สมัครใจเลิกสัญญากัน คู่สัญญาต้องกลับคืนสู่ฐานะเดิม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6952/2562
โจทก์ฟ้องว่า สัญญาระหว่างโจทก์และจำเลยที่ 1 เลิกกันโดยโจทก์บอกเลิกสัญญา และจำเลยที่ 1 มีหน้าที่ต้องคืนเงินล่วงหน้าที่ยังเหลืออยู่ให้แก่โจทก์ ดังนั้น ศาลจะต้องรับฟังข้อเท็จจริงและวินิจฉัยว่า สัญญาตามฟ้องระหว่างโจทก์และจำเลยที่ 1 เลิกกันหรือไม่ เมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 2 รับฟังพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายแล้วเห็นว่าสัญญาระหว่างโจทก์และจำเลยที่ 1 เลิกกันโดยปริยาย ก็ย่อมมีอำนาจที่จะหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้ มิได้เป็นการพิพากษาที่เกินไปกว่าหรือนอกจากที่ปรากฎในคำฟ้องอันจะเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142
โจทก์และจำเลยที่ 1 ต่างสมัครใจที่จะเลิกสัญญาต่อกันโดยปริยาย ไม่จำต้องมีการบอกเลิกสัญญาถือได้ว่า คู่สัญญาได้ตกลงเลิกสัญญากันโดยปริยายแล้ว กรณีต้องบังคับตามความในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 391 วรรคหนึ่ง จำเลยที่ 1 จึงต้องคืนเงินวางล่วงหน้าเป็นประกันจำนวนที่ยังคงเหลืออยู่ตามฟ้องให้แก่โจทก์ ที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยมานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยที่ 1 ฟังไม่ขึ้น