คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2486/2558

บทความวันที่ 30 พ.ย. 2563, 16:38

มีผู้อ่านทั้งหมด 1737 ครั้ง

การฟ้องเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบต้องทำอย่างไร

1.คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2486/2558
              ป.อ. มาตรา 157 บัญญัติว่า "ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด..." อันถือว่าเป็นองค์ประกอบของความผิดฐานนี้ โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยที่ 4 เป็นเจ้าพนักงานตำรวจตำแหน่งพนักงานสอบสวน มีหน้าที่สืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดตามกฎหมาย ได้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กล่าวคือ เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2546 โจทก์แจ้งความว่าจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ทำร้ายร่างกายโจทก์จนได้รับอันตรายสาหัส และลักทรัพย์ 450 บาทไป จำเลยที่ 4 หารับคำร้องทุกข์ของโจทก์ไม่ เท่านั้น โจทก์ไม่ได้บรรยายให้เห็นว่าจำเลยที่ 4 กระทำไปโดยมีเจตนาพิเศษเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด คำฟ้องของโจทก์จึงขาดองค์ประกอบความผิดตาม ป.อ. มาตรา 157 ไม่ชอบด้วย ป.วิ.อ. มาตรา 158 (5) ปัญหานี้เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดยกขึ้นฎีกา ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้เองตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225

2. คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7881/2561
           ความผิดตามฟ้องต้องเป็นกรณีที่เจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบโดยมีเจตนาพิเศษเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด แม้โจทก์ทั้งสองบรรยายฟ้องได้ความว่า จำเลยซึ่งเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ  แต่หาได้บรรยายฟ้องว่าการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของจำเลยเป็นการกระทำโดยมีเจตนาเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ทั้งสองอย่างไรไม่  ที่โจทก์ทั้งสองอ้างว่าการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของจำเลยทำให้โจทก์ทั้งสองได้รับความเสียหาย ความเสียหายดังกล่าวก็เป็นเพียงผลที่เกิดขึ้นในภายหลังจากการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของจำเลย มิใช่เกิดจากเจตนาของจำเลยที่ต้องการให้โจทก์ทั้งสองได้รับความเสียหายมาแต่แรก  ฟ้องโจทก์จึงไม่ครบองค์ประกอบความผิดฐานเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตาม ป.อ.มาตรา 157 เป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วย ป.วิ.อ.มาตรา 158(5)