การคิดดอกเบี้ยของสถาบันการเงิน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1309/2565
โจทก์เป็นสถาบันการเงินที่้ได้รับอนุญาตจากกระทรวงการคลังให้ประกอบธุรกิจการธนาคารพาณิชย์ โจทก์จึงมีสิทธิเรียกเก็บดอกเบี้ยค่าบริการต่างๆ และเบี้ยปรับตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนดตาม พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยให้กู้ยืมของสถาบันการเงิน พ.ศ.2523 ประกาศกระทรวงการคลัง ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย และประกาศโจทก์ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยที่ สนส.83/2551 เรื่อง หลักเกณฑ์การปฏิบัติในเรื่องดอกเบี้ย ค่าบริการต่างๆ และเบี้ยปรับที่สถาบันการเงินอาจเรียกได้ในการประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับข้อ 5.2.1(1) กำหนดให้โจทก์มีสิทธิเรียกเก็บดอกเบี้ยในหนี้ค้างชำระหรือดอกเบี้ยในระหว่างเวลาผิดนัดชำระหนี้ค่าบริการต่างๆ หรือเบี้ยปรับในการชำระหนี้ล่าช้ากว่ากำหนดจากจำเลยซึ่งเป็นผู้บริโภค เมื่อคำนวณรวมกันแล้วต้องไม่เกินร้อยละ 28 ต่อปี และข้อ 5.2.1(2) กำหนดให้โจทก์มีสิทธิเรียกเก็บค่าใช้จ่ายตามที่ได้จ่ายไปจริง และพอสมควรแก่เหตุอีกส่วนหนึ่งแยกต่างหากจากกัน ดังนั้น โจทก์จึงมีสิทธิคิดค่าติดตามทวงถามจากจำเลยได้
ค่าติดตามทวงถามเป็นคนละส่วนกับดอกเบี้ยในหนี้ค้างชำระหรือดอกเบี้ยในระหว่างเวลาผิดนัดชำระหนี้ หรือค่าบริการต่างๆ หรือเบี้ยปรับในการชำระหนี้ล่าช้ากว่ากำหนดตามข้อ 5.1.1(1) จึงไม่อาจนำค่าติดตามทวงถามมารวมกับการคิดดอกเบี้ยของโจทก์ได้ เมื่อโจทก์คิดดอกเบี้ยจากจำเลยในอัตราร้อยละ 28 ต่อปี การคิดดอกเบี้ยของโจทก์จึงชอบด้วยกฎหมายแล้ว
#ทนายคลายทุกข์ #ดอกเบี้ยตามกฎหมาย #สถาบันการเงิน #แบงก์ชาติ
#ปรึกษาคดี โทร.02-9485700, 081-6161425, 081-8217470, 081-6252161