โจทก์ฎีกาขอให้นำโทษจำคุกที่รอไว้มาบวกกับโทษในคดีนี้ จำเลยไม่แก้ฎีกา ถือว่ายอมรับว่าเคยต้องคำพิพากษาในคดีที่ขอให้บวกโทษแล้ว ศาลบวกโทษได้
คดีนี้ ก่อนนัดฟังคำพิพากษาศาลชั้นต้น โจทก์ขอแก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้อง ขอให้บวกโทษจำคุกที่รอไว้เข้ากับโทษในคดีนี้ แต่ศาลไม่ได้สอบถามและโจทก์ไม่ได้สืบว่าจำเลยเป็นคนเดียวกับคดีที่ขอให้บวกโทษหรือไม่ ศาลชั้นต้นจึงไม่สามารถพิพากษาบวกโทษที่รอไว้เข้ากับคดีนี้ได้
ต่อมาจำเลยยื่นอุทธรณ์ขอให้ศาลรอการลงโทษ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแล้ว โจทก์ฎีกา และขอให้นำโทษจำคุกที่รอไว้มาบวกเข้ากับโทษตามคำพิพากษาในคดีนี้ และได้แนบคำพิพากษาคดีเดิมมาท้ายฎีกาด้วยแล้ว จำเลยไม่แก้ฎีกา ถือได้ว่ายอมรับว่าเป็นคนเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์ขอให้บวกโทษที่รอไว้ ศาลฎีกาพิพากษาให้บวกโทษที่รอไว้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4344/2561
คดีนี้จำเลยให้การรับสารภาพทุกข้อหาตามฟ้องโจทก์ ในระหว่างนัดฟังคำพิพากษาศาลชั้นต้น โจทก์ยื่นคำร้องขอเพิ่มเติมฟ้อง ขอให้บวกโทษจำคุกที่ศาลรอการลงโทษไว้ในคดีก่อน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์เพิ่มเติมฟ้อง โดยศาลชั้นต้นไม่ได้สอบถามและโจทก์ไม่ได้นำสืบให้ได้ความว่าจำเลยเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีก่อนที่โจทก์ขอให้บวกโทษ การที่ศาลชั้นต้นนำโทษจำคุกที่รอการลงโทษไว้ในคดีก่อนบวกเข้ากับโทษในคดีนี้ของจำเลยจึงไม่ถูกต้อง แต่ในชั้นอุทธรณ์ จำเลยอุทธรณ์โต้แย้งดุลพินิจในการลงโทษจำคุกของศาลชั้นต้น โดยขอให้ลงโทษสถานเบาและรอการลงโทษจำคุก และในชั้นฎีกาโจทก์ฎีกาขอให้นำโทษจำคุกที่รอการลงโทษไว้ในคดีก่อนมาบวกเข้ากับโทษจำคุกของจำเลยในคดีนี้ โดยได้แนบคำพิพากษาในคดีก่อนที่ขอให้บวกโทษมาท้ายฎีกาด้วย ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับฎีกาและส่งสำเนาให้จำเลยแก้ฎีกาแล้ว แต่จำเลยไม่ยื่นคำแก้ฎีกาภายในกำหนดคัดค้านว่าคำพิพากษาที่ขอให้บวกโทษแนบท้ายฎีกาของโจทก์ดังกล่าวไม่ถูกต้องแต่อย่างใด กรณีถือได้ว่าจำเลยได้ยอมรับในข้อที่เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดในคดีก่อนที่ขอให้บวกโทษ และความได้ปรากฏแก่ศาลแล้ว เมื่อคดีก่อนที่ขอให้บวกโทษศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุด จำเลยกลับมากระทำความผิดในคดีนี้ ภายในกำหนดระยะเวลาที่รอการลงโทษไว้ในคดีก่อน ศาลฎีกาจึงย่อมมีอำนาจนำโทษจำคุกที่รอการลงโทษไว้ในคดีก่อนมาบวกเข้ากับโทษในคดีนี้ได้
ตัวบทกฏหมายอ้างอิง
ประมวลกฏหมายอาญา
มาตรา 58 เมื่อความปรากฏแก่ศาลเอง หรือความปรากฏตามคำแถลงของโจทก์หรือเจ้าพนักงานว่า ภายในเวลาที่ศาลกำหนดตามมาตรา 56 ผู้ที่ถูกศาลพิพากษาได้กระทำความผิดอันมิใช่ความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ และศาลพิพากษาให้ลงโทษจำคุกสำหรับความผิดนั้น ให้ศาลที่พิพากษาคดีหลังกำหนดโทษที่รอการกำหนดไว้ในคดีก่อนบวกเข้ากับโทษในคดีหลัง หรือบวกโทษที่รอการลงโทษไว้ในคดีก่อนเข้ากับโทษในคดีหลัง แล้วแต่กรณี
แต่ถ้าภายในเวลาที่ศาลได้กำหนดตามมาตรา 56 ผู้นั้นมิได้กระทำความผิดดังกล่าวมาในวรรคแรก ให้ผู้นั้นพ้นจากการที่จะถูกกำหนดโทษ หรือถูกลงโทษในคดีนั้น แล้วแต่กรณี