แม้เกิน10ปีนับแต่ศาลพิพากษาแล้ว แต่ผู้รับจำนองก็ยังมีสิทธิบังคับจำนองได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 224/2563
จำเลยที่ 3 และที่ 4 เจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินโฉนดเลขที่ 18255 พร้อมสิ่งปลูกสร้างได้จดทะเบียนจำนองที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวเป็นประกันหนี้ของจำเลยที่ 1 ที่มีต่อธนาคาร ศ. แล้วผิดนัดชำระหนี้ ธนาคาร ศ. จึงได้ฟ้องจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 3 และจำเลยที่ 4 ให้ชำระหนี้และบังคับจำนอง ศาลจังหวัดสมุทรสาครมีคำพิพากษาตามยอมเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2544 ให้จำเลยที่ 1 จำเลยที่ 3 และจำเลยที่ 4 ร่วมกันชำระหนี้ให้แก่บริษัทบริหารสินทรัพย์ พ. ผู้เข้าสวมสิทธิแทนโจทก์ภายใน 6 เดือน นับจากวันทำสัญญาประนีประนอมยอมความ หากไม่ชำระให้บังคับจำนองที่ดินโฉนดเลขที่ 18255 พร้อมสิ่งปลูกสร้าง แต่ภายหลังครบกำหนดชำระหนี้ตามคำพิพากษาตามยอม (วันที่ 14 มิถุนายน 2545) จำเลยทั้งสามผิดนัดชำระหนี้โดยไม่ปรากฎว่าบริษัทบริหารสินทรัพย์ พ. ได้บังคับคดียึดทรัพย์จำนองที่ดินโฉนดเลขที่ 18255 พร้อมสิ่งปลูกสร้างออกขายทอดตลาด แต่บริษัทบริหารสินทรัพย์ พ. ได้มีการโอนสิทธิเรียกร้องในหนี้ตามคำพิพากษาของศาลจังหวัดสมุทรสาครให้แก่ผู้ร้อง ตามพระราชกำหนดบริษัทบริหารสินทรัพย์ พ.ศ.2541 และศาลจังหวัดสมุทรสาครมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องเข้าสวมสิทธิแทนโจทก์แล้ว
แม้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 271(เดิม) (มาตรา 274 ปัจจุบัน) ผู้ร้องต้องขอให้บังคับคดีภายในระยะเวลา 10 ปี นับแต่วันที่จำเลยทั้งสามผิดนัดชำระหนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ (วันที่ 14 มิถุนายน 2545) ก็ตาม เมื่อข้อเท็จจริงปรากฎว่าผู้ร้องยื่นคำร้องขอกันส่วนเป็นคดีนี้วันที่ 8 สิงหาคม 2559 พ้นระยะเวลา 10 ปี จากวันดังกล่าวก็มีผลเพียงทำให้ผู้ร้องหมดสิทธิบังคับคดีในคดีดังกล่าว แต่ไม่เป็นเหตุให้หนี้จำนองระงับสิ้นไป ทรัพยสิทธิจำนองยังคงมีอยู่และสามารถใช้ยันต่อลูกหนี้จำนองหรือต่อบุคคลภายนอกที่รับโอนทรัพย์สินจำนองนั้นต่อไปได้ แต่ทั้งนี้ผู้ร้องจะบังคับดอกเบี้ยเกินกว่าห้าปีไม่ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/27 และมาตรา 745 ประกอบกับการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาย่อมไม่กระทบกระเทือนถึงบุริมสิทธิของผู้รับจำนองซึ่งอาจร้องขอให้บังคับคดีเหนือทรัพย์นั้นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 287(เดิม) (มาตรา 322 ปัจจุบัน) เมื่อผู้ร้องเป็นผู้รับโอนสิทธิของผู้รับจำนองในที่ดินโฉนดเลขที่ 18255 พร้อมสิ่งปลูกสร้างที่โจทก์คดีนี้นำยึด และขอให้ขายทอดตลาดโดยปลอดจำนองได้ใช้สิทธิตามมาตรา 287(เดิม) ผู้ร้องจึงมีสิทธิขอกันเงินจากการขายทอดตลาดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 287(เดิม) ได้