งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ
ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ
สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ
รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ
เป็นชู้กับสามีตัวเองกับการที่ไปหมิ่นประมาท เป็นคนละประเด็นกัน
เมียหลวงถูกแย่งสามี ต้องใช้สิทธิเรียกร้องฟ้องศาลเรียกค่าทดแทนทางแพ่งได้เท่านั้น ไม่มีสิทธิที่จะไปด่าทอหรือตัดสินปัญหาด้วยตนเอง ถ้าไปด่าเมียน้อยให้ได้รับความเสียหายอาจมีบทลงโทษถึงจำคุก
ทนายคลายทุกข์ขอนำคดีผู้หญิงคนหนึ่งระดับไฮโซ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าแย่งสามีชาวบ้าน และโดนเมียหลวงโทรศัพท์ด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคายหลายครั้งหลายหนติดต่อกัน โดยเมียหลวงได้พยายามค้นหาเบอร์โทรศัพท์ของผู้หญิงคนดังกล่าวที่สงสัยว่าจะเป็นชู้กับสามีตัวเอง พฤติการณ์ของเมียหลวงมีรายละเอียดคร่าว ๆ ดังนี้
- พยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับโทรศัพท์ที่ทำงาน หลังจากนั้นโทรศัพท์ไปยังบริษัทดังกล่าวเพื่อพยายามประชาสัมพันธ์ตัวเองว่าเป็นเมียหลวง และถูกแย่งสามีโดยผู้ที่แย่งสามีคือ ผู้เสียหายในคดีนี้ และใช้คำพูดหยาบ ๆ คาย ๆ เช่น มั่วผู้ชาย สำส่อน ขายตัว เป็นต้น
- เช็คเบอร์โทรศัพท์ คัดทะเบียนบ้านของผู้เสียหาย หลังจากนั้นโทรไปก่อกวนตามตู้ยามบริษัท และใส่ความในลักษณะว่า แย่งผัวชาวบ้าน โดยกระทำการซ้ำ ๆ ซาก ๆ หลายครั้ง
- โทรศัพท์ไปยังบ้านของผู้เสียหาย ใช้ข้อความหมิ่นประมาท ลักษณะเดียวกันอีกหลายครั้งหลายหน
- โทรศัพท์ไปยังมือถือของญาติพี่น้องของผู้เสียหาย ใช้ถ้อยคำหมิ่นประมาท หยาบ ๆ คาย ๆ เหมือนเดิม
- นอกจากนี้ยังใช้วิธีการส่งจดหมายเขียนข้อความใส่ร้าย ดูถูกเหยียดหยามว่าเป็นผู้หญิงสำส่อน มั่วผู้ชายอีกหลายฉบับ
คดีนี้ได้มีการต่อสู้มาเป็นเวลานานตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 เรื่อยมาจนถึงปี พ.ศ. 2553 มีประเด็นที่น่าสนใจที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ วินิจฉัยต่างกัน ซึ่งพนักงานสอบสวนน่าจะนำไปเป็นบทเรียนในกรณีมีเมียน้อยเมียหลวงมาแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีหมิ่นประมาทจะได้เอามาเป็นบรรทัดฐานในการบริการประชาชนต่อไป คดีนี้ถือว่าคลาสสิคมาก
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยเกี่ยวกับคดีที่ผู้หญิงที่เป็นผู้เสียหายถูกกล่าวหาว่าเป็นเมียน้อยฟ้องเมียหลวงว่าหมิ่นประมาท โดยวินิจฉัยให้ผู้หญิงที่ถูกกล่าวหาว่าแย่งผัวชาวบ้านแพ้คดี โดยวินิจฉัยว่า โจทก์เคยเขียนจดหมายไปถึงสามีของจำเลย มีข้อความว่า ทั้งโจทก์และสามีจำเลยมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดในทำนองชู้สาว และหลังจากนั้นทั้งโจทก์และจำเลยต่างเคยพูดจากันทางโทรศัพท์ และมีการยั่วยุท้าทายซึ่งกันและกันว่า จำเลยกล่าวหาว่าโจทก์แย่งสามีจำเลย โดยต่างคนต่างโทรศัพท์ด่ากันไปด่ากันมา เมื่อศาลพิเคราะห์ถึงมูลเหตุที่จำเลยโทรศัพท์ด่าโจทก์ ก็มีมูลเหตุสืบเรื่องมาจากสามีของจำเลยกับโจทก์มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดในเชิงชู้สาว ทำให้จำเลยเกิดความหึงหวงในตัวสามี ทั้งโจทก์และจำเลยต่างมีส่วนก่อให้เกิดการกระทำความผิดไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน ต่างคนต่างโทรศัพท์ด่ากันและกล่าวหาซึ่งกันและกัน ถือว่าโจทก์เป็นผู้มีส่วนร่วมหรือก่อให้จำเลยกระทำความผิด โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายโดยนิตินัย โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง พิพากษายกฟ้อง คดีนี้ศาลชั้นต้นมองว่า เป็นเรื่องของผู้หญิง 2 คน ที่มาชอบผู้ชายคนเดียวกัน และมองว่าทั้งสองคนต่างคนต่างด่าจึงไม่ใช่ผู้เสียหาย คดีนี้ผมในฐานะที่เป็นทนายความของโจทก์ก็ได้มีการยื่นอุทธรณ์ไปยังศาลอุทธรณ์ ต่อมาศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษา ซึ่งผมจะนำมาเฉพาะส่วนที่สำคัญสั้น ๆ เพื่อให้พนักงานสอบสวนนำไปใช้เป็นข้อมูลในการร้องทุกข์ต่อไป ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า “ ความผิดที่จำเลยทำ กับความผิดที่โจทก์ถูกกล่าวหาว่าเป็นชู้สาวกับสามีจำเลย เป็นคนละประเด็นกัน จำเลยทำความผิดอันเนื่องจากความหึงหวงส่วนตัว ได้โทรไปด่าทอโจทก์ให้พยานทั้ง 4 ฟัง ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย อับอาย ศาลเห็นว่า จำเลยกระทำความผิดจริง จึงพิพากษา จำคุกกระทงละ 2 เดือน 5 กระทง รวม 10 เดือน แต่รอลงอาญา 2 ปี และอยู่ในการควบคุม และเสียค่าปรับ 10,000 บาท”
ดังนั้น ถ้าท่านเป็นพนักงานสอบสวนมีประชาชนมาร้องทุกข์ ซึ่งส่วนใหญ่คนที่ถูกด่ามักจะเป็นเมียน้อย เมื่อเมียน้อยถูกเมียหลวงด่า พนักงานสอบสวนจะต้องรับคำร้องทุกข์ และดำเนินคดีตามกฎหมายถ้าเข้าองค์ประกอบความผิดฐาน หมิ่นประมาท เพราะเมียหลวงมีสิทธิในตัวสามีตามกฎหมาย แต่ถ้าเมียน้อยมายุ่งเกี่ยวกับสามีตัวเองจะต้องใช้สิทธิทางศาลโดยการฟ้องเรียกค่าทดแทนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1523 วรรคสอง ได้กำหนดสิทธิของเมียหลวงไว้แล้วอย่างชัดเจนที่จะเรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่นที่แสดงตนโดยเปิดเผย เพื่อแสดงว่าตนมีความสัมพันธ์กับสามีในทำนองชู้สาวได้ แต่กฎหมายไม่ได้ให้สิทธิเมียหลวงไปด่าเมียน้อย ในกรณีที่พบว่าเมียน้อยมีความสัมพันธ์กับสามีตัวเอง เพราะถ้าเมียหลวงสามารถไปด่าเมียน้อยได้ โดยไม่ผ่านกระบวนการยุติธรรม ก็เท่ากับว่าเมียหลวงตัดสินคดีด้วยตนเอง เมียน้อยซึ่งถูกด่าก็อาจจะตอบโต้ด้วยความรุนแรง สังคมก็จะไม่สงบสุข คดีนี้เป็นอุทาหรณ์สำหรับเมียหลวงและเมียน้อยว่า อย่าคิดแย่งผัวชาวบ้าน มันเป็นความสุขที่มีความทุกข์มากมายตามมาอย่างหาที่สิ้นสุดไม่ได้ ในทางกลับกันเมียหลวงถ้าพบว่ามีหญิงอื่นมาเป็นชู้กับสามีตัวเอง ต้องใช้สิทธิทางศาลอย่าพิพากษาด้วยตนเอง มิฉะนั้นอาจต้องติดคุกถึง 10 เดือนเหมือนคดีนี้ ทนายคลายทุกข์ขอฝากคำคมก่อนจบบทความว่า “ผัวเดียวก็เกินพอ อย่าคิดไปยุ่งกับผัวชาวบ้าน จุดจบไม่สวย”