เปลี่ยนสัญญาจากผ่อนสินค้าเป็นกู้ยืมเงิน
ได้ผ่อนตู้เย็นกับร้านแห่งหนึ่งมาหลายปีแล้วคะ ช่วงแรกๆ ก็มีการจ่ายค่างวดตามปกติ แต่มาขาดส่งเพราะการเงินติดขัดคะ แล้วต่อมาทางบริษัทเขาก็เปลี่ยนสัญญาจากผ่อนของเปลี่ยนกู้ยืมเงินคะ แต่ตอนเซ็นไม่ได้อ่านสัญญาพลาดไปมากๆ คะ ตอนนี้ยอดเงินทางบริษัทเเจ้งมาว่าเหลือหมื่นสอง จากเดิมตู้เย็นเครื่องละแปดพันบาท เราก็ได้ผ่อนไปบ้างจำนวนหนึ่งนะคะ ประมาณสามสี่พันได้คะ แล้วก็มีจ่ายปีที่แล้วไปอีกแปดพัน เค้าบอกว่าเป็นค่าปรับสามพันกว่า อีกห้าพันก็ทั้งดอกเบี้ยเเละเงินต้นคะ จากยอดค้างหมื่นห้า ให้แบ่งจ่ายสองยอดได้ เเล้วพอประมาณต้นเดือน เค้าโทรกลับมาอีกว่าเราค้างอีกหมื่นสองให้รีบชำระ ก็เลยถามไปว่าเงินต้นเท่าไหร่เขาบอกว่าหกพัน ที่เหลือเป็นดอกเบี้ย ดอกเบี้ยร้อยละสี่ต่อเดือนคะ เลยรู้สึกว่าไม่เป็นธรรมเท่าไหร่ รวมๆ เเล้วเราก็จ่ายเงินไปเกือบสองหมื่นจากยอดสัญญาเเรกที่เราทำ เลยอยากปรึกษาคะ ว่ามีทางไหนบ้างที่พอจะทำ รายจ่ายดิฉันค่อนข้างเยอะ พยายามจ่ายเเล้วแต่ไม่ไหวจริงๆ ตัวคนเดียว ต้องเลี้ยงลูกอีกสองคน ให้คำแนะนำด้วยนะคะ
คำแนะนำสำนักงานทนายความ ทนายคลายทุกข์
การที่ท่านได้ทำสัญญาเช่าซื้อหรือเงินผ่อนกับบริษัทผู้ขายซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจ แล้วต่อมามีการทำสัญญาเปลี่ยนมูลหนี้เงินผ่อนสินค้านั้นมาเป็นสัญญากู้ยืมเงิน ย่อมเป็นการเปลี่ยนแปลงประเภทของนิติกรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่เป็นสาระสำคัญของนิติกรรมเป็นการแปลงหนี้ใหม่ ทำให้หนี้ผ่อนสินค้าเดิมระงับสิ้นไปด้วยการแปลงหนี้ใหม่ผูกพันตามสัญญากู้ยืม ตาม ป.พ.พ.มาตรา 349 แต่อย่างไรก็ตาม ความรับผิดชำระหนี้กู้ยืมเป็นความรับผิดทางแพ่ง จึงชอบที่ท่านควรทำการเจรจาไกล่เกลี่ยขอประนอมหนี้กับเจ้าหนี้เพื่อประนีประนอมยอมความในข้อที่พิพาทระงับต่อไป และถ้าท่านเห็นว่าการกระทำของผู้ประกอบธุรกิจดังกล่าวมีลักษณะเป็นการละเมิดสิทธิของผู้บริดภค ท่านมีสิทธิยื่นเรื่องราวร้องทุกข์ต่อสคบ.เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป