เมียน้อยเยือนถึงถิ่น
เรื่องของความรัก และเรื่องเงินทองไม่เข้าใครออกใคร ไม่รู้อะไรสำคัญกว่า แต่ดิฉันว่าสมัยนี้เงินน่าจะสำคัญกว่าความรักนะคะ...ปัญหาสังคมสมัยนี้เกิดอาชีพใหม่ขึ้นมากมายโดยเฉพาะอาชีพเมียน้อย.. หญิงสาวหลายคนที่อยากสบายแบบไม่ต้องทำงานหนักก็ไปอัพหน้าตาผิวพรรณให้ผุดผ่อง จะได้ถูกใจพวกเสี่ยพวกป๋าหน้าหื่นทั้งหลาย เข้าตำราหญิงร้ายชายก็เลว.. ไม่ได้ด่าใครนะคะ แต่สังคมเราสมัยนี้อยู่กันแบบขาดศีลธรรม.. ใม่สนใจลูกผัวเมียใคร เอาหมด!!! ชีวิตพี่มาริสา ลูกค้าของดิฉันก็อยู่ด้วยความข่มขืนเช่นเดียวกัน คุณมาริสา เล่าว่า ...อยู่กินกับสามีมา 15 ปี ในอดีตคุณมาริสาเป็นสาวซิ่งคนหนึ่ง ชอบเที่ยวเตร่ได้แฟนมีบุตรตั้งแต่อายุ 17 สามีเธออายุเท่ากัน เมื่อมีบุตรก็ต้องช่วยทำมาหากินหนังสือหนังหาไม่ได้เรียนแล้ว ต้องหาเงินเลี้ยงลูก พ่อแม่ทราบเรื่องก็ปล่อยให้รับผิดชอบชีวิตกันเอง สองคนผัวเมียช่วยกันทำมาหากินเข็นรถขายผัก เวลาผ่านมา 10 ปี ผัวเมียมีช่องทางทำมาหากินมากขึ้น ค้าขายจนร่ำรวยมีเงินทองมากมาย จากคนที่เคยยากจน ไม่ได้ใช้ชีวิตแบบวัยรุ่น พอมีเงินทั้งสองคนสามีภรรยา ก็เริ่มอยากใช้ชีวิตที่อยากใช้ในสมัยวัยรุ่น เริ่มเที่ยวเตร่ สามีเที่ยวผู้หญิง เลี้ยงดูผู้หญิง ซื้อของใช้ราคาแพง ๆ ให้หญิง นาฬิกาเรือนละ 200,000 บาทให้หญิง ซื้อรถยนต์หรูราคาหลักล้าน เช่าคอนโดหรูให้ผู้หญิงอยู่ ไม่สนใจดูแลร้านค้า ปล่อยให้ลูกจ้างดูแลแทน เงินทองเริ่มรั่วไหล คุณมาริสาผู้เป็นภรรยาเริ่มทนไม่ไหวกับพฤติกรรมของสามี จึงเป็นที่มา คุณมาริสาติดต่อมาที่ดิฉันนักสืบกุ้ง เมื่อได้เล่าเรื่องให้ฟังแล้ว คุณมาริสาบอกกับดิฉันว่า เคยถามเขาแล้วแต่ไม่ยอมรับ เพราะไม่มีหลักฐานอ้างว่าไม่ได้เลี้ยงใครเป็นตัวตนแค่ไปเที่ยวอ่างเป็นครั้งคราวเท่านั้น คุณมาริสาไม่เชื่อเพราะเที่ยวแต่ละครั้งไม่น่าจะใช้เงินมากขนาดนี้ “คุณกุ้งช่วยพี่หน่อยนะคะ.. ได้หลักฐานเดี๋ยวพี่จัดการเอง เมื่อข้อมูลมา ดิฉันก็วางแผนกับทีมงาน มอบหมายให้ส้มจุกกับกุ๊กไก่ ทำงานนี้ เริ่มติดตามดูพ่อสามีตัวดีของคุณมาริสา ว่าวันๆ นึงไปเที่ยวที่ไหนบ้าง หลังจากที่ทีมงานลงพื้นที่ได้ระยะนึง ก็จับได้ว่าสามีตัวดีของเธอแอบเช่าคอนโดให้หญิงแถวสุขุมวิท ซื้อรถหรูให้ เป็นแม่หม้ายแถมรับดูแลลูกติดของผู้หญิงด้วย คุณมาริสา..รู้แล้วยังใจเย็นเก็บเงียบอดทนไว้ก่อน เดี๋ยวเถอะมึง!! นโม นโม ท่องไว้ เธอบอกแบบนั้น ตามไปเรื่อยๆก่อน จะโชคดีหรือโชคร้ายของหล่อนไม่รู้นะ อยู่ๆสามีเธอก็พาคุณเมียน้อยเข้าไปที่ร้านค้าของสามีคุณมาริสา ด้วยเหตุผลอะไรไม่ทราบ พอทีมงานรายงานไป คุณมาริสาเปิดกล้องวงจรปิดที่ร้านเห็นเมียน้อยมาแสดงตัวที่ร้าน จะรออะไรล่ะ เธอรีบขับรถมาที่ร้าน เดินเข้าไปตบนังเมียน้อย เอาเป็นว่ารุมตบ เพราะคุณมาริสาเอาเพื่อนไปด้วย และยิ่งกว่านั้นคุณมาริสาหยิบกรรไกรตัดกระดาษที่วางอยู่ใกล้ ๆ ตัดผมเมียน้อยจนหมดหัว เรียกว่าก้อนผมเลยดีกว่า โทรศัพท์มือถือของเมียน้อยคุณมาริสาก็ใช้เท้ากระทืบจนแตกใช้งานไม่ได้ ไม่มีใครกล้าห้าม ยามนั้นอารมณ์โมโห นักสืบเห็นแบบนั้กระเจิดกระเจิงละค่ะ เรื่องไม่จบเมียน้อยไปแจ้งความ ตำรวจตั้งข้อหาเธอหลายข้อหา สรุปคุณมาริสาต้องจ่ายเงินทำขวัญให้เมียน้อยไป 500,000 บาท เพราะไม่อยากให้เพื่อนถูกดำเนินคดีไปด้วย จะมีมลทินในคดีความต่าง ๆ เป็นอันว่าเสียเงินไปสบายใจกว่า เธอสั่งให้ดิฉันจัดทีมงานติดตามพฤติกรรมต่ออีก ....เพื่อความสบายใจว่าสามีจะไม่ติดต่อกับเมียน้อยอีก เพราะโดนซะขนาดนั้น ที่ไหนได้ ยังไม่หยุดฝ่ายสามีและเมียน้อยยังแอบเจอกันอีก เฮ้ย!คิดว่าสามีตัวดีกับนังเมียน้อยจะเข็ดเพราะโดนขนาดนี้แล้ว แต่คราวนี้สามีเริ่มคนฉลาด ขับตัวเองไปจอดไว้ตามสถานบันเทิงต่างๆหลอกเมียว่ามาเที่ยวอาบอบนวด...แต่พอปลอดคนก็หันซ้ายขวาเรียกแก๊ปมารับแอบเดินทางไปหาเมียน้อย บางครั้งก็ไปแท็กซี่บ้างนักสืบก็งง ตามยากมาก แอบติดGPS รถยนต์สามีเธอ รถก็จอดนิ่ง เปลี่ยนแผนใหม่เช่าคอนโดหรูอยู่กับเมียน้อยเธอไปเลย คุณมาริสาไม่มีเรื่องค่าเช่าค่าใช้จ่ายขอให้ได้หลักฐานว่าเลิกหรือไม่เลิก สุดท้ายสามีเธอก็ทนไม่ไหว แอบมาหาเมียน้อยจนได้ คนเรามันแอบเขากินก็คงไม่มีความสุขทางกายเท่าไหร่ เพราะต้องระวังหวาดระแวงกลัวเมียหลวงมาตาม แต่เพื่อความสุขสบายมีเงินใช้จ่ายแบบไม่ต้องทำงานหนัก ก็ยอมทำผิดศีลธรรมอีก เราแอบถ่ายรูปขณะที่สามีเธอย่องเข้าคอนโด ทั้งสองคนคงอึดอัดถ้าไม่ได้ออกไปเที่ยวข้างนอกกัน ขณะที่ทีมงานนั่งเล่นอยู่ล๊อบบี้ของคอนโด เห็นหนุ่มสาวหนึ่งแต่งตัววัยรุ่นท่าทางมีพิรุธ ทำตัวแปลกๆ หน้าตาไม่เหมือนเป้าหมายแต่บุคลิกการเดินอย่างกับเป้าหมายเราเลย ทั้งสองเดินออกจากคอนโดยืนรอรถ ท่าทางจะเรียกแก๊ป ทีมงานสังเกตุเห็นนาฬิกาข้อมือของชายมันคุ้นๆจังเหมือนของสามีเธอ อ้าว! นั่นมันเป้าหมายนี่ ปลอมตัวขนาดนี้เลยเหรอ เราจะช้าอยู่ใย ส้มจุกเรียกกุ๊กไก่ให้ไปเอารถยนต์มาด่วน จังหวะกับรถที่เป้าหมายเรียกมารับถึงพอดี ทั้งคู่คิดว่ารอด.. ไปนั่งทานอาหารร้านหรูด้วยกันแบบสวีท สามีเธอคงปลอบใจเมียน้อยเป็นค่าทำขวัญไปหลายบาทครั้งนี้ เป็นค่าตกใจที่เมียหลวงจัดไปครั้งที่แล้ว นักสืบรายงานไปเธอลมออกหู “มึงยังกล้ากันน่ะ” แต่เธอก็อดใจไว้ ครั้งแล้วเสียรู้มันไป 500,000 บาทละ เธอปรึกษาอยากจะเก็บหลักฐานฟ้องชู้ เพราะไปอาละวาดมันก็ไม่มีประโยชน์ เข้าทางนังเมียน้อยเรียกร้องความสนใจอีก คุณมาริสาตัดสินใจ ฟ้องชู้ ฟ้องหย่า เพราะเบื่อปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำซาก รวยแล้วมีทุกข์ เธออยากกลับไปวันเก่า ๆ ที่ยังจน...แต่รักกันมาก ครอบครัวอบอุ่น มีเงินทองร่ำรวยใช่ว่าชีวิตจะมีความสุข... มีปัญหาปรึกษานักสืบกุ้งได้ค่ะ!!