ข้อตกลงหรือสัญญาระงับสิทธิดำเนินคดีอาญา ที่เป็นความผิดต่อส่วนตัวหรือความผิดอันยอมความได้ ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน เพราะการยอมความย่อมทำให้ความผิดอาญาระงับได้
คำพิพากษาฎีกาที่ 1428-1429/2545
โจทก์และจำเลยทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน พร้อมสิ่งปลูกสร้าง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อชำระหนี้กันในทางแพ่งเฉพาะที่เกี่ยวกับความผิดฐานยักยอกและฉ้อโกงตาม ป.อ.มาตรา 352 และมาตรา 341 ซึ่งจำเลยได้กระทำความผิดต่อโจทก์อันเป็นความผิดอันยอมความได้ สัญญาจะซื้อจะขายดังกล่าวจึงสมบูรณ์บังคับใช้ต่อกันได้ หาได้เป็นสัญญาที่มีวัตถุประสงค์ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน ป.พ.พ.มาตรา 150 ไม่ จึงไม่ตกเป็นโมฆะ เมื่อจำเลยไม่ไปจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างให้โจทก์ภายในกำหนดสัญญา โจทก์จึงฟ้องบังคับจำเลยให้ปฏิบัติตามสัญญาได้
ตัวบทกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 352 ผู้ใดครอบครองทรัพย์ซึ่งเป็นของผู้อื่น หรือซึ่งผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย เบียดบังเอาทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือบุคคลที่สามโดยทุจริต ผู้นั้นกระทำความผิดฐานยักยอก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าทรัพย์นั้นได้ตกมาอยู่ในความครอบครองของผู้กระทำความผิด เพราะผู้อื่นส่งมอบให้โดยสำคัญผิดไปด้วยประการใด หรือเป็นทรัพย์สินหายซึ่งผู้กระทำความผิดเก็บได้ ผู้กระทำต้องระวางโทษแต่เพียงกึ่งหนึ่ง
มาตรา 341 ผู้ใดโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม ทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานฉ้อโกง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
#ทนายคลายทุกข์ #ขัดต่อความสงบเรียบร้อย #ยอมความ #สละสิทธิดำเนินคดี
#ปรึกษาคดี โทร.02-9485700, 081-6161425, 081-8217470, 081-6252161