การตามหนี้ที่เป็นธรรม|การตามหนี้ที่เป็นธรรม

การตามหนี้ที่เป็นธรรม

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

การตามหนี้ที่เป็นธรรม

วันนี้ทนายคลายทุกข์ ขอนำประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ฉบับที่ 46/2550 เรื่องแนวปฎิบัติในการติดตามทวงถามหนี้และสรุปผลการสัมมนาคณะกรรมาธิการการคลัง การธนาคารและสถาบันการเงิน

บทความวันที่ 14 มิ.ย. 2549, 00:00

มีผู้อ่านทั้งหมด 3984 ครั้ง


การตามหนี้ที่เป็นธรรม

 

 

การตามหนี้ที่เป็นธรรม

 

 

            วันนี้ทนายคลายทุกข์ ขอนำประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ฉบับที่ 46/2550 เรื่องแนวปฎิบัติในการติดตามทวงถามหนี้และสรุปผลการสัมมนาคณะกรรมาธิการการคลัง การธนาคารและสถาบันการเงิน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ร่วมกับบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด เรื่อง จัดระเบียบสังคม: การตามหนี้ที่เป็นธรรม ในวันอาทิตย์ ที่ 30 กันยายน 2550    ห้องประชุมจูปีเตอร์ ชั้น 3 โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ มานำเสนอให้เพื่อนสมาชิกได้รับทราบไว้ว่า ในอนาคตจะมีกฎหมายเกี่ยวกับการทวงหนี้มาบังคับใช้กับนักทวงหนี้ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อนักทวงหนี้และลูกหนี้

 

 

เอกสารประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยและสรุปผลการสัมมนา ศึกษาเพิ่มเติมได้จากด้านล่างนี้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 18

Luogo molto interessante. Speranza sar
โดยคุณ Ozujvtsa 30 พ.ย. 542, 00:00

ความคิดเห็นที่ 17

fo158.txt;1;2
โดยคุณ bYWTAZfW 30 พ.ย. 542, 00:00

ความคิดเห็นที่ 16

The reason
โดยคุณ Handy 30 พ.ย. 542, 00:00

ความคิดเห็นที่ 15

The reason
โดยคุณ Handy 30 พ.ย. 542, 00:00

ความคิดเห็นที่ 14

The reason
โดยคุณ Handy 30 พ.ย. 542, 00:00

ความคิดเห็นที่ 13

The reason
โดยคุณ Handy 30 พ.ย. 542, 00:00

ความคิดเห็นที่ 12

The reason
โดยคุณ Handy 30 พ.ย. 542, 00:00

ความคิดเห็นที่ 11

The reason
โดยคุณ Handy 30 พ.ย. 542, 00:00

ความคิดเห็นที่ 10

สวัสดี
โดยคุณ ไผ่ 30 พ.ย. 542, 00:00

ความคิดเห็นที่ 9

เพื่อนของผมเป็นหนี้ค่าบริการโทรศัพย์รายเดือนของผู้ให้บริการรายหนึ่ง เป็นเงิน ประมาณ 850 บาท และยังไม่ได้ไปชำระหนี้ีนั้นเป็นเวลาล่วงกว่า3เดือนแล้ว ทั้งยังไม่ได้บอกเลิกสัญญาให้บริการนั้นให้ระงับสิ้นไป (ค่าบริกายรายเดือน 89 บาทต่อเดือน เขาจะยังคิดค่าบริการต่อไปหรือไม่หากเราไม่ได้ไประงับสัญญา) จะมีผลอย่างไรในทางกฎหมายบ้างครับ ขอคำแนะนำจากทีมงานทนายคลายทุกข์หรือเพือ่นสมาชิกหน่อยครับหน่อยครับ
โดยคุณ โดยคุณ R3605... 30 พ.ย. 542, 00:00

ความคิดเห็นที่ 8

มีปัญหาอยากถามค่ะ ดิฉันติดแบ็คลิส ของ แคปปิตอลโอเค ค้างอยู่ไม่กี่พัน แต่โทรไปเช็คแล้วเค้าไม่มีข้อมูลค้างจ่ายของดิฉัน แล้วทำให้มีปัญหา คือดิฉันไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงินใดๆได้เลย แล้วดิฉันต้องทำอย่างไรค่ะอยากจะปิดบัญชี แล้วก็อยากให้ตัวเองพ้นจากสภาพการติดแบ็คลิสด้วยคะ รบกวนเมลล์ตอบกลับมาที่ [email protected] ก็ได้นะค่ะ หรือ [email protected] ก็ได้ค่ะ จะรอความช่วยเหลือนะค่ะ
โดยคุณ [email protected] 30 พ.ย. 542, 00:00

ความคิดเห็นที่ 7

เงื่อนไขแตกต่างกันเพียง 10,000 บาทเท่านั้นคุณยังมีสิทธิเสนอเงื่อนไขกับทนายเจ้าหนี้อีกต่อไป ผมเชื่อว่าสุดท้ายเจ้าหนี้คงตกลงต้องรอหน่อยนะครับ !!!
โดยคุณ อ.เดชา กิตติวิทยานันท์ 30 พ.ย. 542, 00:00

ความคิดเห็นที่ 6

อ.เดชา บรรยายเทคนิคการทวงหนี้ เมื่อวันเสาร์ที่ 15 ก.ย. 2550 อ.เดชา กิตติวิทยานันท์ ได้รับเชิญจากบริษัท TRANE ผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศชั้นนำของโลก ไปบรรยายเกี่ยวกับศิลปะการทวงหนี้ เทคนิคติดตามหนี้อย่างมีประสิทธิภาพที่โรงแรมจัสมิน ซอยสุขุมวิท23 โดยมีหัวข้อการบรรยายที่น่าสนใจข้างล่างนี้ โดยสรุปเนื้อหาการบรรยายเป็นหัวข้อได้ดังนี้คือ 1. ก่อนยกหูโทรศัพท์ทวงหนี้ต้องตรวจสอบยอดหนี้ เช่น เงินต้นและดอกเบี้ยให้ดีก่อนเพื่อป้องกันการถูกโต้แย้งลูกจากลูกหนี้ 2. ห้ามใช้อารมณ์กับลูกหนี้ให้ฟังลูกหนี้พูดให้จบก่อนและต้องฟังอย่างตั้งใจ 3. อย่าพูดจาเสียดสี ข่มขู่ หรือท้าทายลูกหนี้อาจทำให้การสนทนาต้องจบลง 4. การเดินทางไปพบลูกหนี้อย่านัดหมาย ถ้านัดหมายโอกาสที่จะเจอลูกหนี้จะมีน้อยมาก เนื่องจากลูกหนี้ผิดนัด 5. ต้องอดทนอย่าท้อถอย ถ้าต้องนั่งรอลูกหนี้หรือ ต้องเจรจาหนี้หลายครั้ง 6. การทวงหนี้ต้องทำงานเป็นทีม คนใช้อารมณ์ไม่ควรทำหน้าที่ทวงหนี้ ควรทำหน้าที่ผู้สนับสนุนการทวงหนี้ เช่น การชี้เป้า, หาข้อมูลลูกหนี้ สรุปการบรรยาย การทวงหนี้จะสำเร็จผู้ทวงหนี้จะต้องมีข้อมูลของลูกหนี้ เข้าใจลูกหนี้และเปิดโอกาสให้ลูกหนี้ได้ชี้แจง อย่ากดดันลูกหนี้หรือขู่ดำเนินคดี ถ้าทำได้การทวงหนี้จะประสบความสำเร็จนะครับ และที่สำคัญไม่มีศัตรูด้วย ท่านใดสนใจเชิญ อ.เดชา ไปบรรยายเกี่ยวกับเรื่องทวงหนี้หรือกฎหมาย ติดต่อได้ที่ 02-948-5700
โดยคุณ อ.เดชา กิตติวิทยานันท์ 30 พ.ย. 542, 00:00

ความคิดเห็นที่ 5

อ.เดชา อบรมนักทวงหนี้ เมื่อวานนี้ เวลา 17.00-21.00 น. อ.เดชาได้รับเชิญจากกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามวรินทร์ นิติการ จำกัด โดยนายพีระ วัชรินทร์เสวี ให้ไปถ่ายทอดประสบการณ์ ให้ความรู้ทางด้านกฎหมาย อบรมกิริยามารยาทและคุณธรรมในการทวงหนี้ให้กับนักทวงหนี้บัตรเครดิตและบัตรเงินด่วน ผู้เข้าอบรมเป็นหัวหน้าหน่วยทวงหนี้ประมาณ 40 คน จากนักทวงหนี้ทั้งหมดประมาณ 300 คน โดยมีประเด็นที่น่าสนใจดังต่อไปนี้ 1. บริษัทแห่งนี้เน้นเรื่องคุณธรรมเป็นเรื่องสำคัญที่สุด การทวงหนี้ต้องไม่ใช้วิธีการรุนแรงต้องอยู่ในกรอบของกฎหมายและศีลธรรมอันดี ห้ามข่มขู่ ประจานลูกหนี้ ออกโนติสแบบเลียนแบบหมายศาล 2. นักทวงหนี้ต้องปฏิบัติตามนโยบายของผู้ให้บริการบัตรเครดิตและบัตรเงินด่วนโดยเคร่งครัด 3. จะไม่มีการนำความลับของเจ้าของบัตรไปเผยแพร่กับบุคคลที่สาม 4. มีการเชิญวิทยากรทางด้านกฎหมายและด้านอื่น ๆ มาอบรมพนักงานอยู่อย่างสม่ำเสมอ เพื่อพัฒนาบุคลากร ในการสัมมนาเมื่อวานนี้ อ.เดชาได้ถ่ายทอดประสบการณ์หลายเรื่องให้กับนักทวงหนี้ผู้เข้ารับการอบรม โดยเน้นให้นักทวงหนี้ณยึดหลักดังต่อไปนี้ 1. เมตตาธรรม การทวงหนี้ต้องอยู่บนหลักคิดที่ว่า ?ไม่มีใครต้องการที่จะเบี้ยวหนี้? การติดขัดหรือผิดนัดเนื่องมาจากปัญหาทางเศรษฐกิจและปัญหาครอบครัวเป็นหลัก นักทวงหนี้ต้องเข้าใจปัญหาของลูกหนี้ก่อน ลูกหนี้จึงจะให้ความร่วมมือในการชำระหนี้คืน 2. อย่ามองลูกหนี้เป็นศัตรูและพูดจาต้องสุภาพ หลีกเลี่ยงการพูดจาเสียดสี ท้าตี ท้าต่อย ท้ารบ ไม่เกิดประโยชน์ต่อนักทวงหนี้ และไม่ได้รับความร่วมมือจากลูกหนี้ 3. ถ้าโทรทวงหนี้ถ้าลูกหนี้รับสายและด่าคนทวงหนี้ ให้อดทนตั้งใจฟัง รอลูกหนี้ด่าจบก่อน แล้วค่อยเริ่มเสนอเงื่อนไข อย่าใจร้อนหรือวางสายทิ้งจะเสียสิทธิในการเจรจากับลูกหนี้ 4. ถ้าเป็นลูกหนี้หัวหมอ ให้ตั้งใจฟังและให้สอบถามว่า ทำไมถึงมีความคิดแบบนั้น เช่น ใครแนะนำให้เหตุผลว่าอย่างไร เพราะการท้าให้ฟ้องจะมีผลร้ายต่อลูกหนี้ เช่น ความรับผิดทางกฎหมาย ค่าฤชาธรรมเนียมศาล ค่าทนายความ เสียประวัติทางการเงิน เสียเวลา อับอายขายหน้า ถ้าต้องไปปรากฏต่อหน้าศาลในฐานะจำเลย มีคนรับรู้หรือเพื่อนฝูงไปพบเห็นที่ศาลจะไม่เป็นผลดีต่อลูกหนี้ ถ้าลูกหนี้ต้องการเจรจาหนี้ สามารถเจรจาได้ในตอนนี้ไม่ต้องรอไปเจรจาในชั้นศาล อยากเสนอเงื่อนไขอย่างไรให้เสนอมาได้เลย นักทวงหนี้ต้องอธิบายให้ลูกหนี้เข้าใจ ตามที่ผมเรียนมาข้างต้น อย่าไปสวนกลับ เช่น กูฟ้องมึงแน่! มึงเตรียมรอรับหมายศาลได้เลย เป็นต้น ไม่เกิดประโยชน์ เกิดแต่อารมณ์เท่านั้น 5. การควบคุมอารมณ์ เช่น ลูกหนี้โกหกหรือเลื่อนวันนัดชำระหนี้บ่อยครั้ง หรือชอบวางสายทิ้งหรืออ้างว่าติดธุระอยู่ เช่น อ้างว่าติดประชุม กำลังยุ่ง ไม่สะดวกคุย หรือลูกหนี้โกหกต่าง ๆ นานา ว่าได้ชำระแล้ว หรือกำลังไปโอนเงินให้อยู่ อย่าโกรธ เพราะถ้าโกรธและใช้อารมณ์ นักทวงหนี้ก็จะหมดสิทธ์ในการเจรจากับลูกหนี้อีกต่อไป การควบคุมอารมณ์จึงเป็นหัวใจสำคัญของนักทวงหนี้ หากควบคุมอารมณ์ไม่ได้ควรเลิกอาชีพนี้จะดีกว่า 6. อย่าเอาตัวบทกฎหมายมาข่มขู่ลูกหนี้ เช่น ไม่จ่ายเดี๋ยวจะนำตำรวจไปจับถึงบ้าน คดีฉ้อโกง ยักยอกทรัพย์ หรือขู่ว่าจะยึดทรัพย์ หรือขู่ว่าจะอายัดเงินเดือน หรือขู่ว่าจะร้องเรียนผู้บังคับบัญชา ถ้าจะขู่โดยอ้างว่าจะใช้สิทธิตามกฎหมาย จะต้องพูดด้วยน้ำเสียงที่สุภาพ ชี้แจงถึงผลทางกฎหมายที่ลูกหนี้อาจจะได้รับเมื่อถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย โดยการอ้างตัวบทกฎหมายให้ชัดเจน เช่น ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย , ป.อาญา, วิ.แพ่ง, วิ.อาญา เป็นต้น เพื่อให้ลูกหนี้ได้สามารถตรวจสอบหรือศึกษากฎหมายดังกล่าวว่ามีอยู่จริงหรือไม่ เนื่องจากในยุคนี้ลูกหนี้เข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้ลึกมาก จึงมีความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการการดำเนินคดีในชั้นศาลเป็นอย่างดี ถ้าไปโกหกลูกหนี้ และลูกหนี้จับได้ว่า นักทวงหนี้โกหก ก็จะไม่ไว้ใจและไม่ยอมเจรจาชำระหนี้กับเจ้าหนี้ 7. ในกรณีทวงหนี้ผิดคนหรือมีข้อขัดแย้งกับลูกหนี้ เช่น ยอดหนี้ไม่ตรงกัน หรือลูกหนี้ไม่พอใจเกี่ยวกับพฤติกรรมการทวงหนี้ของนักทวงหนี้คนก่อน ต้องรีบขอโทษและให้ผู้บังคับบัญชาโทรไปเคลียร์กับลูกหนี้ หลังจากนั้นจึงจะเริ่มเจรจาหนี้อีกครั้งหนึ่ง 8. การทวงหนี้กับบุคคลภายนอก เช่น ญาติพี่น้อง หรือบุคคลใกล้ชิดของลูกหนี้ เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เพราะอาจมีการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและมีความผิดทางกฎหมาย เช่น หมิ่นประมาท ความผิดลหุโทษ หรือกรรโชกทรัพย์ ดังนั้นเมื่อติดต่อกับบุคคลที่สามจะต้องใช้ถ้อยคำที่สุภาพ จะปฏิบัติเหมือนเป็นลูกหนี้ไม่ได้ ต้องพูดในลักษณะปรึกษาหารือหรือสอบถามเกี่ยวกับตัวลูกหนี้ ว่ามีปัญหาอย่างไรจึงไม่ยอมชำระหนี้ และขอความเห็นใจ ให้ช่วยติดต่อลูกหนี้กลับมาเจรจาหนี้ สิทธิของนักทวงหนี้สามารถติดต่อกับบุคคลใกล้ชิดของลูกหนี้ได้ เนื่องจากลูกหนี้ให้ชื่อและที่อยู่ไว้ในขณะสมัครเป็นสมาชิกบัตรหรือบางครั้งเป็นญาติสนิท เช่นพ่อแม่ นักทวงหนี้มีสิทธิติดต่อขอความร่วมมือได้แต่ต้องสุภาพ 9. ถ้าลูกหนี้ต่อว่าเกี่ยวกับเรื่องส่งจดหมายไปรบกวนบ่อยครั้ง จะต้องอธิบายให้ลูกหนี้ฟังว่า เป็นผลดีต่อลูกหนี้ ถ้ายังมีจดหมายทวงหนี้อยู่แสดงว่าเจ้าหนี้ยังไม่มีความคิดที่จะดำเนินคดีตามกฎหมาย อยู่ในช่วงให้โอกาสลูกหนี้ 10. นักทวงหนี้มีเป็นจำนวนมาก (OA) ประมาณ 200 บริษัทที่รับงานจากสถาบันการเงินและ Non Bank แต่ถูกกระแสสังคม และกฎกติกาเล่นงานเหลือเพียงประมาณ 50 บริษัท ดังนั้นนับแต่วันนี้เป็นต้นไป บริษัททวงหนี้ถูกกระแสสังคม Monitor ตรวจสอบอย่างรุนแรงและจริงจัง นักทวงหนี้จะอยู่รอดจะต้องมีคุณธรรมและมีผลงานในการทวงหนี้ ซึ่งเป็นเรื่องยาก ดังนั้น บริษัททวงหนี้จะต้องพัฒนาบุคลากรให้เข้าถึงหลักเกณฑ์ที่สังคมรับได้ มิฉะนั้นจะต้องล่มสลาย 11. การตั้งชมรมนักทวงหนี้ขึ้นมาตอบโต้ลูกหนี้ เป็นความคิดที่ผิด และจะต้องถูกสังคมประณามซ้ำอีก ดังนั้นหากมีการรวมตัวกัน การนำเสนอภาพลักษณ์ต่อสังคมจะต้องไม่สื่อออกมาในลักษณะเช่น จับผิดลูกหนี้หรือให้ลูกหนี้หาหลักฐาน เช่น จับผิดลูกหนี้ หรือให้ลูกหนี้หาหลักฐานมาว่า บริษัทใดทวงหนี้ในเวลาตีหนึ่งตีสอง หรือพูดจาหยาบคาย หรือให้ลูกหนี้นำหมายเลขโทรศัพท์หรือชื่อของคนทวงหนี้ มายืนยันผู้ทำผิดกฎหมาย และอย่าพูดจาดูถูกลูกหนี้ ควรยอมรับความจริงว่ามีการขมขู่ลูกหนี้จริง การกระทำดังกล่าวสังคมมองว่า นักทวงหนี้ขาดสำนึกสาธารณะ วิธีการที่ถูกต้องจะต้องยอมรับว่า นักทวงหนี้มีหลายพันคนและหลายบริษัท มีทั้งคนดีและคนเลว วิธีการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและตกเป็นข่าว น่าเชื่อว่าเป็นความจริง และน่าเชื่อว่ายังมีอยู่ และขอโทษแทนนักทวงหนี้ทุกคน จะให้ความร่วมมือในการตรวจสอบและลงโทษต่อไป สังคมจะให้โอกาสบริษัททวงหนี้ถ้ามีความสำนึกยอมรับผิดในการทวงหนี้ที่ผิดกฎหมาย 12. สังคมประณามบริษัททวงหนี้ มิได้เกิดจากลูกหนี้แต่เกิดจากพฤติกรรมของนักทวงหนี้ที่ขาดคุณธรรมบางคน บางบริษัท มองค่าคอมมิชชั่นเป็นหลัก โดยขาดความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) 13. ความถี่ในการทวงหนี้ต่อวัน เช่น โทรวันละ 5 ครั้ง,10 ครั้ง, 20 ครั้ง จะถือว่าเป็นการสร้างความเดือดร้อนรำคาญหรือไม่ ต้องดูข้อเท็จจริงเป็นรายไป และดูว่าถูกกาลเทศะหรือไม่ ถ้าพอสมควรแก่เหตุถือว่า ทวงหนี้โดยสุจริต 14. การทวงหนี้ไปยังที่ทำงานและมีการทวงหนี้กับเพื่อนร่วมงานของลูกหนี้ ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง หากจะคุยกับเพื่อนของลูกหนี้ ซึ่งเป็นบุคคลที่สาม ควรใช้ถ้อยคำที่สุภาพ หากใส่ความจะมีความผิดฐานหมิ่นประมาททันที ให้ระมัดระวังเรื่องนี้ มีคนร้องเรียนมาก 15. นักทวงหนี้ต้องยึดกรอบจริยธรรมตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ฉบับลงวันที่ 2 มิถุนายน 2548 และ 24 มิถุนายน 2548 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2548 เป็นต้นไป หากฝ่าฝืนจะถูกดำเนินบริษัทบัตรเครดิตและเงินด่วนเลิกสัญญาการว่าจ้างทวงหนี้ทันที 16. นักทวงหนี้อย่านำเรื่องเครดิตบูโรไปข่มขู่ลูกหนี้ การกระทำดังกล่าวอาจถูกร้องเรียนได้ว่า การนำเครดิตบูโรเป็นเครื่องมือในการข่มขู่ลูกหนี้ ควรจะใช้ลักษณะของการชี้แจงว่า ช่วงนี้เป็นช่วงสุดท้ายในการเจรจาหนี้ หากตกลงกันได้จะยังไม่มีการส่งข้อมูลไปยังเครดิตบูโร เพื่อชักจูงให้ลูกหนี้รีบตัดสินในชำระหนี้
โดยคุณ อ.เดชา กิตติวิทยานันท์ 30 พ.ย. 542, 00:00

ความคิดเห็นที่ 4

เทคนิคการทวงหนี้แบบสร้างสรรค์ นับแต่วันนี้เป็นต้นไป นักทวงหนี้ซึ่งทำงานในบริษัททวงหนี้ที่รับงานจากเจ้าของบัตรเครดิตและบัตรเงินด่วนจะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการทวงหนี้ใหม่หมด ถ้ายังขืนทำตัวเหมือนเดิม ดังต่อไปนี้อาจจะต้องเดือดร้อน และจบชีวิตการทวงหนี้ ลองมาดูกันว่ามีอะไรบ้างที่นับแต่วันนี้ นักทวงหนี้บัตรเครดิตบัตรเงินผ่อนห้ามปฏิบัติโดยเด็ดขาด รายละเอียดปรากฏตามข้างล่างนี้ - โทรศัพท์ไปทวงหนี้นอกเวลาที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด เช่น โทรทวงหนี้ในวันจันทร์ถึงศุกร์ ก่อน 8 โมงเช้า หรือโทรทวงหนี้หลัง 20.00 น. ของวันจันทร์ถึงวันศุกร์ วันหยุดราชการยังขืนโทรก่อน 8 โมงเช้าและหลัง 18.00 น. - ใช้ชื่อปลอมหรือหลอกลวงโดยไม่ใช้ชื่อจริงนามสกุลจริง และไม่แจ้งวัตถุประสงค์ในการโทรศัพท์มาติดต่อกับลูกหนี้ และไม่แสดงเอกสารว่าได้รับมอบอำนาจให้มาทวงหนี้จากใคร ทำให้ลูกหนี้ไม่ทราบว่าเป็นใคร - หลอกให้ลูกหนี้โอนเงินเข้าบัญชีตัวเองหรือสำนักงานโดยไม่ออกใบเสร็จรับเงิน - นำเรื่องราวเกี่ยวกับการเป็นหนี้ของลูกหนี้ไปเล่าให้บุคคลที่สามฟัง เช่น ไปเล่าให้กับเพื่อนร่วมงาน หรือผู้ค้ำประกัน หรือคู่สมรส หรือบุคคลซึ่งมิได้เป็นลูกหนี้ - ส่งจดหมายหรือแฟ็กซ์หรือSMS เพื่อประจานลูกหนี้ หรือส่งไปให้บุคคลอื่นซึ่งไม่ใช่ลูกหนี้เพื่อขอข้อมูลที่อยู่ของลูกหนี้ ทำให้บุคคลอื่นรู้ข้อมูลว่าลูกหนี้เป็นหนี้ - โทรศัพท์ไปข่มขู่ลูกหนี้ - โทรศัพท์ไปเสียดสีลูกหนี้ - ให้ของลับลูกหนี้ - ด่าพ่อด่าแม่ลูกหนี้ - โทรศัพท์ไปทวงหนี้กับผู้ใหญ่บ้านหรือกำนันเพื่อประจานลูกหนี้ - พูดจาไม่สุภาพกู ๆ มึง ๆ กับลูกหนี้ - ข่มขู่ว่าจะเอาตำรวจไปยึดทรัพย์เพื่อจับกุม - ข่มขู่ว่าจะไปคุกคามถึงบ้านหรือเฝ้าทางเข้าทางออกที่ทำงาน - ด่าประจานลูกหนี้ที่ตลาดหรือที่ชุมชน - ใช้ข้อความในจดหมายทวงหนี้ในลักษณะข่มขู่ว่าจะจับกุมจะดำเนินคดียักยอกทรัพย์หรือต้องติดคุกติดตาราง หรือมีข้อความประจานลูกหนี้แบบเปิดเผย - ลูกหนี้ปฏิเสธการชำระหนี้และมีหนังสือยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษร ยังขืนทวงหนี้อีก - สร้างความเดือดร้อนรำคาญ โดยโทรศัพท์ก่อกวนทั้งวัน - โทรไปทวงหนี้กับบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ลูกหนี้พร้อมต่อว่าเสีย ๆ หาย ๆ เช่น ไม่อบรมสั่งสอนลูกปล่อยให้ไปโกงชาวบ้านเขา - บิดเบือนข้อมูลหรืออ้างตัวเป็นตำรวจหรือทหารทำให้ลูกหนี้สำคัญผิดตกใจกลัว - ข่มขู่จะทำลายชื่อเสียง ทำร้ายร่างกาย หรือเข้าไปยึดทรัพย์สินโดยไม่มีหมายศาล - ในวันเสาร์ที่จะถึงนี้ผมได้รับเชิญจากบริษัท เทรด คอลเลคชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทวงหนี้บัตรเครดิตบัตรเงินผ่อนรายใหญ่ มีพนักงานหลายร้อยคน ซึ่งผมจะนำข้อควรปฏิบัติและข้อห้ามในการทวงหนี้ รวมทั้งกติกามรรยาทไปให้ความรู้กับนักทวงหนี้ให้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมายและศีลธรรมอันดีของประชาชน เพื่อรักษาภาพลักษณ์ของนักทวงหนี้และผู้ให้บริการบัตรเครดิตและบัตรเงินด่วน ผมหวังเหลือเกินว่านับจากวันนี้เป็นต้นไปนักทวงหนี้ในระบบจะปฏิบัติตามสรุปผลการสัมมนาการจัดระเบียบสังคม การติดตามหนี้ที่ไม่เป็นธรรม เมื่อวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2550 ซึ่งมีตัวแทนของธนาคารแห่งประเทศไทย ตัวแทนกระทรวงการคลัง ตัวแทนจากบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด และประธานชมรมหนี้บัตรเครดิตสินเชื่อแห่งบุคคล ประธานมูลนิธิผู้บริโภค ประธานชมรมธุรกิจบัตรเครดิต ประธานชมรมติดตามหนี้ด้วยวิธีที่เป็นธรรม ผู้แทนจากสภาทนายความ และกรรมาธิการการคลัง การธนาคารและสถาบันการเงิน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้สรุปผลเพื่อเป็นกรอบและกติกาการทวงหนี้อย่างสร้างสรรค์ต่อไปในอนาคต หากท่านใดได้รับผลกระทบจากการทวงหนี้ด้วยวิธีการอันมิชอบด้วยกฎหมาย ร้องเรียนมาที่ผมได้เลยนะครับ ผมจะช่วยทำความเข้าใจให้กับบริษัททวงหนี้ให้แก้ไขปรับปรุงเพื่อความสมานฉันท์ของเจ้าหนี้และลูกหนี้ต่อไป การทวงหนี้และการประนอมหนี้จะสำเร็จได้ต่อเมื่อเจ้าหนี้และลูกหนี้ต้องถอยคนละก้าว และเจ้าหนี้ควรจะเริ่มต้นการรับฟังข้อมูลจากลุกหนี้ก่อน หลังจากนั้นจึงค่อยขยับเขยื้อนทั้งเงื่อนไขและเงื่อนเวลาที่ตรงกัน อันนำไปสู่ข้อตกลงที่แฮปปี้ทั้งสองฝ่าย อย่าใช้วิธีการบีบคั้นหรือข่มขู่ ท่านเองยังไม่ชอบเรื่องการข่มขู่ ลูกหนี้ก็เช่นกัน ก็ไม่ชอบให้ใครมาข่มขู่เหมือนกัน สุดท้ายนี้หวังว่าทุกคนที่เป็นหนี้จะต้องมีความสำนึกเป็นเบื้องต้นว่า เรามีหน้าที่ตามกฎหมายต้องใช้หนี้คืน หากมีข้อขัดข้องต้องดิ้นรนขวนขวายมาเงินมาชำระหนี้เขา มิใช่ท้าทายหรือท้าตีท้าต่อย ถ้าทำได้สังคมคงจะสงบสุขมากนะครับ หากการทวงหนี้มีกฎกติกามรรยาทมากขึ้นตามหนังสือเวียนเรื่องแนวปฏิบัติในการติตตามทวงถามหนี้ ฉบับที่ 46/2550 ซึ่งออกเมื่อวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2550 ธนาคารแห่งประเทศไทยก็คงจะไม่มีการออกกฎหมายมาควบคุมการทวงหนี้ ถ้าหากบริษัททวงหนี้ยังฝ่าฝืน และยังควบคุมกริยามรรยาทของลูกหนี้ตนเองไม่ได้ อีกไม่นานนัก จะต้องมีพระราชบัญญัติการติดตามทวงหนี้ที่เป็นธรรมออกมา ซึ่งสาระสำคัญก็จะเน้นหนักไปที่การห้ามการทวงหนี้ที่เป็นการละเมิดสิทธิผู้อื่น การจดทะเบียนบริษัททวงหนี้ และการทวงหนี้จะต้องมีใบอนุญาต หากฝ่าฝืนจะต้องถูกเพิกถอนใบอนุญาตเหมือนทนายความ และอาจจะมีโทษติดคุกติดตารางตามมาก็เป็นได้ หวังว่านักทวงหนี้คงจะรักษาเกียรติศักดิ์ในวิชาชีพของตนเอง และดูแลพวกเดียวกันเองได้ คงจะไม่ต้องให้รัฐบาลออกกฎหมายมาเพื่อบีบบังคับลงโทษ หากนักทวงหนี้ยังไม่แก้ไขปรับปรุงตัวเองคงจะต้องหมดอนาคตแน่นอน
โดยคุณ อ.เดชา กิตติวิทยานันท์ 30 พ.ย. 542, 00:00

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก