งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ
ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ
สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ
รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ
ฝ่ายหญิงยินยอมและไปแจ้งความว่าพรากผู้เยาว์
เนื่องจากน้องชายดิฉันอายุ 18 ปี ได้คบหากับแฟนสาวน่าจะอายุประมาณ 17 ปี คืนนึงหญิงสาวได้โทรมาหาฝ่ายชายให้ออกไปรับ และขอมานอนค้างด้วยที่บ้าน เมื่อมาถึงที่บ้าน แม่ของฝ่ายชายได้ไล่ให้ฝ่ายหญิงกลับบ้าน แต่เธอไม่ไป พร้อมบอกว่าเช้าจะกลับเอง และอ้อนวอนขอพักที่บ้าน แต่พอรุ่งเช้าแม่กลับยังคงพบผู้หญิงคนนั้นอยู่ในบ้าน ซึ่งในคืนนั้นทั้งสองได้มีสัมพันธ์กันทางเพศตามที่ฝ่ายหญิงยินยอม พอสายยายของฝ่ายหญิงได้ออกตามหาหลาน จนมาพบอยู่ที่บ้านของน้องชายดิฉัน และได้กล่าวตักเตือนทั้งสองและให้เลิกคบกัน และไม่เอาเรื่องแต่อย่างใด แต่เมื่อฝ่ายหญิงกลับไป ได้ไปแจ้งความน้องชายให้คดีพรากผู้เยาว์
เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนเมษายน และมีจดหมายจากศาลให้ไปรายงานตัวมาแล้ว จำนวน 2 ครั้ง และน้องชายก็ไปรายงานตัวทุกคน จนกระทั่งครั้งที่ 3 เมื่อวันอังคารที่ 10 สิงหาคม น้องชายของดิฉันได้ไปรายงานตัวอีกครั้ง และศาลได้ฝากขังตัวน้องชายอยู่ที่เรือนจำแปดริ้ว และขอหลักทรัพย์ในการประกันตัว 180,000 บาท แต่เนื่องจากเราไม่มีหลักทรัพย์ไปประกัน จึงปล่อยให้น้องติดคุกไป หลังจากนั้นศาลได้นัดไกล่เกลี่ย โดยฝ่ายหญิงเรียกร้อง เงิน 60,000 บาท แต่ทางเราไม่มีให้ และฝ่ายหญิงยังให้ความกลับคำว่า ไม่ได้ยินยอมมีเพศสัมพันธ์แต่อย่างใด (แต่ฝ่ายหญิงเคยให้ปากคำไว้ที่สน.แปดริ้วว่ายินยอม โดยมีบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน) แต่ดูเหมือนว่าครอบครัวของฝ่ายหญิง จะทำเหตุแบบนี้เป็นกระบวนการเพื่อเรียกร้องเอาเงิน เพราะฝ่ายหญิงไม่ได้เป็นหญิงบริสุทธิ์มาก่อน และเคยผ่านผู้ชายมาแล้ว อยากทราบว่าอย่างนี้เราควรทำอย่างไร และในกรณีแบบนี้ถือว่าเราผิดจริงหรือไม่ และฟ้องกลับได้ไหม
คำแนะนำทนายคลายทุกข์
1. ความผิดฐานพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแล เพื่อการอนาคจาร และไม่ว่าผู้เยาว์นั้นจะเต็มใจไปด้วยหรือไม่ก็ตาม น้องชายก็ย่อมมีความผิดฐานพรากผู้เยาว์ ตาม ป.อ. มาตรา 319
2. แต่น้องชายของท่าน ก็ยังมีช่องทางในการต่อสู้คดี โดยนำคำให้การที่ฝ่ายหญิงเคยให้ไว้กับพนักงานสอบสวน ซึ่งขัดแย้งกับคำเบิกความในชั้นศาล มาใช้อ้างเป็นหลักฐานสำคัญเพื่อต่อสู้คดีต่อไปได้
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 319 ผู้ใดพรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อหากำไร หรือเพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สองปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สี่พันบาทถึงสองหมื่นบาท
ผู้ใดโดยทุจริต ซื้อ จำหน่าย หรือรับตัวผู้เยาว์ซึ่งถูกพรากตามวรรคแรก ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผู้พรากนั้น