จำเลยมีอาการคุ้มคลั่ง แต่ยังเชื่อฟังพี่สาวและแม่เข้ามาห้ามปราม ถือว่าจำเลยยังสามารถรู้ผิดชอบอยู่บ้าง |จำเลยมีอาการคุ้มคลั่ง แต่ยังเชื่อฟังพี่สาวและแม่เข้ามาห้ามปราม ถือว่าจำเลยยังสามารถรู้ผิดชอบอยู่บ้าง 

จำเลยมีอาการคุ้มคลั่ง แต่ยังเชื่อฟังพี่สาวและแม่เข้ามาห้ามปราม ถือว่าจำเลยยังสามารถรู้ผิดชอบอยู่บ้าง 

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

จำเลยมีอาการคุ้มคลั่ง แต่ยังเชื่อฟังพี่สาวและแม่เข้ามาห้ามปราม ถือว่าจำเลยยังสามารถรู้ผิดชอบอยู่บ้าง 

  • Defalut Image

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2721/2546

บทความวันที่ 25 เม.ย. 2566, 09:55

มีผู้อ่านทั้งหมด 14376 ครั้ง


จำเลยมีอาการคุ้มคลั่ง แต่ยังเชื่อฟังพี่สาวและแม่เข้ามาห้ามปราม ถือว่าจำเลยยังสามารถรู้ผิดชอบอยู่บ้าง 
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2721/2546

    จำเลยกับผู้เสียหายไม่เคยมีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน ทั้งไม่มีมูลเหตุใดรุนแรงพอที่จะต้องทำร้ายกัน หากจำเลยไม่ได้รับประทานยาจะมีอาการคุล้มคลั่ง การที่จำเลยคาดคิดว่าผู้เสียหายลักรองเท้าจำเลยไปจึงได้ถือเอาเป็นเหตุโกรธแค้น นับว่าจำเลยมีความผิดปกติในความและการรับรู้แล้วแสดงออกด้วยการใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหาย ซึ่งกระทำไปเพราะความเป็นโรคจิตเภท แต่การที่จำเลยเชื่อฟังและมีอาการสงบลงเมื่อมารดาและพี่สาวจำเลยเข้าห้ามปราม แสดงให้เห็นว่าจำเลยยังสามารถรู้ผิดชอบอยู่บ้างหรือยังสามารถบังคับตนเองได้บ้าง ดังนั้น จำเลยจึงต้องรับโทษสำหรับการกระทำความผิดนั้นซึ่งมาตรา 65 วรรคสอง ศาลจะลงโทษสำหรับการกระทำความผิดนั้นซึ่งตามมาตรา 65 วรรคสอง ศาลจะลงโทษกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้
ตัวบทกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ประมวลกฎหมายอาญา
    มาตรา 65
ผู้ใดกระทำความผิด ในขณะไม่สามารถรู้ผิดชอบ หรือไม่สามารถบังคับตนเองได้เพราะมีจิตบกพร่อง โรคจิตหรือจิตฟั่นเฟือน ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษสำหรับความผิดนั้น
    แต่ถ้าผู้กระทำความผิดยังสามารถรู้ผิดชอบอยู่บ้าง หรือยังสามารถบังคับตนเองได้บ้าง ผู้นั้นต้องรับโทษสำหรับความผิดนั้น แต่ศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้
#ทนายคลายทุกข์ #วิกลจริต #เป็นบ้า #คดีอาญา
#ปรึกษาคดี โทร.02-9485700, 081-6161425, 081-8217470, 081-6252161 

 

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก