คำพิพากษาฎีกาที่ 3525/2567

บทความวันที่ 24 ก.พ. 2568, 11:42

มีผู้อ่านทั้งหมด 542 ครั้ง

ไฟแนนซ์เรียกค่าส่วนต่างไม่ได้ เรียกได้เฉพาะใช้รถชำรุดบกพร่องเท่านั้น
#ไฟแนนซ์ #ค่าส่วนต่าง #คืนรถ #ชำรุดบกพร่อง #ขายทอดตลาด
คำพิพากษาฎีกาที่ 3525/2567
    โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 2 และที่ 3 ให้รับผิดโดยอาศัยอำนาจแห่งมูลหนี้ตามคำพิพากษาของศาลในคดีก่อนที่พิพากษาให้จำเลยที่ 2 และที่ 3 ต้องคืนรถที่เช่าซื้อในสภาพที่เรียบร้อยใช้การได้ดี เมื่อรถที่เช่าซื้อที่คืนโจทก์ไม่อยู่ในสภาพที่เรียบร้อยใช้การได้ดี จึงเป็นการชำระหนี้ที่ไม่ต้องตามความประสงค์อันแท้จริงแห่งมูลหนี้ตามคำพิพากษาในคดีก่อนโจทก์จึงเป็นเจ้าหนี้จะเรียกเอาค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอันเกิดแต่การนั้นก็ได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 215 อันเป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นใหม่ โจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 2 และที่ 3 ให้ชำระค่าเสียหายตามฟ้อง
    ค่าขาดราคารถที่คำนวณจากส่วนต่างของเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดกับราคารถใช้แทนตามคำพิพากษาในคดีก่อนใช้เป็นข้อพิสูจน์ถึงความชำรุดของรถได้ เพราะมิใช่ความเสียหายที่แท้จริงอันเกิดจากความชำรุดทรุดโทรมของรถที่เช่าซื้อที่เกิดจากการใช้รถโดยปราศจากความระมัดระวังเยี่ยงวิญญูชนพึงใช้ เช่นนี้ค่าขาดราคารถมิใช่ค่าเสียหายอันเนื่องจากการคืนรถที่เช่าซื้อที่ไม่อยู่ในสภาพที่เรียบร้อยและใช้การได้ดีที่จำเลยที่ 2 และที่ 3 ต้องรับผิดตามคำพิพากษาในคดีก่อน โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกให้จำเลยที่ 2 และที่ 3 ชำระค่าเสียหายเป็นค่าขาดราคารถได้
    แม้จำเลยที่ 2 และที่ 3 ขาดนัดยื่นคำให้การแต่ศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดให้โจทก์เป็นฝ่ายชนะคดีโดยจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การมิได้ เว้นแต่ศาลเห็นว่าคำฟ้องของโจทก์มีมูลและไม่ขัดต่อกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 198 ทวิ โจทก์อ้างส่งบันทึกการตรวจสภาพและส่งมอบรถยนต์และภาพถ่ายรถยนต์ที่ส่งคืนซึ่งปรากฏว่ารถที่เช่าซื้อมีสภาพชำรุดและได้รับความเสียหายหลายประการ เช่น กระจังหน้ารถ ไฟหน้า ไฟเลี้ยว กระจกบังลมหน้ารถ และไม่มีฝาปิดกระบะท้ายรถ ดังนั้น ฟ้องโจทก์มีมูลว่ารถที่เช่าซื้อที่โจทก์ได้คืนมานั้นมีความชำรุดบกพร่องที่เกิดจากการใช้รถโดยปราศจากความระมัดระวังเยี่ยงวิญญูชนพึงใช้ แม้โจทก์มิได้นำสืบว่าการซ่อมแซมรถที่เช่าซื้อให้อยู่ในสภาพที่เรียบร้อยใช้การได้ดีนั้นต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นเงินจำนวนเท่าใด ศาลฎีกาเห็นควรกำหนดค่าเสียหายอันเนื่องจากการคืนรถที่เช่าซื้อที่ไม่อยู่ในสภาพที่เรียบร้อยและใช้การได้ดีให้
    หนี้ที่จำเลยที่ 2 และที่ 3 ต้องรับผิดต่อโจทก์เป็นค่าสินไหมทดแทนที่ศาลกำหนดค่าเสียหายตามคำพิพากษาในคดีก่อนที่จำเลยทั้งสามต้องผูกพันรับผิดร่วมกันจนกว่าชำระหนี้เสร็จสิ้น โดยจำเลยที่ 1 ลูกหนี้ตามคำพิพากษาคดีก่อนต้องผูกพันชำระหนี้เป็นอย่างเดียวกับจำเลยที่ 2 และที่ 3 จึงเป็นการชำระหนี้อันไม่อาจแบ่งแยกได้ศาลฎีกามีอำนาจพิพากษาให้มีผลไปถึงจำเลยที่ 1 ซึ่งมิได้ฎีกาได้ ตามประมาวกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 245 (1) , 252 ประกอบระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ 2551 มาตรา 7
#ปรึกษาคดี โทร. 081-6161425, 081-8217470, 081-6252161, 02-9485700