นายจ้างเบี้ยวไม่จ่ายค่าจ้างหรือค่าชดเชยมีสิทธิติดคุก|นายจ้างเบี้ยวไม่จ่ายค่าจ้างหรือค่าชดเชยมีสิทธิติดคุก

นายจ้างเบี้ยวไม่จ่ายค่าจ้างหรือค่าชดเชยมีสิทธิติดคุก

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

นายจ้างเบี้ยวไม่จ่ายค่าจ้างหรือค่าชดเชยมีสิทธิติดคุก

ทนายคลายทุกข์ขอเรียนให้นายจ้างทั้งหลายทราบว่า

บทความวันที่ 24 ม.ค. 2557, 00:00

มีผู้อ่านทั้งหมด 13306 ครั้ง


นายจ้างเบี้ยวไม่จ่ายค่าจ้างหรือค่าชดเชยมีสิทธิติดคุก

            ทนายคลายทุกข์ขอเรียนให้นายจ้างทั้งหลายทราบว่า อย่าได้เบี้ยวค่าจ้างหรือค่าชดเชยกรณีเลิกจ้าง เพราะหากศาลฟังว่ามีเจตนาจะเบี้ยว หมายถึงมีแล้วไม่จ่ายหรือโอนทรัพย์สินหนีหนี้ จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 มาตรา 144 มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรืออาจมีความผิดฐานโกงเจ้าหนี้ ตาม ป.อ.มาตรา 350 ถ้ากระทำกับลูกจ้างหลายคนหลายครั้ง ต่างกรรมต่างวาระ อาจติดคุกหลายปี เมื่อวานนี้ศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาให้จำคุกนายจ้าง ไม่จ่ายค่าจ้างเป็นเวลา 4 เดือน อีกคดีหนึ่งศาลจังหวัดธัญบุรี คดีหลังจำคุก 1 ปี โดยศาลมองว่าเป็นการโกงเจ้าหนี้อีกฐานความผิดหนึ่ง ตาม ป.อ.มาตรา 350 โดยไม่รอลงอาญา โดยศาลเห็นว่าเงินเดือนมีความสำคัญมากกับมนุษย์เงินเดือน เพราะเป็นรายได้ทางเดียวของลูกจ้าง จึงลงโทษสถานหนักเพื่อให้หลาบจำ ไม่ให้บุคคลอื่นเอาเป็นเยี่ยงอย่าง

ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541
มาตรา 70
ให้นายจ้างจ่ายค่าจ้าง ค่างล่วงเวลา ค่าทำงาน ในวันหยุด และค่าล่วงเวลาในวันหยุดให้ถูกต้องและตามกำหนดเวลา ดังต่อไปนี้
           (1) ในกรณีที่มีการคำนวณค่าจ้างรายเดือน รายวัน รายชั่วโมง หรือเป็นระยะเวลาอย่างอื่นที่ไม่เกินหนึ่งเดือน หรือตามผลงานโดย คำนวณเป็นหน่วย ให้จ่ายเดือนหนึ่งไม่น้อยกว่าหนึ่งครั้งเว้นแต่จะ มีการตกลงกันเป็นอย่างอื่นที่เป็นประโยชน์แก่ลูกจ้าง
           (2) ในกรณีที่มีการคำนวณค่าจ้าง นอกจาก (1) ให้จ่ายตาม กำหนดเวลาที่นายจ้างและลูกจ้างตกลงกัน
           (3) ค่าล่วงเวลา ค่าทำงานในวันหยุด และค่าล่วงเวลาในวัน หยุดให้จ่ายเดือนหนึ่งไม่น้อยกว่าหนึ่งครั้ง
           ในกรณีที่นายจ้างเลิกจ้างลูกจ้าง ให้นายจ้างจ่ายค่าจ้าง ค่าล่วง เวลา ค่าทำงานในวันหยุด และค่าล่วงเวลาในวันหยุด ตามที่ลูกจ้าง มีสิทธิได้รับ ให้แก่ลูกจ้างภายในสามวันนับแต่วันที่เลิกจ้าง
มาตรา 118 ให้นายจ้างจ่ายค่าชดเชยให้แก่ลูกจ้างซึ่ง เลิกจ้างดังต่อไปนี้
            (1) ลูกจ้างซึ่งทำงานติดต่อกันครบหนึ่งร้อยยี่สิบวัน แต่ไม่ครบ หนึ่งปี ให้จ่ายไม่น้อยกว่า ค่าจ้างอัตราสุดท้ายสามสิบวัน หรือไม่ น้อยกว่าค่าจ้างของการทำงานสามสิบวันสุดท้ายสำหรับลูกจ้างซึ่ง ได้รับค่าจ้างตามผลงานโดยคำนวณเป็นหน่วย
           (2) ลูกจ้างซึ่งทำงานติดต่อกันครบหนึ่งปี แต่ไม่ครบสามปี ให้จ่ายไม่น้อยกว่าค่าจ้างอัตราสุดท้ายเก้าสิบวัน หรือไม่น้อยกว่า ค่าจ้างของการทำงานเก้าสิบวันสุดท้ายสำหรับลูกจ้างซึ่งได้รับ ค่าจ้างตามผลงานโดยคำนวณเป็นหน่วย
           (3) ลูกจ้างซึ่งทำงานติดต่อกันครบสามปี แต่ไม่ครบหกปี ให้จ่ายไม่น้อยกว่าค่าจ้างอัตราสุดท้ายหนึ่งร้อยแปดสิบวัน หรือไม่น้อยกว่าค่าจ้างของการทำงานหนึ่งร้อยแปดสิบวันสุดท้าย สำหรับลูกจ้างซึ่งได้รับค่าจ้างตามผลงานโดยคำนวณเป็นหน่วย
          (4) ลูกจ้างซึ่งทำงานติดต่อกันครบหกปี แต่ไม่ครบสิบปีให้ จ่ายไม่น้อยกว่าค่าจ้างอัตราสุดท้ายสองร้อยสี่สิบวัน หรือไม่ น้อยกว่าค่าจ้างของการทำงานสองร้อยสี่สิบวันสุดท้ายสำหรับ ลูกจ้างซึ่งได้รับค่าจ้างตามผลงานโดยคำนวณเป็นหน่วย
          (5) ลูกล้างซึ่งทำงานติดต่อกันครบสิบปีขึ้นไป ให้จ่ายไม่น้อย กว่าค่าจ้างอัตราสุดท้ายสามร้อยวันหรือไม่น้อยกว่าค่าจ้างของ การทำงานสามร้อยวันสุดท้ายสำหรับลูกจ้างซึ่งได้รับค่าจ้างตาม ผลงานโดยคำนวณเป็นหน่วย
          การเลิกจ้างตาม มาตรา นี้ หมายความว่า การกระทำใดที่ นายจ้างไม่ให้ลูกจ้างทำงานต่อไปและไม่จ่ายค่าจ้างให้ ไม่ว่าจะ เป็นเพราะเหตุสิ้นสุดสัญญาจ้างหรือเหตุอื่นใด และหมายความ รวมถึงกรณีที่ลูกจ้างไม่ได้ทำงานและไม่ได้รับค่าจ้างเพราะเหตุ ที่นายจ้างไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไป
            ความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับแก่ลูกจ้างที่มีกำหนดระยะ เวลาการจ้างไว้แน่นอนและเลิกจ้างตามกำหนดระยะเวลานั้น
             การจ้างที่มีกำหนดระยะเวลาตามวรรคสามจะกระทำได้ สำหรับการจ้างงานในโครงการเฉพาะที่มิใช่งานปกติของธุรกิจ หรือการค้าของนายจ้างซึ่งต้องมีระยะเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดของ งานที่แน่นอนหรือในงานอันมีลักษณะเป็นครั้งคราวที่มีกำหนด การสิ้นสุด หรือความสำเร็จของงาน หรือในงานที่เป็นไปตาม ฤดูกาลและได้จ้างในช่วงเวลาของฤดูกาลนั้น ซึ่งงานนั้นจะต้อง แล้วเสร็จภายในเวลาไม่เกินสองปีโดยนายจ้างและลูกจ้างได้ ทำสัญญาเป็นหนังสือไว้ตั้งแต่เมื่อเริ่มจ้าง

มาตรา 144 นายจ้างผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม มาตรา 10 มาตรา 22 มาตรา 24 มาตรา 25 มาตรา 26 มาตรา 37 มาตรา 38 มาตรา 39 มาตรา 40 มาตรา 42 มาตรา 43 มาตรา 46 มาตรา 47 มาตรา 48 มาตรา 49 มาตรา 50 มาตรา 51 มาตรา 61 มาตรา 62 มาตรา 63 มาตรา 64 มาตรา 67 มาตรา 70 มาตรา 71 มาตรา 72 มาตรา 76 มาตรา 90 วรรคหนึ่ง กฎกระทรวงที่ออกตาม มาตรา 95 มาตรา 107 มาตรา 118 วรรคหนึ่ง ไม่จ่าย ค่าชดเชยพิเศษตาม มาตรา 120 วรรคหนึ่งหรือวรรคสอง มาตรา 121 วรรคสอง หรือ มาตรา 122 ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกินหกเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
           ในกรณีที่นายจ้างฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม มาตรา 37 มาตรา 38 มาตรา 39 มาตรา 42 มาตรา 47 มาตรา 48 มาตรา 49 หรือ มาตรา 50 เป็นเหตุให้ลูกจ้างได้รับอันตราย แก่กายหรือจิตใจ หรือถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 350
ผู้ใดเพื่อมิให้เจ้าหนี้ของตนหรือของผู้อื่นได้รับชำระหนี้ทั้งหมดหรือแต่บางส่วน ซึ่งได้ใช้หรือจะใช้สิทธิเรียกร้องทางศาลให้ชำระหนี้ ย้ายไปเสีย ซ่อนเร้นหรือโอนไปให้แก่ผู้อื่นซึ่งทรัพย์ใดก็ดี แกล้งให้ตนเองเป็นหนี้จำนวนใดอันไม่เป็นความจริงก็ดี ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
 

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 9

สวัสดีคะ

ดิฉันทำงานคลีนิคแห่งนึง

นายจ้างมีรายได้เข้าทุกวันแต่ไม่ยอมจ่ายเงินเดือนให้แก่พนักงานค้างเงินเดือนกันยายน

ค่าหัตถการตุลาคมเงินเดือนตุลาคม

ทยอยจ่ายทีละพัน2พันเวลาทวงก็แจ้งว่าไม่มี

แต่ดิฉันอยู่ในตำแหน่งที่เห็นว่าบริษัทมีรายได้ทุกวันแบบนี้เราร้องเรียนที่ไหนได้บ้างคะ

เข้าใจว่าบริษัทอาจมีการบีบพรักงานออกแต่พอดีดิฉันตั้งครรภ์

โดยคุณ วราภรณ์ 6 พ.ย. 2562, 11:34

ความคิดเห็นที่ 8

นายจ้างไม่จ่ายค่าชดเชย เนื่องจากปิดกิจการ

ทวงถามหลายครั้งแล้วบอกยังไม่มีเงิน อย่างเดียวเลย

ควรทำอย่างไร ดีครับ 

(นายจ้างข่มขู่ว่า ถ้าแจ้งประกันสังคม เขาจะไม่ให้เลยสักบาทเดียว)

โดยคุณ พีพี 16 พ.ค. 2562, 00:28

ความคิดเห็นที่ 7

ขอสอบถามหน่อยค่ะ คือทางบริษัท ไม่ยอมจ่ายค่าชดเชยทั้งที่ทางกรมแรงงานเขียนคำสั่งให้จ่ายและลงความเห็นว่าทางบริษัท ผิดที่ไม่ทำหนังสือตักเตือนก่อนแม้เหตุจะเกิดจากการทะเลาะวิวาทเหตุหลังเวลาเลิกงานและภายนอกเขตบริษัทด้วยแต่บริษัทยืนยันไม่จ่ายไปยืนอุทรและดิฉันควรจะทำเช่นไรดีค่ะจะได้ค่าชดเชยหรือไม่ค้ะ

โดยคุณ น.ส.พัชรีพร บุญภู่ 18 มี.ค. 2562, 10:51

ตอบความคิดเห็นที่ 7

สามารถฟ้องเป็นคดีต่อศาลเพื่อเรียกค่าชดเชย โดยนำคำสั่งของกรมแรงงานแนบไปด้วย 

โดยคุณ ทีมงานทนายคลายทุกข์ 23 เม.ย. 2562, 11:20

ความคิดเห็นที่ 6

ขอสอบมหน่อยครับ...ผมยื้นเรื่อง..นายจ้าให้ผมอกก..โดยไม่เป็นธรรม....แล้ว...ผมเข้าแจ้งที่กรมสวัสดิการและกรรมแรงงานวันที9 .มค62. เค้าทำหนังสือไปสองรอบแล้ว..แต่าเค้าเฉย...เหมือนเค้าไม่จ่าย...แล้วนายจ้างผมอยุ่ประเทศจีน......แล้วมันจะเป็นยังไงต่อครับ...และผมควรทำอย่างไรต่อ

โดยคุณ อนุชา 6 ก.พ. 2562, 13:42

ความคิดเห็นที่ 5

ผมทำงานประจำเรือขุดเจาะน้ำมัน ซึ่งเป็นการทำงานนอกชายฝั่ง ซึ่งการทำงานนอกชายฝั่ง่จะมีการทำงานต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง จึงมีการกำหนดการทำงานไว้เป็น  2 กะ คือ กะละ 12 ชั่วโมง กะแรก 06:00-18:00 น. และ 18:00 - 06:00 น.


ผมถูกว่าจ้างไปทำงานในตำแหน่งงานเดียวมาโดยตลอด ตั้งแต่วันแรก จนถึงวันที่ถูกเลิกจ้าง เพื่อไปทำงานกะกลางวัน คือ 06:00-18:00 น. โดยนายจ้างตกลงค่าจัางไว้ที่ 6,000 บาท ต่อ วัน โดยมีการระบุในสัญญาแจกแจงรายละเอียดว่า จ่าค่าจ้างในส่วน 8 ชั่วโมงแรกคิดในอัตราปกติเท่าไหร่ และ อีก 4 ชั่วโมงคิดในอัตราโอทีเท่าไหร่ โดยรวมสุดท้ายแล้ว เท่ากับ 6,000 บาท (8 ขั่วโมง + 4 ชั่วโมง OT = 6,000 บาท)


โดยหากมีการทำงานหลัง 18:00 น. ผมต้องลงใน Time Sheet เพิ่มเติมว่าเป็น OT แล้วแต่หน้างานว่าวันไหนมีหรือไม่มี


