การเพิกถอนการฉ้อฉล|การเพิกถอนการฉ้อฉล

การเพิกถอนการฉ้อฉล

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

การเพิกถอนการฉ้อฉล

  • Defalut Image

คำพิพากษาฎีกาที่ 3107/2568

บทความวันที่ 10 พ.ย. 2568, 09:48

มีผู้อ่านทั้งหมด 124 ครั้ง


การเพิกถอนการฉ้อฉล

คำพิพากษาฎีกาที่ 3107/2568
            การเพิกถอนนิติกรรมระหว่างจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 กับจำเลยที่ 5 ซึ่งกระทำโดยไม่สุจริตไม่มีผลกระทบถึงสิทธิของธนาคาร ศ. ผู้รับจำนอง เพราะธนาคาร ศ. เป็นบุคคลภายนอกที่ได้สิทธิมาโดยสุจริตก่อนเริ่มฟ้องคดีขอเพิกถอน  การเพิกถอนการโอนที่ดินให้กลับไปเป็นของจำเลยที่ 1 และที่ 2 ยังคงต้องติดภาระจำนองไปด้วย  ส่วนการที่จำเลยที่ 5 กระทำการโดยไม่สุจริตก่อให้เกิดภาระผูกพันแก่ที่ดิน ทำให้เจ้าหนี้ผู้ถูกการฉ้อฉลไม่อาจบังคับชำระหนี้แก่ที่ดินโดยปลอดจำนองได้เป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ที่อาจบังคับชำระหนี้จากที่ดินได้ไม่ครบถ้วน  เมื่อโจทก์มิได้ใช้สิทธิเรียกร้องจากจำเลยที่ 5 ในส่วนนี้จึงไม่อาจบังคับให้ได้
           จำเลยที่ 1 จดทะเบียนให้ที่ดินแก่จำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นบุตรโดยเสน่หาไม่มีค่าตอบแทน จำเลยที่ 1 เป็นผู้รู้ฝ่ายเดียวก็เพียงพอที่ ก. ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ของจำเลยที่ 1 และที่ 2 จะใช้สิทธิฟ้องขอให้เพิกถอนการโอนที่ดินได้  ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 237 วรรคแรก เมื่อ ก. โอนสิทธิเรียกร้องให้แก่โจทก์และบอกกล่าวการโอนสิทธิเรียกร้องไปยังจำเลยที่ 1 และที่ 2 แล้ว โจทก์ผู้รับโอนสิทธิเรียกร้องย่อมยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้จำเลยที่ 1  และที่ 2 ผู้เป็นลูกหนี้รวมทั้งยกขึ้นต่อสู้บุคคลภายนอกได้ด้วยตามมาตรา 306 วรรคแรก  แม้โจทก์มิใช่เจ้าหนี้ของจำเลยที่ 1 ในขณะที่จำเลยที่ 1 จดทะเบียนยกที่ดินให้แก่จำเลยที่ 3 แต่โจทก์รับโอนสิทธิเรียกร้องมาแล้วย่อมมีฐานะเป็นเจ้าหนี้เช่นกัน ซึ่งต้องได้รับการคุ้มครองสิทธิของเจ้าหนี้เช่นเดียวกับเจ้าหนี้เดิมที่โอนสิทธิเรียกร้องและมีสิทธิขอเพิกถอนนิติกรรมฉ้อฉลตามมาตรา 237
        แม้โจทก์มีสิทธิฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมฉ้อฉลระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 3 แต่ไม่อาจกระทบกระทั่งถึงสิทธิของจำเลยที่ 7 ถึงที่ 9 บุคคลภายนอกที่รับโอนที่ดินโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทนได้ เมื่อสภาพแห่งหนี้ไม่เปิดช่องให้เพิกถอนการโอนที่ดินให้กลับไปเป็นของจำเลยที่ 1 ได้  การกระทำของจำเลยที่ 3 ทำให้เจ้าหนี้ผู้ถูกการฉ้อฉลไม่อาจบังคับชำระหนี้จากที่ดินได้  ย่อมทำให้เจ้าหนี้ได้รับความเสียหายซึ่งเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ที่ไม่อาจบังคับชำระหนี้ตามคำพิพากษาจากที่ดินได้  แต่โจทก์มิได้ใช้สิทธิเรียกร้องจากจำเลยที่ 3 ในส่วนนี้จึงไม่อาจกำหนดให้ได้เพราะเป็นการพิพากษาเกินคำขอ

ปรึกษาข้อกฎหมายสอบถาม 02-948-5700 หรือ 081-616-1425 หรือ 081-625-2161, 081-821-7470

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก