งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ
ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ
สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ
รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ
อุทธรณ์คำสั่งระหว่างพิจารณาคดีอาญา ต้องอุทธรณ์คำพิพากษาไปด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6187/2562
ในวันนัดพิจารณาเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2560 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า การที่จำเลยขอถอนคำให้การรับสารภาพเป็นให้การปฏิสธ ไม่มีเหตุผลอันสมควรและล่วงเลยระยะเวลาแล้ว จึงไม่อนุญาตให้จำเลยถอนคำให้การและเลื่อนไปนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 21 ธันวาคม 2560 คำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าวจึงเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาไม่ทำให้คดีเสร็จสำนวน ซึ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 196 บัญญัติว่า "คำสั่งระหว่างพิจารณาที่ไม่ทำให้คดีเสร็จสำนวน ห้ามมิให้อุทธรณ์คำสั่งนั้นจนกว่าจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งในประเด็นสำคัญและมีอุทธรณ์คำพิพากษาหรือคำสั่งนั้นด้วย" ดังนั้น เมื่อจำเลยอุทธรณ์คำสั่งระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น จำเลยต้องอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นด้วยบทบัญญัติดังกล่าว แต่อุทธรณ์ของจำเลยที่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นกล่าวเพียงว่า ศาลชั้นต้นยกคำร้องของจำเลยในการถอนคำให้การเป็นการตัดสิทธิจำเลยต่อสู้คดี ทำให้ข้อเท็จจริงไม่เพียงพอแก่การวินิจฉัย จึงไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น เป็นเพียงการอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้จำเลยถอนคำให้การซึ่งเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้นที่ไม่ทำให้คดีเสร็จสำนวน ไม่ได้อุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้นที่ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 วรรคสอง จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 196