จำนวนวันที่ทำงานปกติ คือ ทำงาน 28 วัน แล้วขึ้นมาพัก 28 วัน  

วันที่ลงทำงานจะได้ค่าจ้าง แต่สำหรับวันที่ไม่ได้ลงทำงานจะไม่ได้รับค่าจ้าง 

ตารางการทำงานจะมีการกำหนดไว้อย่างชัดเจนล่วงหน้า และต่อเนื่องมาโดยตลอด



การจ่ายเงิน นายจ้างจะจ่ายให้ในส่วนค่าจ้างปกติก่อน ในวันก่อนครบรอบสิ้นสุดการทำงาน คือ 28 วัน  x 6,000 บาท = 168,000 บาท บวกอีก 4 วัน เพราะผมทำงานต่อเนื่อง 28 วันไม่มีวันหยุด โดยที่จะมีวันอาทิตย์อยู่อีก 4 วัน ซึ่งถือว่าเป็นวันหยุด นายจ้างจะจ่ายเพิ่มอีก 4 วัน x 6,000 = 24,000 บาท  ซึ่งทุกรอบการทำงานที่ลงทำงานปกติ ผมจะได้รับค่าจ้างตามปกติ คือ 192,000 บาท (168,000+24000 บ.) เท่ากันทุกๆรอบการทำงาน เป็นปกติ ตลอดระยะเวลาที่ทำงานมา 20 ปี 


และหลังจากขึ้นฝัง นับไปอีก 10 วัน นายจ้าจะจ่ายในส่วนที่เหลือ คือ OT ซึ่งเป็น OT ที่เกิดขึ้นหลังจาก 18:00 น ตาม Time Sheet ที่ผมส่งให้ก่อนขึ้นฝั่ง


แต่เมือถูกเลิกจ้างนายจ้างจ่ายค่าชดเชย 300 วัน และ ค่าบอกกล่าวล่วงหน้า 30 วัน ครบ แต่จำนวนยอดเงินที่จ่ายกับกลายเป็นว่า 


เอาแค่ยอดของ 8 ชั่วโมง มาคิดคำนวณในการจ่ายชดเชยเท่านั้น ซึงไม่ใช่ยอด 6, 000 บาท ต่อวัน ซึ่งน้อยกว่า ที่ตกลงไว้ในการจ้างงาน คือ วันละ 6,000 บาท ต่อวัน ต่อการทำงาน 12 ชั่วโมง ที่เกิดจากยอดชั่วโมงการทำงานปกิตทั่วไป 8 ชั่วโมง + ยอดชั่วโมงการทำงานที่คิดอัตราโอที 4 ชั่วโมง)  


เพราะมันขัดกับมาตรา 5 อย่างชัดเจน ในเรื่องของ "ค่าจ้าง" 


ดังนั้นผมสมควรฟ้องร้อง เพื่อให้นายจ้างจ่ายเพิ่มในส่วนต่างได้ ใช่หรือไม่่ พรอมทั้งอัตราดอกเบี้ยเช่นเดียวกัน


เรียนมาเพื่อปรึกษา ความคิดเห็น เพราะ OT 4 ชั่วโมง นายจ้างต้องเอามาคิดคำนวณเป็นฐานการจ่ายค่าชดเชยด้วยเพราะเป็นค่าจ้างปกติ ซึ่งตากจาก OT ที่เกิดขึ้นหลัง 18:00 น ที่ไม่ต้องเอามาคิด แต่นายจ้างใช้ช่องว่าคำว่า OT แต่อย่าลืมว่า OT 4 ชั่วโมงนั้นแตกต่างกัน เพราะต้องทำไม่ทำไม่ได้ และนายจ้างก็จ่ายเป็นปกติดทุกวันอยู่แล้ว แต่จะไม่จ่ายตอนเวลาเลิกจ้างนี่ไม่น่าจะถูกต้องนัก


(การทำงานนอกชายฝัง บนเรือขุดเจาะน้ำมันจะทำงานและกินอยู่กลางทะเลเป็นจำนวน 28 วัน ต่อเนื่องไม่มีการกลับขึ้นฝั่งจนกว่าจะครบรอบวันการทำงาน คือ 28 วัน)


