งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ
ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ
สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ
รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ
ฟ้องคดีโดยสุจริตตามความเข้าใจของตัวเอง ทั้งทางแพ่งและทางอาญา ไม่เป็นการกระทำละเมิด
#ฟ้องเท็จ #กลั่นแกล้งฟ้องร้องผู้อื่น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2138/2567
โจทก์ที่ 1 ให้คนงานนำแท่งหินไปปิดกั้นประตูทางเข้าออกระหว่างที่ดินของโจทก์ที่ 1 กับที่ดินของจำเลยเป็นเหตุให้จำเลยและบริวารไม่สามารถใช้ถนนคอนกรีตในที่ดินของโจทก์เป็นทางเข้าออกสู่ซอยท่าดินแดง 18 ตามที่เคยตกลงไว้กับ จ.อ.และ ศ. เจ้าของที่ดินเดิมแม้ตามบันทึกข้อตกลงยินยอมให้ใช้ทางเข้าออกมีข้อตกลงว่าบุคคลทั้งสามไม่ได้ยินยอมให้จำเลยใช้ทางเพื่อให้ได้ภาระจำยอม และศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ยกฟ้องคดีแพ่งที่จำเลยฟ้องโจทก์ที่ 1 ขอให้เปิดทางภาระจำยอมเพราะโจทก์ที่ 1 ให้คนงานนำแท่งหินไปปิดกั้นทางที่จำเลยและบริวารใช้เป็นทางสัญจรมาเป็นเวลานานเกินกว่า 10 ปี แล้ว จำเลยอาจสำคัญผิดว่าถนนคอนกรีตในที่ดินของโจทก์ที่ 1 ซึ่งเป็นทางเข้าออกสู่ซอยท่าดินแดง 18 ตกเป็นทางภาระจำยอมแก่ที่ดินของจำเลยโดยผลของกฎหมายก็เป็นได้ ส่วนในคดีอาญาที่จำเลยฟ้องโจทก์ที่ 1 ข้อหาร่วมกันใช้ให้ผู้อื่นบุกรุกรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ จำเลยก็ขอถอนคำฟ้องก่อนศาลไต่สวนมูลฟ้อง บ่งชี้ว่าจำเลยมิได้มีเจตนาจงใจกลั่นแกล้งคดีเพื่อทำให้โจทก์ที่ 1 ต้องรับผิดทางอาญาและได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะตามทางนำสืบของโจทก์ทั้งสามไม่ปรากฎว่าจำเลยรับรู้ถึงการลงทุนก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์ของโจทก์ที่ 1 หรือมีส่วนได้ส่วนเสียเป็นคู่แข่งขันทางธุรกิจกับโจทก์ที่ 1 เช่นนี้ยังไม่่พอฟังว่าการฟ้องคดีแพ่งและคดีอาญาของจำเลยเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริตกลั่นแกล้งโจทก์ที่ 1 โดยมีเจตนามุ่งประสงค์ให้โจทก์ที่ 1 เสียโอกาสในการลงทุนก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์และสูญเสียรายได้จากการประกอบกิจการโดยตรงถือไม่ได้ว่าเป็นการละเมิดต่อโจทก์
ปัญหาว่าการกระทำของจำเลยเป็นละเมิดต่อโจทก์ที่ 1 หรือไม่ จำเลยยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ไว้ในคำให้การและคำแก้ฎีกา เป็นประเด็นแห่งคดีซึ่งศาลฎีกาชอบที่จะยกขึ้นวินิจฉัยได้ และเมื่อการกระทำของจำเลยไม่เป็นการละเมิดต่อโจทก์ที่ 1 แล้ว ย่อมถือไม่ได้ว่าเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ที่ 2 และที่ 3 เช่นเดียวกัน โจทก์ทั้งสามไม่มีอำนาจฟ้อง
มีปัญหาข้อกฎหมายสอบถาม 02-948-5700 หรือ 081-616-1425 หรือ 081-625-2161, 081-821-7470