คำพิพากษาฎีกาที่ 3324/2568

บทความวันที่ 9 ธ.ค. 2568, 11:47

มีผู้อ่านทั้งหมด 255 ครั้ง

ผู้ขายผิดสัญญาต้องคืนเงินมัดจำให้ผู้ซื้อ

คำพิพากษาฎีกาที่ 3324/2568
ความมุ่งหมายของโจทก์ที่ต้องการซื้อที่ดินพิพาทไปใช้เป็นสถานที่ประกอบกิจการโรงงานและคู่สัญญาประสงค์ให้โจทก์ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (รง4/13 (2)) ก่อนการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทพร้อมชำระราคางวดสุดท้าย จึงระบุข้อกำหนดเกี่ยวกับผลสำเร็จแห่งการขอใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (รง4/13(2)) บนที่ดินพิพาทให้โจทก์ได้เป็นข้อสำคัญที่จะทำให้การซื้อขายที่ดินพิพาทให้โจทก์ได้เป็นข้อสำคัญที่จะให้การซื้อขายที่ดินพิพาทสำเร็จลง  หากการขอใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานไม่สำเร็จตามข้อกำหนด การซื้อขายที่ดินพิพาทย่อมไม่อาจเกิดขึ้นได้ โดยข้อ 2.1 และหมายเหตุตอนท้ายของสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินระบุให้เป็นหน้าที่ของจำเลยที่ 2 ที่ต้องจัดการเรื่องขอใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (รง 4/13(2)) ให้โจทก์ โดยจำเลยที่ 2 ตกลงและลงลายมือชื่อในสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินในฐานะผู้ร่วมสัญญา  เมื่อมัดจำซึ่งให้ไว้เป็นประกันการที่จะปฏิบัติตามสัญญาและสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินต้องเลิกกันเพราะโจทก์ไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการภายในกำหนดเวลาดังกล่าว โดยมิใช่ความผิดของโจทก์ผู้วางมัดจำ กรณีไม่มีหน้าที่ตามสัญญาอันมีมัดจำเป็นหลักประกันที่โจทก์ต้องปฎิบัติ โจทก์ชอบที่จะได้รับเงินมัดจำคืน จำเลยที่ 1 ผู้จะขายซึ่งรับมัดจำไว้ไม่มีสิทธิริบมัดจำตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 377, 378(2) ต้องคืนแก่โจทก์ และจำเลยที่ 2 ซึ่งทำข้อตกลงยอมรับผิดคืนเงินมัดจำพร้อมดอกเบี้ยนับแต่วันที่รับมัดจำไว้ตามสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินและหมายเหตุตอนท้ายต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ด้วย

ปรึกษาข้อกฎหมายสอบถาม 02-948-5700 หรือ 081-616-1425 หรือ 081-625-2161, 081-821-7470