จำเลยย้ายออกจากทะเบียนบ้านเดิม โดยไม่แจ้งย้ายเข้า จึงไม่ทราบว่าจำเลยอยู่ที่ไหนถือว่ามีภูมิลำเนาอยู่ที่เดิม|จำเลยย้ายออกจากทะเบียนบ้านเดิม โดยไม่แจ้งย้ายเข้า จึงไม่ทราบว่าจำเลยอยู่ที่ไหนถือว่ามีภูมิลำเนาอยู่ที่เดิม

จำเลยย้ายออกจากทะเบียนบ้านเดิม โดยไม่แจ้งย้ายเข้า จึงไม่ทราบว่าจำเลยอยู่ที่ไหนถือว่ามีภูมิลำเนาอยู่ที่เดิม

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

จำเลยย้ายออกจากทะเบียนบ้านเดิม โดยไม่แจ้งย้ายเข้า จึงไม่ทราบว่าจำเลยอยู่ที่ไหนถือว่ามีภูมิลำเนาอยู่ที่เดิม

  • Defalut Image

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5128/2562    

บทความวันที่ 31 ก.ค. 2568, 13:35

มีผู้อ่านทั้งหมด 390 ครั้ง


จำเลยย้ายออกจากทะเบียนบ้านเดิม โดยไม่แจ้งย้ายเข้า จึงไม่ทราบว่าจำเลยอยู่ที่ไหนถือว่ามีภูมิลำเนาอยู่ที่เดิม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5128/2562    
                   โจทก์ในฐานะผู้ประกอบธุรกิจฟ้องจำเลยผู้บริโภคเป็นคดีผู้บริโภคขอให้บังคับจำเลยชำระหนี้ตามสัญญาบัตรเครดิตและสัญญากู้ยืมเงินซึ่งเป็นกรณีที่ พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ.2551 มาตรา 17  บัญญัติให้ผู้ประกอบธุรกิจเสนอคำฟ้องต่อศาลที่ผู้บริโภคมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาลได้เพียงแห่งเดียว
                  เดิมจำเลยมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านอันเป็นภูมิลำเนาที่โจทก์ระบุมาในคำฟ้อง แต่จำเลยแจ้งย้ายออกจากทะเบียนบ้านหลังนี้แล้ว ก่อนที่โจทก์จะฟ้องคดีและนับตั้งแต่วันที่จำเลยแจ้งย้ายออกจากทะเบียนบ้างดังกล่าวจนถึงวันฟ้องเป็นเวลากว่า 9 เดือนไม่ปรากฎจากฐานข้อมูลการทะเบียนราษฎรว่า จำเลยแจ้งย้ายเข้าอยู่ในทะเบียนบ้านหลังใด  การเปลี่ยนภูมิลำเนานั้น ป.พ.พ.มาตรา 41 บัญญัติว่า " ภูมิลำเนาย่อมเปลี่ยนไปด้วยการย้ายถิ่นที่อยู่พร้อมด้วยเจตนาปรากฎชัดแจ้งว่าจะเปลี่ยนภูมิลำเนา" การที่จำเลยแจ้งย้ายออกจากทะเบียนบ้านหลังเดิม  โดยไม่แจ้งย้ายเข้าทะเบียนบ้านหลังอื่นและปล่อยให้อยู่ในสภาพเช่นนี้ตลอดมา  นับแต่เรื่องที่ผิดปกติทำให้ไม่อาจทราบได้ว่าจำเลยไปอยู่ ณ ที่ใด เป็นพฤติการณ์ที่ส่อแสดงให้เห็นว่า จำเลยมิได้มีเจตนาย้ายถิ่นที่อยู่หรือมีเจตนาที่จะเปลี่ยนภูมิลำเนาอย่างแท้จริงแต่เพียงกระทำเพียงเพื่อมิให้โจทก์ติดตามหาที่อยู่ของจำเลยได้พบเท่านั้น จึงต้องถือว่า จำเลยยังคงมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตอำนาจศาลชั้นต้น โจทก์จึงชอบที่จะเสนอคำฟ้องต่อศาลชั้นต้นได้

ปรึกษาข้อกฎหมายสอบถาม 02-948-5700 หรือ 081-616-1425 หรือ 081-625-2161, 081-821-7470

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก