โอนที่หนี เจ้าหนี้ตามได้
ลองอ่านฎีกาใหม่และข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เอาไปใช้ประโยชน์ได้นะครับ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 225/2563
ตามคำฟ้องของโจทก์ขอให้เพิกถอนนิติกรรมการโอนที่ดิน อ้างว่า จำเลยที่ 1 ร่วมกับจำเลยที่ 3 ลูกหนี้ของโจทก์ได้สมคบกันโอนให้แก่จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นบุตรของจำเลยที่ 1 และเป็นพี่น้องร่วมมารดาเดียวกับจำเลยที่ 3 โดยเสน่หา อันเป็นทางให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ของจำเลยที่ 3 โดยเสน่หา อันเป็นทางให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ของจำเลยที่ 3 เสียเปรียบ กรณีต้องด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 237 เมื่อโจทก์ฟ้องจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นลูกหนี้เข้ามาในคดีด้วย แม้นิติกรรมที่ขอให้เพิกถอนนั้นทำขึ้นระหว่างจำเลยที่ 1 ผู้มีชื่อในโฉนดที่ดินกับจำเลยที่ 2 แต่เมื่อจำเลยที่ 3 มีสิทธิในที่ดินซึ่งเป็นมรดกในโฉนดที่ดินกับจำเลยที่ 2 แต่เมื่อจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นลูกหนี้เข้ามาในคดีด้วย แม้นิติกรรมที่ขอให้เพิกถอนนั้นทำขึ้นระหว่างจำเลยที่ 1 ผู้มีชื่อในโฉนดที่ดินกับจำเลยที่ 2 แต่เมื่อจำเลยที่ 3 มีสิทธิในที่ดินซึ่งเป็นมรดกอยู่หนึ่งในสามส่าวนและโจทก์กล่าวอ้างว่าจำเลยที่ 1 ร่วมกับจำเลยที่ 3 สมคบกันโอนที่ดินให้แก่จำเลยที่ 2 โจทก์ชอบที่จะร้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมการโอนที่ดินให้แก่จำเลยที่ 2 โจทก์ชอบที่จะร้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมการโอนที่ดินระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 ได้
จำเลยที่ 1 ร่วมกับจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นลูกหนี้ของโจทก์โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินจำเลยที่ 3 มีส่วนได้รับมรดกให้แก่จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นบุตรบุญธรรมของจำเลยที่ 3 มีส่วนได้รับดกให้แก่จำเลยที่ 2 เป็นบุตรจำเลยที่ 1 และเป็นพี่น้องร่วมมารดาเดียวกับจำเลยที่ 3 โดยเสน่หา เมื่อเป็นการให้โดยเสน่หาเพียงแต่จำเลยที่ 3 ลูกหนี้เป็นผู้รู้ว่าตนเป็นหนี้โจทก์ฝ่ายเดียวเท่านั้นก็พอแล้วที่โจทก์จะขอเพิกถอนการฉ้อฉลได้ โดยจำเลยที่ 2 ไม่ต้องรู้ว่าจำเลยที่ 3 เป็นหนี้โจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 237 วรรคหนึ่งตอนท้าย เมื่อจำเลยที่ 3 ไม่มีทรัพย์สินอื่นที่จะชำระหนี้อันเป็นที่เสียหายแก่โจทก์เป็นทางให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้เสียเปรียบ โจทก์มีสิทธิฟ้องขอให้เพิกถอนการโอนระหว่างจำเลยทั้งสองได้
ตัวบทกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 237 เจ้าหนี้ชอบที่จะร้องขอให้ศาลเพิกถอนเสียได้ซึ่งนิติกรรมใด ๆ อันลูกหนี้ได้กระทำลงทั้งรู้อยู่ว่าจะเป็นทางให้เจ้าหนี้เสียเปรียบ แต่ความข้อนี้ท่านมิให้ใช้บังคับ ถ้าปรากฏว่าในขณะที่ทำนิติกรรมนั้น บุคคลซึ่งเป็นผู้ได้ลาภงอกแต่การนั้นมิได้รู้เท่าถึงข้อความจริงอันเป็นทางให้เจ้าหนี้ต้องเสียเปรียบนั้นด้วย แต่หากกรณีเป็นการทำให้โดยเสน่หา ท่านว่าเพียงแต่ลูกหนี้เป็นผู้รู้ฝ่ายเดียวเท่านั้นก็พอแล้วที่จะขอเพิกถอนได้
บทบัญญัติดังกล่าวมาในวรรคก่อนนี้ ท่านมิให้ใช้บังคับแก่นิติกรรมใดอันมิได้มีวัตถุเป็นสิทธิในทรัพย์สิน
จ่ายสินบินเพื่อเข้ารับราชการ หากถูกหลอกหรือจูงใจให้จ่ายโดยคนกลาง ผู้ที่จ่ายถือเป็นผู้เสียหาย ไม่ต้องร่วมรับผิด
#ปรึกษาคดี โทร.02-9485700, 081-6161425, 081-8217470,081-6252161
#หนีหนี้ #ยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน
#ทนายคลายทุกข์