักใจเชื่อ จึงต้องสอบพยานก่อน เพราะข้อมูลแต่ละฝ่ายไม่ตรงกัน โดยพยานหลายรายระบุว่า เห็นผู้ต้องหาใช้ปืนยิงผู้ตาย โดยยังไม่มีการต่อสู้ อย่างไรก็ตาม ได้กำชับให้ฝ่ายสอบสวนดำเนินการไปตามพยานหลักฐาน ไม่มีการเข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด และให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ขณะเดียวกัน ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.วิบูลย์ ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ส.ต.อ.ประสาท เนื่องจากถูกตั้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา ส่วนจะให้ออกจากราชการหรือไม่ ต้องรอผลการสอบสวนก่อน โดยให้เสร็จสิ้นภายใน 7 วัน

 

            สำหรับส.ต.อ.ประสาท ได้นำตัวส่งศาล เพื่อให้ศาลพิจารณาว่าจะให้ผู้ต้องหาประกันตัวหรือไม่ ตอนนี้เราจะฟังความข้างเดียวไม่ได้ ต้องทำตามพยานหลักฐาน ผมยืนยันว่าผิดถูกอย่างไรต้องว่าไปตามข้อเท็จจริง ไม่มีช่วยเหลือกันเด็ดขาด เรื่องที่มาหาว่าจัดฉากนั้น ตำรวจเลิกถ่ายหนังนานแล้ว ไม่มีการจัดฉาก ทุกอย่างเป็นไปตามเนื้อผ้า ถ้าตำรวจคนไหนไม่ดีก็ไม่เอาไว้ ให้มันเหลือตำรวจน้อยคน แต่เป็นคนดี มีคุณภาพดีกว่า เรื่องนี้ผมขอแสดงความเสียใจด้วย และเชื่อว่าคงไม่มีเหตุบานปลาย เพราะตำรวจชี้แจงกับผู้บังคับบัญชาของทหารแล้ว ผบช.น.กล่าว

 

            ลั่นผิดจริงให้ออกจากราชการ

 

            ด้านพล.ต.ต.จุตติ ธรรมมโนวนิช รอง ผบช.น.กล่าวว่า เท่าที่ฟังคำให้การของพยานพบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย เข้าไปตรวจค้นร้านซีดีพบผู้ค้าไม่มีอนุญาต ระหว่างนั้นมีชาย 2 คน ซึ่งมีผู้ตายเป็นหนึ่งในนั้น เข้ามาพูดว่า ตำรวจทำรุนแรงเกินไป จนเกิดการโต้เถียงกัน ก่อนจะแยกย้ายกันไป สักพักก็เกิดเสียงปืนดังขึ้น และผู้ตายล้มลงพร้อมรถจักรยานยนต์ ส่วนใครถูกใครผิดนั้นต้องรอสอบสวนให้ชัดเจนก่อน ทางตำรวจก็อ้างว่าไปปฏิบัติหน้าที่ 

 

            เรื่องจะให้ส.ต.อ.ประสาท ออกจากราชการนั้น จะต้องรอผลจากคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงที่ ผบช.น.สั่งตั้งขึ้นมาแล้ว ตอนนี้ขอให้เชื่อว่า ตำรวจจะไม่ปกป้องกันเอง อีกทั้งมีพยานเห็นว่ามีปากเสียงกัน และเห็น ส.ต.อ.ประสาท เป็นคนยิง รองผบช.น.กล่าว

 

 

ตั้ง3 ข้อหาหนักผู้สื่อข่าวรายงานว่าพนักงานสอบสวนได้นำ ส.ต.อ.ประสาท และ จ.ส.ต.ปรวิศร์ จงพิทักษ์พงษ์ ผบ.หมู่งานสืบสวน สน.ประชาชื่น ไปยื่นคำร้องขอฝากขังยังศาลอาญา รัชดาฯ โดยแจ้งข้อหา ส.ต.อ.ประสาท 3 ข้อหา คือ 1.เจ้าพนักงานฆ่าผู้อื่นโดยอ้างว่าปฏิบัติราชการตามหน้าที่ และป้องกันตัว พอสมควรแก่เหตุ 2.ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด และ 3.ไม่ช่วยเหลือผู้ซึ่งตกอยู่ในภยันตรายแห่งชีวิต ส่วน จ.ส.ต.ปรวิศร์ แจ้งข้อหา 1.พยายามฆ่าผู้อื่น 2.ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด 3.หน่วงเหนี่ยวกักขังให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพ และ 4.ไม่ช่วยเหลือผู้ซึ่งตกอยู่ในภยันตรายแห่งชีวิต เมื่อเดินทางมาถึงตำรวจทั้งสองนายได้ลงจากรถใช้เสื้อคลุมปิดใบหน้าเดินเข้าห้องส่งตัวผู้ต้องหาทันที โดยไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ ขณะที่พนักงานสอบสวนไม่ได้คัดค้านการประกันตัว

 

            ศาลไม่ให้ประกันตัวภายหลังยื่นคำร้องฝากขังแล้วต่อมา พ.ต.อ.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ ผกก.สน.ประชาชื่น และ พ.ต.ท.เอนก อุ่นเดช สว.สส.สน.ประชาชื่น ได้ใช้ตำแหน่งตีมูลค่ารวม 565,300 บาท เป็นหลักทรัพย์ขอประกันตัวผู้ต้องหาที่ 1 ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.ถวัลย์ พวกเกษม รอง ผกก.สส.สน.ประชาชื่น ใช้ตำแหน่งตีมูลค่า 319,600 บาท เป็นหลักทรัพย์ขอประกันตัวผู้ต้องหาที่ 2   

 

            ศาลพิเคราะห์สำนวนสอบสวนแล้วเห็นว่าพฤติการณ์ของผู้ต้องหาเป็นการกระทำต่อผู้ตาย โดยที่ผู้ตายไม่ได้ทันระวังตัว และไม่มีการแสดงท่าทางข่มขู่หรือขัดขวาง การปฏิบัติหน้าที่ของผู้ต้องหาแต่อย่างใด จึงเป็นการกระทำโดยอุกอาจต่อหน้าประชาชนจำนวนมาก โดยที่ผู้ตายไม่ได้ชักอาวุธปืนออกมาตามที่ระบุในคำร้องฝากขัง อีกทั้งเมื่อเพื่อนและผู้บังคับบัญชาของผู้ตายจะพาตัวส่งโรงพยาบาล ผู้ต้องหาก็ไม่ยินยอม ดังนั้นหากปล่อยตัวชั่วคราวไปเกรงว่าจะหลบหนีและจะยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ทำให้พยานเกิดความหวาดกลัวได้ จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้องขอประกันตัว พร้อมสั่งคืนหลักทรัพย์ 

 

            ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังศาลมีคำสั่งไม่ให้ประกันตัวแล้ว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงได้ควบคุมผู้ต้องหาทั้งสองคนส่งเรือนจำพิเศษกรุงเทพ 

 

 

พ่อ-เมียร่ำไห้รับศพกลับเพชรบุรีต่อมาเวลา 11.00 น. จ.ส.อ.ศักดิ์ชัย ประสมศรี อายุ 67 ปี บิดา ส.ต.ชัยวุฒิ นางนกแก้ว ประสมศรี อายุ 22 ปี ภรรยาผู้ตาย ผู้บังคับบัญชาและญาติได้รับศพ ส.ต.ชัยวุฒิ เพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดท่าศาลาราม ต.ท่าเสน อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี 

 

            จ.ส.อ.ศักดิ์ชัยกล่าวว่า อาจจะทำบุญ 3 หรือ 5 วัน จากนั้นก็จะฌาปนกิจ ลูกชายคนนี้ปกติเป็นคนใจเย็น พูดจาไพเราะอ่อนหวาน รักครอบครัว และไม่เคยมีเรื่องกับใคร ปกติจะกลับไปเยี่ยมตนและครอบครัวเดือนละประมาณ 8 ครั้ง ครั้งสุดท้ายที่คุยกันเมื่อวันที่ถูกยิงตาย โดยช่วงเช้าคุยกันเรื่องโอนโทรศัพท์มือถือให้ตน อย่างไรก็ตาม เรื่องค่าใช้จ่ายในการทำศพทางต้นสังกัดจะดูแลให้ ส่วนเรื่องคดีคงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้บังคับบัญชาเป็นคนดำเนินการ 

 

            เมียเผยลางสังหรณ์ก่อนตาย

 

            นางนกแก้วกล่าวทั้งน้ำตาว่า แต่งงานอยู่กินกับ ส.ต.ชัยวุฒิ นาน 3 ปี มีลูก 1 คน คือ ด.ช.ชนาธิป ประสมศรี อายุ 1 ขวบ 7 เดือน ตนกับลูกอยู่บ้านที่ จ.ปราจีนบุรี และได้คุยกับสามีครั้งสุดท้ายเมื่อเวลา 09.40 น. วันเดียวกับที่สามีถูกยิง โดยสามีบอกเพียงว่าจะนอนพักผ่อนก่อนจะวางสายไป กระทั่งช่วงเย็น ขณะปิดประตูเพื่อออกจากบ้านได้ยินเสียงถ้วยชามในครัวกระทบกันแตกเสียงดัง แต่เมื่อเปิดประตูเข้าไปดูก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น คิดว่าเป็นลางสังหรณ์ที่ไม่ดี จนช่วงดึกญาติโทรศัพท์มาบอกว่าสามีเสียชีวิต แต่ไม่เชื่อ เมื่อให้เพื่อนเช็กดูก็ปรากฏว่าสามีเสียชีวิตจริง 

 

            "ปกติแฟนเป็นคนใจดี ชอบช่วยเหลือคนอื่น รักครอบครัว ไม่มีท่าทีโผงผาง ไม่คิดเลยว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ ตำรวจไม่น่าทำรุนแรงขนาดนี้ ขาดเขาไปก็เหมือนขาดเสาหลักของครอบครัว ลูกก็ยังเล็กอยู่ ตอนนี้ยังไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป" นางนกแก้ว กล่าวด้วยน้ำตานองหน้า

 

 

            "ร.ต."เผยมือยิงชักปืนจ่อสั่งห้ามยุ่งร.ต.พิเชษฐ์พิมพ์ทอง สารวัตรทหาร สังกัดกรมยุทธการบริการทหาร ซึ่งเป็นพยานคนสำคัญที่อยู่ในเหตุการณ์ กล่าวว่า ปกติจะมีตลาดนัดทุกวันอังคาร พฤหัสบดี ศุกร์ และเสาร์ โดยมีแม่ค้าทั่วไปและแม่บ้านทหารนำสินค้ามาวางขาย ช่วงเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย เข้ามาจับแผงค้าซีดี โดยพูดจาข่มขู่ เอะอะโวยวายเสียงดัง และใช้ความรุนแรง กระชากคนขายไปใส่กุญแจมือ ก่อนจะกดตัวลงกับพื้น และใช้เท้าเหยียบหลังไว้ เมื่อ ส.ต.ชัยวุฒิ และ จ.ส.อ.วิชิต เอื้อเฟื้อกลาง เห็นเข้าก็ไม่พอใจ จึงเดินเข้าไปสอบถามว่า ทำไมต้องใช้ความรุนแรง เป็นตำรวจจริงหรือไม่ พร้อมขอดูบัตร แต่ ส.ต.อ.ประสาท ไม่ได้พูดอะไร พร้อมเปิดเสื้อให้ดูปืนที่พกอยู่ที่เอว และบอกว่า "มึงไม่เกี่ยวอย่ามายุ่ง" จากนั้นทั้งสองฝ่ายเกิดโต้เถียงกัน จึงเข้าไปแสดงตัวว่าเป็นนายทหารยศร้อยตรี ทำให้เรื่องยุติ 

 

            หลังแยกย้ายกันไปชัยวุฒิเดินไปซื้อหมูปิ้งแล้วเดินไปที่รถมอเตอร์ไซค์เตรียมขี่กลับบ้าน ระหว่างที่คร่อมรถก็หยิบหมูปิ้งมากิน ช่วงนั้นผมเห็นตำรวจชื่อประสาท กำลังขึ้นลำปืน เลยตะโกนบอกให้ชัยวุฒิหลบ แต่ไม่ทันขาดคำ มันก็จ่อปืนยิงเข้าที่หน้าอกจนชัยวุฒิล้มลง จ่าวิชิตวิ่งเข้าไปช่วยก็ถูกตำรวจอีกคนจับใส่กุญแจมือ ผมเห็นเลยเดินเข้าไปบอกให้ใจเย็นๆ ก่อน แต่มันไม่ฟัง หันปืนมาที่ผม พูดว่า มึงไม่เกี่ยว ถ้าเข้ามากูจะยิงมึงอีกคน ตอนนั้นผมเหลือบไปเห็นชัยวุฒินอนร้องตะโกนให้ผมช่วย บอกว่า ผมเจ็บๆ ๆ แต่ผมถูกปืนจ่อเลยเข้าไปช่วยไม่ได้ จนชัยวุฒินอนนิ่งไป ร.ต.พิเชษฐ์กล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

 

            แม่ค้าเผยตร.จัดฉากวิสามัญฯ

 

            วันเดียวกันผู้สื่อข่าวไปยังจุดเกิดเหตุ บริเวณหน้าอาคารสวัสดิการประชาชื่น กองบัญชาการทหารสูงสุด เพื่อพูดคุยกับคนที่อยู่ในเหตุการณ์ แต่เนื่องจากตลาดนัดจะเปิดขายเฉพาะช่วงเย็น จึงมีเพียงแม่ค้าที่ขายของประจำทุกวันให้ข้อมูลถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

 

           

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 1

สงสารลูกและภรรยาพ่อแม่ของผู้ตาย ที่ต้องอยู่ทนรับความเสียใจของการจากไปของผู้เป็นพ่อเป็นสามีและเป็นลูกชาย ชีวิตคนกว่าจะเติบโตมาได้จนอายุเท่านี้ต้องใช้เวลาในการเติบโตหลายสิบปี แต่ตอนเสียชีวิตมันสั้นแก่ไม่กี่วินาที ดังนั้นคนที่อยู่ก็ต้องทำความดีกันต่อไปเพราะความดีมันไม่ตาย ไม่จางหาย เป็นสิ่งที่ยังยืน ส่วนคนที่ทำก็ต้องได้รับผลกรรมตอบสนอง สุดท้ายขอแสดงความเสียใจแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต
โดยคุณ ่[email protected] 30 พ.ย. 542, 00:00

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก