งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ
ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ
สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ
รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ
ตอนที่
2
นักสืบต้องสังเกตและ..จดจำลักษณะบุคคล
การสังเกตจดจำคนที่ใบหน้านั้นเป็นสิ่งปกติวิสัยของคนธรรมดาสามัญทั่วไป
แต่สำหรับนักสืบแล้วอันดับแรกเมื่อต้องการจะจดจำบุคคลจะมอง
-
ที่เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย
-
เครื่องประดับเมื่อสังเกตจดจำสิ่งเหล่านี้ได้แล้วจึงมาสังเกตจดจำใบหน้าต่อไป
-
เพราะใบหน้าอาจถูกอำพรางได้หลายวิธี
เช่นใส่แว่น
เปลี่ยนทรงผม
ไว้นวดเครา
-
ส่วนลักษณะนิสัยของคนนั้นบางทีมันบ่งบอกได้จากการแต่งเนื้อแต่งแต่งตัวและการเลือกใช้เครื่องประดับ
ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละบุคคล
เรื่องของใบหน้าสำหรับนักสืบนั้นต้องมองแบบมีระดับโดยจะแบ่งการมองออกเป็น 5 ส่วน
-
ส่วนที่ 1
คือ ทรงผม
และใบหู
ให้ดูรวมกันไป
แล้วจึงไล่มาดู
-
ส่วนที่ 2
จากการดูแบบรวดเร็ว
2 ส่วน เราลักษณะรูปหน้าได้ทันทีจากนั้นจึงดูไล่ไปยัง
-
ส่วนที่ 3
คือ
ตาและคิ้ว
เมื่อจดจำแล้วก็ไล่ไปจดจำ
-
ส่วนที่ 4
ต่อ คือ จมูก
-
ส่วนที่ 5
ปากเป็นส่วนสุดท้าย
ในการสังเกตจดจำลักษณะบุคคลเพื่อประโยชน์ในการสืบสวนนั้น
มีหลักเกณฑ์อยู่
2 ประการคือ
1.
จดจำลักษณะเด่น
เช่น
มีจมูกโด่งมาก
ผมดำสลวย
ใบหน้ารูปไข่
ท่าทางสง่าผ่าเผย
เมื่อพบเห็นที่ใดๆ
ก็จำได้ง่าย (ระวังเป้าหมายผ่าตัดเปลี่ยนแปลงใบหน้านะ)
2.
จดจำลักษณะที่แตกต่าง
เป็นการสังเกตลักษณะที่ทำให้บุคคลนั้นแตกต่างจากบุคคลอื่น
โดยอาจไม่ใช่ลักษณะเด่นก็ได้
เช่นตาบอด
มีแผลเป็นที่แก้ม
มือด้วน
ขาเป๋
สวมนาฬิกาข้างไหน
สายหนัง สายเหล็ก
สีอะไร
เป็นต้น
นอกจากนักสืบจะสังเกตใบหน้าแล้วลักษณะทั่วๆ
ไปก็ควรละเลย
เช่น
พวกรอยแผลเป็น
หรือตำหนิที่เห็น
เด่นชัด
หรืออาจจะต้องสังเกตไปถึงลักษณะที่เกิดขึ้นเฉพาะตัว
เช่น
พูดติดอ่าง
พูดสำเนียงแปร่ง
เวลาพูดชอบเสยผม
ชอบเสยผม
ชอบป้องปาก
ชอบก้มหน้า
เงยหน้า เดินเชิดหน้า
เดินก้มหน้า
ฯลฯ
และลักษณะของการแต่งกายบางครั้งหากเราสังเกตจะช่วยให้จำแนกได้คร่าวๆ
ว่าบุคคลผู้นั้นมีฐานะความเป็นอยู่เช่นไร
ประกอบอาชีพอะไร
การสังเกตจดจำสิ่งของ
ในการสังเกตวัตถุสิ่งของหรือก็เช่นเดียวกัน
คนทั่วไปมักสังเกตแต่เฉพาะลักษณะรูปทรงสีสัน
หรืออาจจะรู้ไปถึงวิธีการใช้งานได้บ้าง
แต่ในสายตานักสืบแล้ว
เพียงเห็นลักษณะหีบห่อก็ต้องพยายามบอกให้ได้ว่าสิ่งของข้างในควรมีรูปร่างหน้าตาอย่างไร
โดยปกติแล้ววัตถุสิ่งของที่มีราคาที่มีราคาค่างวดจะมีหมายเลขประจำเครื่องเสมอ
ถ้าเป็นนักสืบ
เวลาพบสิ่งของต้องจดหมายเลขเอาไว้เป็นข้อมูล
เครื่องใช้ในบ้านของนักสืบ
(สมัครเล่น)
เองก็เถอะ
ควรจะจดหมายเก็บเอาไว้
เผื่อมีมือดีมาหยิบไปใช้ได้แจ้งรูปพรรณสัณฐานและหมายเลขเครื่องต่อเจ้าพนักงานได้เวลาไปชี้ของกลางที่สถานีตำรวจ
ในกรณีมีอุบัติเหตุในท้องถนน
รถยนต์ชนคนแล้วหนีสิ่งแรกที่สายตานักสืบจะต้องสังเกตและจำจำไว้ให้ได้ก่อนคือ
หมายเลขทะเบียนรถ
แล้วจึงค่อยจำยี่ห้อ
ชนิดหรือประเภท
แล้วตามด้วยสีเป็นลำดับเพราะรถพวกนี้เมื่อก่ออุบัติเหตุร้ายแรงขึ้นก็มักจะนำไปปรับแต่งเปลี่ยนรูปไปโดยสิ้นเชิง
การสังเกตจดจำสถานที่
การหัดสังเกตและจดจำสถานที่มีส่วนช่วยการสืบได้มากเมื่อเราสืบไปถึงสถานที่ตั้งของจุดหมายแล้วควรระบุตำแหน่งของสถานที่ให้ถูกต้อง
จากนั้นจึงดูเจาะลึกเข้าไปเลื่อนๆ
ดูการประกอบการ
และลักษณะของอาคารเป็นไม้หรือตึกและที่สำคัญมากคือ
การดูเส้นทางเข้าออกมีทางเข้าออกได้กี่ทาง
รถอะไรสามารถเข้าไปได้บ้าง
การดูทางหนีทีไล่
สามารถเข้าไปได้บ้าง
การดูทางหนีทีไล่
สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้เช่นกัน
อย่างกรณีที่เราต้องเข้าไปพักอาศัยในโรงแรม
เราควรเดินตรวจตราทางเข้าออก
ทางหนีไฟให้เรียบร้อย
เพราะหากบังเอิญเกิดอุบัติเหตุขึ้นเราจะสามารถควบคุมตัวเองได้ดีมากขึ้น
โอกาสพาชีวิตรอดก็จะมีสูง
ยังมีอีกนะ
ตอนหน้าพลาดไม่ได้ โดยเฉพาะนักสืบมือใหม่
ต้องติดตามค่ะ