จับแล้ว สาวใหญ่ ทุบตีแม่ ผัวโดนด้วยแต่ชี้เมียทำคนเดียว
เมื่อวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปเชิญตัว นางภาพ(นามสมมุติ) และสามี นาย รูป (นามสมมุติ) มาสอบปากคำ เนื่องจากเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่งคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก ได้เข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับสามีภรรยาคู่นี้ เนื่องจากทำร้ายทุบตี นางโฟโต้ (นามสมมุติ) อายุ 82 ปี มารดาของนางภาพให้ทรมานทุกวัน
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามเรื่องที่ทั้งสองคนเมาสุราทำร้ายร่างกาย ซึ่ง นางภาพ ยอมรับว่า ตีมารดาจริงเพราะชอบปีนรั้วเข้าไปในบ้านของคนอื่นและยังเป็นโรคหลงๆลืมๆ ส่วนทางสามีปฏิเสธว่าไม่ได้ทำร้ายร่างกายแม่ยาย มีแค่ภรรยาคนเดียวที่ทำ ตนไม่ได้ยุ่งเกี่ยวด้วย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา ทำร้ายบุพการี
ที่มา : www.dailynews.co.th
ตัวบทกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 289 ผู้ใด
(1) ฆ่าบุพการี
(2) ฆ่าเจ้าพนักงาน ซึ่งกระทำการตามหน้าที่ หรือเพราะเหตุที่จะกระทำ หรือได้กระทำการตามหน้าที่
(3) ฆ่าผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงาน ในการที่เจ้าพนักงานนั้นกระทำตามหน้าที่ หรือเพราะเหตุที่บุคคลนั้นจะช่วยหรือได้ช่วยเจ้าพนักงานดังกล่าวแล้ว
(4) ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
(5) ฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย
(6) ฆ่าผู้อื่นเพื่อตระเตรียมการ หรือเพื่อความสะดวกในการที่จะกระทำความผิดอย่างอื่น หรือ
(7) ฆ่าผู้อื่นเพื่อจะเอา หรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่น เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้
ต้องระวางโทษประหารชีวิต
มาตรา 295 ผู้ใดทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่นนั้น ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 296 ผู้ใดกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ถ้าความผิดนั้น มีลักษณะประการหนึ่งประการใดดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 289 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