อดิศักด์ ชูชาติ




โดยคุณ อดิศักด์ ชูชาติ 28 พ.ย. 2561, 16:47

ความคิดเห็นที่ 4

ผมทำงานกับบริษัท เป็นเวลา 7 เดือน พอต้นเดือนมิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา ผมยื่นหนังสือลาออก โดยขอให้มีผลภายใน 30 วัน แต่ปรากฎว่า บริษัท ไม่ยอมจ่ายเงินเดือน(ค่าจ้าง)ของเดือนที่ผ่านมา(เดือนพฤษภาคม) พอทวงถามก็ได้รับคำตอบ เบื้องต้นว่า ต้องเคลียร์งานให้เรียบร้อยก่อน และต้องเซนต์ข้อตกลงที่บริษัทจัดทำขึ้น ให้เรียบร้อย ซึ่งข้อเท็จจริง ผมก็ยังมีสถานะเป็นพนักงานบริษัทนี้อยู่อีกตั้ง30 วัน เรื่องเคลียร์งาน และเซนต์ข้อตกลง ผมไม่ติดใจอยู่แล้ว แต่เงินเดือนของเดือนที่ผ่านมา ทำไมต้องมากักไว้ไม่จ่ายทั้งที่มันไม่เกี่ยวกันมันคนละเดือนกัน  เออถ้าเดือนมิถุนายน ผมไม่เคลียร์งานที่คั้งค้าง หรือไม่เซนต์ข้อตกลงตามที่บริษัทจัดทำขึ้น สิ้นเดือนมิถุนายน ไม่จ่ายเงินเดือนให้ผม อันนี้ผมก็ยังรับได้ แต่นี้เป็นค่าจ้างคนละเดือนและผมก็ทำงานครบเดือนแล้วแต่ยังไม่จ่าย กรณีเช่นนี้ จะทำอย่างไรกับนายจ้าง ช่วยชี้แนะด้วย ณ วันนี้ผมยอมบริษัทเพื่อให้ได้รับเงินเดือนในสิทธฺของผม  บริษัทยื้อมาหลายวันแล้ว มันแปลกและเจ็บปวดมาก

รบกวนให้คำแนะนำผมด้วย 

เบอร์ติดต่อ 062-5949292

โดยคุณ นายธนโชติ พันธุมาศ 6 มิ.ย. 2561, 14:54

ความคิดเห็นที่ 3

ฉันหยากถามว่าฉันทำงานเกือบ3ปีแล้วลาอออกแต่วันหยุดยังใช้ไม่หมดแต่เจ้านายไม่ยอมจ่าย แล้วยังบอกว่าไม่หยุดทั้งทีเราหยุดไม่มีใครทำแทน จะหยุดทีถามแล้วถามอีกแล้วจะเรียกร้องได้มัย


โดยคุณ ลิน 4 พ.ค. 2561, 00:01

ความคิดเห็นที่ 2

สวัสดีครับ

นายจ้างไม่ยอมจ่ายค่าชดเชยตอนเลิกจ้างโดยอ้างว่าไม่มีเงิน แต่ยังคงจ้างพนักงานใหม่และขึ้นเงินเดือนให้พนักงานบางคน ทางเราสามารถทำอะไรได้บ้างครับ รบกวนด้วยครับ ขอบคุณครับ

โดยคุณ ปณิธิ 6 มี.ค. 2561, 11:05

ความคิดเห็นที่ 1

บริษัทฯ หักเงินเนื่องจากสแกนนิ้วเข้างานแต่ไม่ขึ้นในระบบ แต่มีเอกสารยืนยันการมาทำงานจริง 
แล้วระเบียบบริษัทฯให้แจ้งเพื่อปรับเวลาภายใน 3 วันแต่เกินกำหนด พอเงินเดือนออกก็หักเงินเลย แบบนี้นายจ้างผิดไหมค่ะ แล้วเราเป็นพนักงานควรทำอย่างไรดีค่ะ


...รบกวนขอคำแนะนำค่ะ.... ขอบพระคุณมากๆค่ะ
โดยคุณ เพ็ญพรรณ 1 ก.พ. 2561, 11:38

ตอบความคิดเห็นที่ 1

แนะนำให้ปรึกษาพนักงานตรวจแรงงานได้เลยครับ

โดยคุณ ทีมงานทนายคลายทุกข์ 22 ก.พ. 2561, 16:29

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก