ลาออกแต่ลาออกล่วงหน้า 15 วัน และทำงานครบ 15 วัน ลาออกตั้งแต่วันที่ 11 มี.ค. 2553

บทความวันที่ 23 เม.ย. 2553, 00:00

มีผู้อ่านทั้งหมด 17265 ครั้ง

โดนโกงเงินค่าแรงทำงาน

         ลาออกแต่ลาออกล่วงหน้า 15 วัน และทำงานครบ 15 วัน  ลาออกตั้งแต่วันที่ 11 มี.ค. 2553 -27 มี.ค. 2553 และเงินจะออกวันที่ 5 เมษา 2553 แต่ไม่ออก พอโทรไปถาม ก็บอกว่าลาออกผิดกฏระเบียบ เงินจะออกให้วันที่ 21 เมษา และโทรไปถามอีก ก็บอกว่าให้โทรไปอีกที่วันที่ 26 เมษา เป็นบริษัทขอนแก่น เป็นเหมือนโรงงานเถื่อน บอกว่าได้รับ ISO 9001 แต่โครตสกปรก ทำงาน 12 ช.ม. พักแค่ 1. ช.ม. อาหาร ก็ไม่สะอาด ทำงานก็ไม่มีไบสลิปแจ้งเงิน ขาดหายเท่าไหร่ไม่รู้ พอไปถามก็บอกว่าเช็คไม่ได้ อยู่ที่บริษัท แม่

คำแนะนำทนายคลายทุกข์
        ตามปัญหาของท่าน  เมื่อท่านเป็นพนักงานหรือลูกจ้างของบริษัทนายจ้าง  ท่านย่อมได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541  เมื่อท่านซึ่งเป็นลูกจ้างได้ทำงานใหม่แก้บริษัทนายจ้าง  ก็ย่อมมีสิทธิตามกฎหมายที่จะได้รับเงินค่าจ้าง(ค่าล่วงเวลา  ค่าทำงานในวันหยุด  และค่าล่วงเวลาในวันหยุด  ถ้าหากมี)    โดยกฎหมายคุ้มครองแรงงานได้กำหนดให้นายจ้างจ่ายเงินค่าจ้าง  และค่าต่างๆ นั้นให้แก่ลูกจ้างให้ถูกต้องและตรงตามกำหนดเวลา โดยหากท่านซึ่งเป็นลูกจ้างได้รับค่าจ้างเป็นรายเดือน  หรือรายวัน  นายจ้างต้องจ่ายเดือนหนึ่งไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่ง  เว้นแต่จะมีการตกลงกันเป็นอย่างอื่นที่เป็นประโยชน์แก่ลูกจ้าง ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาตรา 70(1)  เพราะฉะนั้น  เมื่อเงินค่าจ้างของท่าน  โดยปกตินายจ้างจะจ่ายให้ในวันที่ 5  เมษายน 2553  แต่ปรากฏว่า  เงินยังไม่ออก  และท่านก็โทรไปสอบถาม  นายจ้างก็บอกผลัดขอเลื่อนจ่ายโดยอ้างเหตุที่ท่านลาออกผิดระเบียบ  การกระทำของนายจ้างดังกล่าว  จึงเป็นการโต้แย้งสิทธิของท่านตามกฎหมาย  กล่าวคือ  ท่านได้ทำงานให้แก่นายจ้างแล้ว  แต่ไม่ได้รับค่าจ้างให้แก่นายจ้างแล้ว  แต่ไม่ได้รับค่าจ้างของนายจ้าง  ท่านจึงมีสิทธิตามกฎหมายที่จะฟ้องคดีเรียกค่าจ้างของท่านกับบริษัท  โดยฟ้องเป็นคดีต่อศาลแรงงานได้ตามกฎหมายต่อไป

ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน  พ.ศ. 2541
มาตรา 70 ให้นายจ้างจ่ายค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าทำงานในวันหยุด และค่าล่วงเวลาในวันหยุดให้ถูกต้องและตามกำหนดเวลาดังต่อไปนี้
(1) ในกรณีที่มีการคำนวณค่าจ้างเป็นรายเดือน รายวัน รายชั่วโมงหรือเป็นระยะเวลาอย่างอื่นที่ไม่เกินหนึ่งเดือน หรือตามผลงานโดยคำนวณเป็นหน่วย ให้จ่ายเดือนหนึ่งไม่น้อยกว่าหนึ่งครั้ง เว้นแต่จะมีการตกลงกันเป็นอย่างอื่นที่เป็นประโยชน์แก่ลูกจ้าง
(2) ในกรณีที่มีการคำนวณค่าจ้าง นอกจาก (1) ให้จ่ายตามกำหนดเวลาที่นายจ้างและลูกจ้างตกลงกัน
(3) ค่าล่วงเวลา ค่าทำงานในวันหยุด และค่าล่วงเวลาในวันหยุดให้จ่ายเดือนหนึ่งไม่น้อยกว่าหนึ่งครั้ง
ในกรณีที่นายจ้างเลิกจ้างลูกจ้าง ให้นายจ้างจ่ายค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าทำงานในวันหยุด และค่าล่วงเวลาในวันหยุด ตามที่ลูกจ้างมีสิทธิได้รับ ให้แก่ลูกจ้างภายในสามวันนับแต่วันที่เลิกจ้าง