เงินถูกโจรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เจ้าของบัญชีอาจต้องรับผิดร่วมกับธนาคาร|เงินถูกโจรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เจ้าของบัญชีอาจต้องรับผิดร่วมกับธนาคาร

เงินถูกโจรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เจ้าของบัญชีอาจต้องรับผิดร่วมกับธนาคาร

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

เงินถูกโจรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เจ้าของบัญชีอาจต้องรับผิดร่วมกับธนาคาร

  • Defalut Image

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6233/2564

บทความวันที่ 2 มี.ค. 2566, 09:52

มีผู้อ่านทั้งหมด 1031 ครั้ง


เงินถูกโจรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เจ้าของบัญชีอาจต้องรับผิดร่วมกับธนาคาร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6233/2564

    จำเลยประกอบกิจการธนาคารพาณิชย์  และให้บริการอื่นที่เกี่ยวกับการเงิน   รับฝากเงิน    และให้บริการการใช้หรือโอนเงินทาง xxx application online ผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่และคอมพิวเตอร์   จึงเป็นผู้รับฝาก. ซึ่งเป็นผู้มีวิชาชีพเฉพาะกิจการค้าขายหรืออาชีวะ   จำต้องใช้ความระมัดระวังและใช้ฝีมือเท่าที่เป็นธรรมดาจะต้องใช้และสมควรจะต้องใช้. ในกิจการค้าขาย.   หรืออาชีวะอย่างนั้น           ตาม ป.พ.พ. มาตรา 659 วรรคสาม 
    ปรากฏว่า ระหว่าง. เวลา 23.41 นาฬิกา   ของวันที่    7  กรกฎาคม 2560  ถึงเวลา 2.01 นาฬิกา  ของวันที่ 8 กรกฎาคม 2560    เงินในบัญชีเงินฝากของโจทก์ ถูกโอนไปยังบัญชีเงินฝากของผู้อื่นจำนวน 3 บัญชี  รวม  12  ครั้ง   รวมเป็นเงิน 1,099,999 บาท     การโอนเงินที่เป็นการโอนจำนวนย่อยหลายครั้งติดต่อกันในช่วงเวลาเดียวกัน. ในเวลากลางคืน    จากบัญชีเงินฝากของโจทก์ ไปยังบัญชีเงินฝากของบุคคลอื่น.  โดยเป็นบัญชีเดียวกันหรือชื่อบัญชีเดียวกัน      ย่อมเป็นพฤติกรรม.      ในการทำธุรกรรมทางการเงินที่ผิดปกติ 
     จำเลยซึ่งเป็นผู้มีวิชาชีพเฉพาะกิจการค้าขาย.  หรืออาชีวะ. ต้องทราบถึงวิธีการดังกล่าว และย่อมสังเกตได้ว่าเป็นเรื่องผิดปกติ และอาจเป็นการกระทำของมิจฉาชีพผู้ประกอบ.  อาชญากรรม.        ทางอิเล็กทรอนิกส์       จำเลยจึงควรมีมาตรการที่เหมาะสม.         ในการป้องกันการกระทำธุรกรรมทางการเงินโดยไม่ชอบดังกล่าวด้วย 
     การที่จำเลยแจ้งเตือน.     ให้แก่ลูกค้าผู้ใช้บริการต่าง ๆ ระมัดระวังอีเมลหลอกลวงจากมิจฉาชีพหรือที่เรียกว่า Phishing Email มาตลอด โดยมีข้อความแจ้งเตือนว่า.   “แจ้งเตือน   กรุณาอย่าหลงเชื่อ.   อีเมลปลอมจากมิจฉาชีพ     xxx     ไม่มีนโยบายในการส่งอีเมลใด ๆ.  เพื่อให้ลูกค้ากรอกข้อมูล    ชื่อผู้ใช้งาน Password หรือข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ โดยเด็ดขาด”   และ      “แจ้งเตือนโปรดระวัง.              อีเมลแอบอ้าง (Phishing Email)      ว่าเป็นอีเมลจากธนาคารหลอกลวงให้คลิกเพื่อไปยังเว็บไซต์ปลอม.      เพื่อความปลอดภัย.                   กรุณาพิมพ์ www.ttt.com”   ตามเว็บไซต์ของจำเลย ในการเข้าระบบ ลูกค้าต้องใช้ชื่อผู้ใช้ (Username)  และรหัสผ่าน (Password) ที่ลูกค้าสมัครไว้กับธนาคารเข้าสู่ระบบ. และต้องใส่รหัสโอทีพี (OTP   หรือ One Time Password)  ที่ระบบธนาคารส่งให้ที่หมายเลขโทรศัพท์ของลูกค้าเพื่อยืนยันการทำธุรกรรม.  อีกขั้นตอนหนึ่ง จึงจะสามารถทำธุรกรรมต่าง ๆ เกี่ยวกับบัญชีของตนได้ 
     มาตรการดังกล่าว.            เป็นมาตรการป้องกันความเสียหายแก่การทำธุรกรรมทางการเงิน.   ทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อไม่ให้ลูกค้าที่ใช้บริการถูกมิจฉาชีพหลอกลวง. เพื่อให้ส่งมอบชื่อผู้ใช้ และรหัสผ่านให้เพื่อนำไปใช้.         กระทำธุรกรรมทางการเงินโดยไม่ชอบ. ซึ่งเป็นข้อควรระวังในด้านของลูกค้า       แต่มาตรฐานของจำเลยในการป้องกันการโอนเงิน.  ที่เป็นการทำธุรกรรมทางการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่ชอบดังกล่าว.   ควรจะมีอยู่อย่างไร จำเลยควรจะป้องกัน.      หรือระงับยับยั้งการโอนเงินที่มีความผิดปกติดังกล่าว  เมื่อมีการโอนเงินผ่านไปแล้วกี่ครั้ง และเหตุใดพนักงานของจำเลยเพิ่งจะโทรศัพท์แจ้งเตือนไปยังโจทก์หลังจากที่มีการโอนเงินดังกล่าวครั้งที่ 12 และโอนเงินไปรวมเป็นเงิน 1,099,999 บาท แล้ว 
 ุ   ซึ่งมาตรการ.   ในการป้องกันความเสียหาย. ที่เหมาะสม.   หรือสมควรดังกล่าว อยู่ในความรู้เห็นของจำเลยฝ่ายเดียว.   จำเลยจึงมีภาระการพิสูจน์ในส่วนนี้ แต่จำเลยกลับแสดงให้เห็นว่า จำเลยไม่ได้มีมาตรการในการป้องกัน  หากเกิดการโอนเงิน.  หรือการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่ชอบในส่วนนี้เลย     และไม่ปรากฏว่าจำเลยมีมาตรการในการป้องกันความเสียหายในส่วนนี้อย่างเพียงพอ 
     แม้ในการโอนเงิน  จำเลยได้มีข้อความแจ้งเตือนไปยังโจทก์ทุกครั้งที่ทำการโอนเงินรวม 12 ครั้ง และ. พนักงานของจำเลย.      ได้โทรศัพท์ไปหาโจทก์หลังจากที่มีการโอนเงิน.     ครั้งที่  12    แล้ว มาตรการดังกล่าวถือว่าไม่เพียงพอต่อการป้องกันการโอนเงินหรือการทำรายการ.      หรือธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่ชอบ 
       นอกจากนี้. ได้ความว่าโจทก์มิใช่รายแรก.   ที่ถูกหลอกลวงในลักษณะนี้และมีอีกหลายรายที่ถูกหลอกลวงในลักษณะนี้ ย่อมแสดงให้เห็นว่าจำเลยทราบถึงพฤติกรรมการหลอกลวง และวิธีการโอนเงินโดยไม่ชอบดังกล่าว. เช่นเดียวกับคดีนี้มาก่อน.  ทั้งเหตุเกิดซ้ำ ๆ กับลูกค้าจำนวนมาก จำเลยซึ่งเป็นผู้มีวิชาชีพเฉพาะกิจการค้าขาย.  หรืออาชีวะและในฐานะที่เป็นผู้ควบคุมระบบมีความสามารถในการตรวจสอบหรือทราบถึงความผิดปกติในการทำรายการต่าง ๆ ได้แต่เพียงฝ่ายเดียว.         ยิ่งต้องเพิ่มความระมัดระวังและหามาตรการในการป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายดังเช่นที่เกิดในคดีนี้อีก หาใช่ว่าหากมีการกรอกชื่อผู้ใช้   และรหัสผ่านที่สามารถยืนยันตัวตนได้แล้วบุคคลดังกล่าว.    จะสามารถดำเนินการธุรกรรมอย่างใดก็ได้.  โดยจำเลยไม่มีหน้าที่ในการป้องกัน. ไม่ให้มีการโอนเงินที่ไม่ถูกต้องแต่อย่างใดไม่ 
      ดังนั้น    จึงไม่อาจรับฟังได้ว่าจำเลย.   ซึ่งเป็นผู้มีวิชาชีพเฉพาะกิจการค้าขายหรืออาชีวะ.  ได้ใช้ความระมัดระวังและใช้ฝีมือเท่าที่เป็นธรรมดาจะต้องใช้และสมควรจะต้องใช้ในกิจการ ค้าขาย. หรืออาชีวะอย่างนั้นแล้ว 
      อย่างไรก็ตาม เมื่อโจทก์ได้รับอีเมลที่ไม่ได้มาจากจำเลย  และมีข้อความเชื่อมโยงหรือลิงก์ ไปยังเว็บไซต์ที่เลียนแบบ.      เว็บไซต์ธนาคารจำเลย และโจทก์กรอกชื่อผู้ใช้ (username)   และรหัสผ่าน (Password) ในเว็บไซต์ดังกล่าว ทำให้มีคนร้าย.  ทราบถึงชื่อผู้ใช้ (username)          และรหัสผ่าน (Password) ของโจทก์ และนำไปใช้สมัคร xxx App    ในโทรศัพท์เคลื่อนที่     และโจทก์ยังได้กรอกหมายเลขโอทีพี (OTP หรือ One Time password) ในเว็บไซต์ดังกล่าวเป็นเหตุให้คนร้ายสามารถสมัครใช้บริการ      xxx App ได้สำเร็จ.  และเกิดการโอนเงินจากบัญชีเงินฝากของโจทก์ไปยังบัญชีอื่น 
      โจทก์เป็นผู้ใช้ บริการธุรกรรมทางการเงินอิเล็กทรอนิกส์ผ่านทางอินเทอร์เน็ตก่อนเกิดเหตุเป็นเวลากว่า 10 ปี   ทั้งตามใบแจ้งรายการบัญชีออมทรัพย์.       โจทก์ก็ได้ทำธุรกรรมทางการเงินอิเล็กทรอนิกส์ผ่านทางอินเทอร์เน็ต.     หลายครั้ง โจทก์ย่อมมีความเข้าใจ. ในการทำธุรกรรมทางการเงิน.  ผ่านช่องทางดังกล่าว และย่อมทราบถึงคำเตือนของจำเลยตามที่ปรากฏในเว็บไซต์ของจำเลย       โจทก์จึงควรมีความระมัดระวังในการตรวจสอบก่อนทำธุรกรรมดังกล่าวมากกว่าที่ปรากฏในคดีนี้  จึงถือว่าโจทก์มีส่วนทำให้เกิดความเสียหายด้วย 
       พฤติกรรมของโจทก์.      และจำเลย.    จึงถือว่ามีส่วนทำให้เกิดความเสียหายในคดีนี้ ไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน และเห็นสมควรกำหนดให้จำเลย. ต้องรับผิดชดใช้เงินให้แก่โจทก์เป็นเงิน 550,000 บาท 
       เมื่อค่าเสียหาย   ที่จำเลยต้องรับผิดเป็นหนี้เงิน.  หากชำระล่าช้าย่อมก่อให้เกิดความเสียหาย.   แก่โจทก์ซึ่งค่าเสียหายของหนี้เงินตามปกติย่อมคิดกันในรูปของดอกเบี้ย จึงเห็นควรกำหนดให้จำเลยรับผิดดอกเบี้ยดังกล่าวนับแต่วันที่อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาเป็นต้นไป  ทั้งนี้ตาม  ป.พ.พ.  มาตรา  222  วรรคหนึ่ง  โดยควรให้ในอัตราเดียวกับอัตราดอกเบี้ย.   ในระหว่างผิดนัดตาม  ป.พ.พ.  มาตรา  224  วรรคหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่อัตราร้อยละ 5 ต่อปี
#ทนายคลายทุกข์  #ธุรกรรมทางการเงินอิเล็กทรอนิกส์ผ่านทางอินเทอร์เน็ต #อินเตอร์เน็ตแบงกิ้ง
#ปรึกษาคดี โทร.02-9485700, 081-6161425, 081-8217470, 081-6252161 

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก