ปล่อยตัวไปแล้วข่มขู่พยาน ขอให้ถอนประกันตัวผู้ต้องหาหรือจำเลย|ปล่อยตัวไปแล้วข่มขู่พยาน ขอให้ถอนประกันตัวผู้ต้องหาหรือจำเลย

ปล่อยตัวไปแล้วข่มขู่พยาน ขอให้ถอนประกันตัวผู้ต้องหาหรือจำเลย

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

ปล่อยตัวไปแล้วข่มขู่พยาน ขอให้ถอนประกันตัวผู้ต้องหาหรือจำเลย

  • Defalut Image

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 107/2537

บทความวันที่ 14 ส.ค. 2562, 11:23

มีผู้อ่านทั้งหมด 928 ครั้ง


ปล่อยตัวไปแล้วข่มขู่พยาน ขอให้ถอนประกันตัวผู้ต้องหาหรือจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 107/2537
             แม้คำสั่งศาลอุทธรณ์ที่ยืนตามคำสั่งศาลชั้นต้นให้เพิกถอนการปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 4 จะไม่ถึงที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 119 ทวิ วรรคสาม ตามที่จำเลยที่ 4 ฎีกาก็ตาม แต่คำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้เพิกถอนการปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 4 เป็นกรณีที่ศาลชั้นต้นเห็นว่า การปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 4 อาจก่อให้เกิดภัยอันตรายแก่พยานและเกิดความเสียหายแก่การดำเนินกระบวนพิจารณาของศาล ซึ่งเป็นดุลพินิจของศาลชั้นต้นที่พิจารณาโดยอาศัยหลักเกณฑ์แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 108 เพื่อให้การดำเนินกระบวนพิจารณาเป็นไปโดยไม่เกิดความเสียหายแก่คดีในระหว่างพิจารณาจึงเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาที่ไม่ทำให้คดีเสร็จสำนวนกรณีจึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์คำสั่งนั้นในระหว่างพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 196 ศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยที่ 4 มาจึงเป็นการไม่ถูกต้อง ไม่มีผลให้จำเลยที่ 4มีสิทธิฎีกา

คำร้องคำสั่งศาลฎีกาที่ 1633/2548
             คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยจำเลยชั่วคราวโดยหาหลักประกันเพิ่มเป็นคนละ 12 ล้านบาท จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งว่าศาลชั้นต้นเรียกหลักประกันสูงเกินไป ขอให้ศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ปล่อยจำเลยทั้งสองชั่วคราวโดยเรียกประกันไม่เกินคนละ 1 ล้านบาท ศาลอุทธรณ์มิได้วินิจฉัยในประเด็นที่จำเลยทั้งสองอุทธรณ์  โดยศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่า "ไม่ปรากฎว่าศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยทั้งสองในระหว่างพิจารณา  กรณีจึงไม่อาจอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นแก้ ให้ยกคำร้อง" คำสั่งของศาลอุทธรณ์จึงมิใช่คำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวยืนตามศาลชั้นต้นอันเป็นคำสั่งที่เป็นที่สุดตาม ป.วิ.อ.มาตรา 119 ทวิ  วรรคท้าย  จำเลยทั้งสองจึงมีสิทธิฎีกาคำสั่งของศาลอุทธรณ์

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก