เป็นชู้กับสามีตัวเองกับการที่ไปหมิ่นประมาท เป็นคนละประเด็นกัน|เป็นชู้กับสามีตัวเองกับการที่ไปหมิ่นประมาท เป็นคนละประเด็นกัน

เป็นชู้กับสามีตัวเองกับการที่ไปหมิ่นประมาท เป็นคนละประเด็นกัน

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

เป็นชู้กับสามีตัวเองกับการที่ไปหมิ่นประมาท เป็นคนละประเด็นกัน

เมียหลวงถูกแย่งสามี ต้องใช้สิทธิเรียกร้องฟ้องศาลเรียกค่าทดแทนทางแพ่งได้เท่านั้น

บทความวันที่ 20 เม.ย. 2553, 00:00

มีผู้อ่านทั้งหมด 11161 ครั้ง


 

เป็นชู้กับสามีตัวเองกับการที่ไปหมิ่นประมาท เป็นคนละประเด็นกัน

 

            เมียหลวงถูกแย่งสามี ต้องใช้สิทธิเรียกร้องฟ้องศาลเรียกค่าทดแทนทางแพ่งได้เท่านั้น ไม่มีสิทธิที่จะไปด่าทอหรือตัดสินปัญหาด้วยตนเอง ถ้าไปด่าเมียน้อยให้ได้รับความเสียหายอาจมีบทลงโทษถึงจำคุก

                ทนายคลายทุกข์ขอนำคดีผู้หญิงคนหนึ่งระดับไฮโซ  ซึ่งถูกกล่าวหาว่าแย่งสามีชาวบ้าน และโดนเมียหลวงโทรศัพท์ด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคายหลายครั้งหลายหนติดต่อกัน โดยเมียหลวงได้พยายามค้นหาเบอร์โทรศัพท์ของผู้หญิงคนดังกล่าวที่สงสัยว่าจะเป็นชู้กับสามีตัวเอง พฤติการณ์ของเมียหลวงมีรายละเอียดคร่าว ๆ ดังนี้

-  พยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับโทรศัพท์ที่ทำงาน หลังจากนั้นโทรศัพท์ไปยังบริษัทดังกล่าวเพื่อพยายามประชาสัมพันธ์ตัวเองว่าเป็นเมียหลวง และถูกแย่งสามีโดยผู้ที่แย่งสามีคือ ผู้เสียหายในคดีนี้ และใช้คำพูดหยาบ ๆ คาย ๆ เช่น มั่วผู้ชาย สำส่อน ขายตัว เป็นต้น

-  เช็คเบอร์โทรศัพท์ คัดทะเบียนบ้านของผู้เสียหาย หลังจากนั้นโทรไปก่อกวนตามตู้ยามบริษัท และใส่ความในลักษณะว่า แย่งผัวชาวบ้าน โดยกระทำการซ้ำ ๆ ซาก ๆ หลายครั้ง

-  โทรศัพท์ไปยังบ้านของผู้เสียหาย ใช้ข้อความหมิ่นประมาท ลักษณะเดียวกันอีกหลายครั้งหลายหน

-  โทรศัพท์ไปยังมือถือของญาติพี่น้องของผู้เสียหาย ใช้ถ้อยคำหมิ่นประมาท หยาบ ๆ คาย ๆ เหมือนเดิม

-  นอกจากนี้ยังใช้วิธีการส่งจดหมายเขียนข้อความใส่ร้าย ดูถูกเหยียดหยามว่าเป็นผู้หญิงสำส่อน มั่วผู้ชายอีกหลายฉบับ

คดีนี้ได้มีการต่อสู้มาเป็นเวลานานตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 เรื่อยมาจนถึงปี พ.ศ. 2553 มีประเด็นที่น่าสนใจที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ วินิจฉัยต่างกัน ซึ่งพนักงานสอบสวนน่าจะนำไปเป็นบทเรียนในกรณีมีเมียน้อยเมียหลวงมาแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีหมิ่นประมาทจะได้เอามาเป็นบรรทัดฐานในการบริการประชาชนต่อไป คดีนี้ถือว่าคลาสสิคมาก

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยเกี่ยวกับคดีที่ผู้หญิงที่เป็นผู้เสียหายถูกกล่าวหาว่าเป็นเมียน้อยฟ้องเมียหลวงว่าหมิ่นประมาท โดยวินิจฉัยให้ผู้หญิงที่ถูกกล่าวหาว่าแย่งผัวชาวบ้านแพ้คดี โดยวินิจฉัยว่า โจทก์เคยเขียนจดหมายไปถึงสามีของจำเลย มีข้อความว่า ทั้งโจทก์และสามีจำเลยมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดในทำนองชู้สาว และหลังจากนั้นทั้งโจทก์และจำเลยต่างเคยพูดจากันทางโทรศัพท์  และมีการยั่วยุท้าทายซึ่งกันและกันว่า จำเลยกล่าวหาว่าโจทก์แย่งสามีจำเลย โดยต่างคนต่างโทรศัพท์ด่ากันไปด่ากันมา เมื่อศาลพิเคราะห์ถึงมูลเหตุที่จำเลยโทรศัพท์ด่าโจทก์  ก็มีมูลเหตุสืบเรื่องมาจากสามีของจำเลยกับโจทก์มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดในเชิงชู้สาว ทำให้จำเลยเกิดความหึงหวงในตัวสามี ทั้งโจทก์และจำเลยต่างมีส่วนก่อให้เกิดการกระทำความผิดไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน ต่างคนต่างโทรศัพท์ด่ากันและกล่าวหาซึ่งกันและกัน ถือว่าโจทก์เป็นผู้มีส่วนร่วมหรือก่อให้จำเลยกระทำความผิด โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายโดยนิตินัย โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง พิพากษายกฟ้อง คดีนี้ศาลชั้นต้นมองว่า เป็นเรื่องของผู้หญิง 2 คน ที่มาชอบผู้ชายคนเดียวกัน และมองว่าทั้งสองคนต่างคนต่างด่าจึงไม่ใช่ผู้เสียหาย คดีนี้ผมในฐานะที่เป็นทนายความของโจทก์ก็ได้มีการยื่นอุทธรณ์ไปยังศาลอุทธรณ์ ต่อมาศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษา   ซึ่งผมจะนำมาเฉพาะส่วนที่สำคัญสั้น ๆ เพื่อให้พนักงานสอบสวนนำไปใช้เป็นข้อมูลในการร้องทุกข์ต่อไป ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ความผิดที่จำเลยทำ กับความผิดที่โจทก์ถูกกล่าวหาว่าเป็นชู้สาวกับสามีจำเลย เป็นคนละประเด็นกัน จำเลยทำความผิดอันเนื่องจากความหึงหวงส่วนตัว ได้โทรไปด่าทอโจทก์ให้พยานทั้ง 4 ฟัง ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย อับอาย ศาลเห็นว่า จำเลยกระทำความผิดจริง จึงพิพากษา จำคุกกระทงละ 2 เดือน 5 กระทง รวม 10 เดือน แต่รอลงอาญา 2 ปี และอยู่ในการควบคุม และเสียค่าปรับ 10,000 บาท

                ดังนั้น  ถ้าท่านเป็นพนักงานสอบสวนมีประชาชนมาร้องทุกข์ ซึ่งส่วนใหญ่คนที่ถูกด่ามักจะเป็นเมียน้อย เมื่อเมียน้อยถูกเมียหลวงด่า พนักงานสอบสวนจะต้องรับคำร้องทุกข์ และดำเนินคดีตามกฎหมายถ้าเข้าองค์ประกอบความผิดฐาน หมิ่นประมาท เพราะเมียหลวงมีสิทธิในตัวสามีตามกฎหมาย แต่ถ้าเมียน้อยมายุ่งเกี่ยวกับสามีตัวเองจะต้องใช้สิทธิทางศาลโดยการฟ้องเรียกค่าทดแทนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1523 วรรคสอง ได้กำหนดสิทธิของเมียหลวงไว้แล้วอย่างชัดเจนที่จะเรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่นที่แสดงตนโดยเปิดเผย เพื่อแสดงว่าตนมีความสัมพันธ์กับสามีในทำนองชู้สาวได้ แต่กฎหมายไม่ได้ให้สิทธิเมียหลวงไปด่าเมียน้อย ในกรณีที่พบว่าเมียน้อยมีความสัมพันธ์กับสามีตัวเอง เพราะถ้าเมียหลวงสามารถไปด่าเมียน้อยได้ โดยไม่ผ่านกระบวนการยุติธรรม ก็เท่ากับว่าเมียหลวงตัดสินคดีด้วยตนเอง เมียน้อยซึ่งถูกด่าก็อาจจะตอบโต้ด้วยความรุนแรง สังคมก็จะไม่สงบสุข คดีนี้เป็นอุทาหรณ์สำหรับเมียหลวงและเมียน้อยว่า อย่าคิดแย่งผัวชาวบ้าน มันเป็นความสุขที่มีความทุกข์มากมายตามมาอย่างหาที่สิ้นสุดไม่ได้ ในทางกลับกันเมียหลวงถ้าพบว่ามีหญิงอื่นมาเป็นชู้กับสามีตัวเอง ต้องใช้สิทธิทางศาลอย่าพิพากษาด้วยตนเอง มิฉะนั้นอาจต้องติดคุกถึง 10 เดือนเหมือนคดีนี้ ทนายคลายทุกข์ขอฝากคำคมก่อนจบบทความว่า ผัวเดียวก็เกินพอ อย่าคิดไปยุ่งกับผัวชาวบ้าน จุดจบไม่สวย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 15

ขอสอบถามค่ะ ดิฉันจับได้ว่า สามี มีเมียน้อย มาเป็น เวลา 1 ปี หลังจากที่จับได้ สามี ดิฉันตัดสินใจเลิกกับ เมียน้อย แตผู้หญิง ไม่ยอมเลิกติดต่อ ดิฉันต่อว่าไปในไลน์ว่าให้ ระวังตัว แล้วผู้หญิงก็ไปลงบันทึกประจำวัน ประมาณว่าโดนขู่จะทำร้าย แบบนี้ ดิฉันแจ้งความหมิ่นประมาทกลับได้มั้ยคะ และดิฉันตอบโต้ อะไรได้บ้าง นอกจากฟ้องร้อง สิทธิ์ เมียหลวง 
โดยคุณ krittiyada 17 มิ.ย. 2562, 12:26

ความคิดเห็นที่ 14

ขอสอบถาม ในกรณีที่มีคนส่งข้อความมาว่าเราแย่งผัวคนอื่นพูกซ้ำๆว่าเราซ้ำถ้าเราไม่ได้ทำแบบนั้นจริงๆเราฟ้องมิ่นประมาทได้ไหมค่ะ รบกวนตอบด้วยนะค่ะ ขอบพระคุณค่ะ

โดยคุณ Sirinda 28 พ.ค. 2560, 23:41

ตอบความคิดเห็นที่ 14

กรณีตามปัญหา  ข้อความดังกล่าวยังไม่เป็นการใส่ความต่อบุคคลที่สาม ยังไม่เข้าองค์ประกอบความผิดฐานหมิ่นประมาท ตามปอ.มาตรา 326 แต่เป็นการกระทำโดยละเมิดต่ออนามัยและความเป็นอยู่ส่วนตัวของท่าน ตามปพพ.มาตรา 420 หากมีข้อสงสัยให้โทรปรึกษาทนายคลายทุกข์เบอร์ 02-9485700

โดยคุณ ทีมงานทนายคลายทุกข์ 19 มิ.ย. 2560, 15:59

ความคิดเห็นที่ 13

 สวัสดีค่ะคือหนูมีเรื่องจะปรึกษาค่ะคือมีผู้หญิงคนหนึ่งมาโพสต่อว่าประมานว่าจะไม่ยอมจบเรื่องนี้เพราะเขาคิดว่่่าหนูไปแย้งแฟนเขาทั้งๆที่แฟนเขาเป็นคนที่บอกเลิกเขาเองแล้วมีคนอื่นมาแสดงความคิดเห็นในเชิงสนับสนุนให้มาทำร้ายดิฉัน เรื่องนิสามารถแจ้งความหรือใช้ข้อความที่เขาคุยกันเป็นหลักฐานได้ไหมค่ะ

โดยคุณ 18 ธ.ค. 2559, 19:33

ความคิดเห็นที่ 12

ขอปรึกษา..ดิฉันกับสามีจดทะเบียนสมรสอยู่กินกันจนมีลูก 1 คน ต่อมาเราซื้อบ้านหลังใหม่จึงย้ายไปยุหมู่บ้านนั้น..ภายหลังวันที่ 25 มิ.ย. 59 จับได้ว่าสามีกับผู้หญิงที่ยุหมู่บ้านเดียวกันมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาว โดยทั้งคู่ยอมรับว่าเปนกิ๊กกันอะไรทำนองนี้  ติดต่อพูดคุยกัน แต่ไม่เคยมีอะไรกัน  สุดท้ายจบลงที่ทั้งสองคนยอมรับปากว่าจะเลิกติดต่อกันโดยเด็ดขาด โดยฝ่ายหญิงจะเปลี่ยนเบอร์มือถือ ฝ่ายชายจะเปลี่ยนผู้จะทะเบียนเป้นชื่อดิฉัน(ภรรยา) เรื่องยุติลงเท่านี้   

แต่เมื่อวันที่ 8 ส.ค. 59 ดิฉันเช็คโทรศัพท์สามี(เบอร์บริษัทที่ทำงานสามี) พบเบอร์โทรซึ่งเป้นเบอร์ใหม่ของผู้หญิงคนนั้นเป้น miss call หลายสาย และสามีได้โทกลับไป เพราะคิดว่าเปนเบอร์ลูกค้า แต่ไม่ติด  จึงสอบถามผู้หญิงคนนั้น ตอนแรกผญ.บอกว่าไม่ได้ใช้เบอร์นั้นนานแล้วทำหาย เมื่อดิฉันถามว่าถ้าซิมหายทำไมมีเบอร์ของสามีในเมื่อตอนที่คุยตกลงกันครั้งแรกบอกว่าไม่เคยรู้จัก จดจำเบอร์สามีเลย ก่อเปลี่ยนอีกบอกว่าโยนทิ้งข้างทาง

9 ส.ค. 59 ดิฉันได้ให้ ผญ. คนนั้นไปที่ศูนย์ ais เพื่อติดต่อขอรับซิมใหม่และเช็คการใช้งาน แต่เช็คได้เพียงเบอร์โทรออกที่มีการรับสายเท่านั้น ผลออกมาคือ มีการโทรออกไปเบอร์สามีที่เปนเบอร์บริษัท เวลา ตี 1.58 น. ใช้สาย 10.24 นาที  ส่วนเบอร์อื่นๆ ที่โทรออกล้วนเป้นเบอร์ของญาติพี่น้อง คนรู้จัก ของ ผญ. ที่มีรายชื่อในเบอร์ใหม่ล่าสุดของ ผญ. แต่ ผญ.ยังยืนกรานว่า ไม่ได้โทร คนโทรคือ คนที่เก็บซิมได้ สามียอมรับว่าได้รับสายเบอร์นั้นจริง แต่ไม่ทราบว่าเปนใคร เพราะเมาเหล้าค่ะ

เบื้องต้นดิฉันจะทำอย่างไรที่จะมีหลักฐานเพียงพอที่จะมัดว่า คนโทรคือผู้หญิงคนนี้ บ้างคะ????

เพราะตอนนี้สามีไม่ได้ติดต่อไป แต่ผู้หญิงไม่ยอมจบ..จะทำอย่างไรจะหาหลักฐานมาให้ ผญ.ยอมรับได้คะ

โดยคุณ แม่ลูก1 10 ส.ค. 2559, 10:42

ความคิดเห็นที่ 11

 กุดีกับมึงมาเยอะแล้วไอ้น้อยกุอุดส่าคิดว่ามึงจะจบดีๆผู้ชายหน้าส้นตีนอย่างมึงไม่มีสามัญสำนึกกุจะบอกให้เอาบุนทั้งมึงและมันกุปล่อยพวกมึงเอาบุนแล้วนะแต่แสโทสับอยู่กับกุนี้กุสังเวชในความเลวของพวกมึงที่กุเฉยกุเห็นแก่ลูกรดกุจะเอาเมื่อไหร่ก็ได้บอกอีสมองหมาปัญญาควายของมึงด้วยอย่าสร้างปัญหาให้มันเยอะอายุก็เยอะแล้ววันๆกุเห็นดีแต่พุดดีแต่ส่งข้อความไม่เห็นจะพยึงชีวิตมึงกวา้หน้าเลยปากบอกไม่อยากได้มึงเป็นผัวแต่หีโครตสกปรกจะแจ้งความใช่ใหมและพากันเอาเฟรชกุไปเล่นแบบเสียหายเดียวพวกมึงเจอกุอย่าดีปากเดียวกุจัดเต็มเครื่องให้พวกมึงเองช่วยแชร์ต่อๆด้วยคะเป็นเรื่องจริงอีกไม่กี่วันหนุจะเอาให้ออกโทรทัดคะจะได้เห็นหน้าพวกจัญรัญ

โดยคุณ 21 มี.ค. 2559, 00:27

ความคิดเห็นที่ 10

 เลวทั้งคู่แน่จริงมึงลงมาไอ้น้าตัวเมียมึงกับมันได้แจ้งความเท็จแน่หากินกันได้แค่นี้ไปคุกรอพวกมึงอยู่

โดยคุณ 21 มี.ค. 2559, 00:11

ความคิดเห็นที่ 9

 สามีของฉันไปมีเมียน้อยเป็นสาวอิสลามและมีลูก 1 คน ดิฉันสามารถดำเนินการอะไรได้บ้างไหมค่ะ ดิฉันมีทะเบียนสมรส และมีลูก 2 คน ค่ะ 

โดยคุณ .. 13 ม.ค. 2559, 13:10

ตอบความคิดเห็นที่ 9

 ฟ้องหย่าและเรียกค่าเสียหายจากชู้ครับ

โดยคุณ ทนายกิตติพงษ์0822142246 26 มิ.ย. 2559, 18:06

ความคิดเห็นที่ 8

 ฟ้องหย่าและเรียกค่าเสียหายจากชู้ครับ

โดยคุณ ทนายกิตติพงษ์0822142246 26 มิ.ย. 2559, 18:06

ความคิดเห็นที่ 7

 รบกวนถามหน่อยค่ะ

คือเรื่องมีอยู่ว่า...ดิฉันขอแทนด้วยนามสมมติว่าเอนะคะ มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับชายคนนึงขอแทนด้วยนามสมมติว่าบีครั้งเดียว และซีซึ่งเป็นภรรยาของบีทราบเรื่องระหว่างฉันกับบี และหลังจากนั้นมาฉันก็เลิกยุ่งเกี่ยวกับบีโดยเด็ดขาด แต่ทางภรรยาของบีก็ยังตามด่าทั้งทางโทรศัพท์และสื่อออนไลน์ เคยคุยกันแล้วแต่ทางภรรยาของบีไม่ยอมจบ ทั้งที่ฉันไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับบีเลย

หลักฐานที่มีคือ..ข้อความทางช่องแชทในเฟสบุ๊ค

อย่างนี้ดิฉันสามารถแจ้งความฐานหมิ่นประมาทได้มั้ยคะ

โดยคุณ เอ 8 ม.ค. 2558, 15:43

ความคิดเห็นที่ 6

 ขอปรึกษาหน่อยค่ะ..ดิฉันแต่งงานอยู่กินกับสามีที่เป็นข้าราชการทหารมาได้ 5 ปี  อย่างถูกต้องตามกฏหมาย  อยู่มาวันหนึ่งดิฉันทราบว่าสามีดิฉันไปมีเมียน้อยเป็นข้าราชการพยาบาลและกำลังตั้งท้องได้ 1 เดือน ดิฉันได้พูดคุยกับสามีแล้ว สามีบอกต้องรับผิดชอบจำเป็นต้องเลิกกับดิฉัน..เขาบอกทรัพย์ทุกอย่างที่เป็นสินสมรสยกให้หมด ขอแยกทางกับดิฉันแต่ดิฉันยังไม่ไดไปจดทะเบียนอย่าให้  ขอถามค่ะ  1.ดิฉันสามารถฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายกับเมียน้อยได้ไหม และจะได้เท่าไหร่  หลักฐานแค่รูปถ่ายกอดจูบกัน  2.แล้วสินสมรสที่สามีบอกยกให้หมด ต้องทำยังไง ต้องทำเป็นเอกสารหลักฐานไงว้หรือไม่ แล้วสามารถโอนเป็นชื่อลูกได้หรือไม่...ขอบพระคุณค่ะ

โดยคุณ มดน้อย 11 ธ.ค. 2556, 00:40

ความคิดเห็นที่ 5

จะรบกวนปรึกษาหน่อยค่ะ

กรณีที่ผู้ชายนับถือศาสนาพุทธ โดยจดทะเบียนสมรสมีภรรยาอยู่แล้ว แล้วได้รู้จักและไปหาสู่กับผู้หญิงที่เป็นมุสลิม ทำให้เมียหลวงทราบแล้วทะเลาะ แล้วได้ไล่สามีออกจากบ้าน และหลังจากที่ออกไปอยู่ข้างนอก (ไม่ได้ไปอยู่กับผู้หญิงคนใหม่) นั้น ผู้ชายก็ได้เปลี่ยนและไปนับถือศาสนาอิสลาม และหลังจากนั้นก็ได้แต่งงานในพิธีอิสลามกับผู้หญิงมุสลิม อยากทราบว่ากรณีนี้ ภรรยาที่เป็นเมียหลวงสามาถที่จะฟ้องเรียกค่าทดแทนจากผู้หญิงที่เป็นมุสลิมได้หรือไม่ เพราะแต่งหลังจากที่เค้าไปนับถือศาสนาอิสลามแล้ว

โดยคุณ สลักจิต 22 ส.ค. 2555, 15:44

ความคิดเห็นที่ 4

ทำไมผู้หญิงต้องมาทะเลาะกันเองแต่ผู้ชายนั่งดู คุณเมียหลวง คุณเมียน้อย ทำไมไม่คิดให้ดีว่าปัญหาเกิดจากอะไร ก็ผู้ชายที่ได้ชื่อว่าสามีของคุณทั้งคู่ไง ส่วนมากในความเป็นจริง ขอเน้น"ส่วนมาก"ผู้ชายมักจะไม่บอกว่ามีเมีย โน้นจนเมียจับได้ถึงจะบอกกับผู้หญิงคนใหม่ว่ามีเมียแล้วแต่มีปัญหากัน  หรือในบางรายก็เตรียมเล่นละครมาก่อนว่าที่บ้านมีปัญหา เมียนิสัยไม่ดีบ้างล่ะ ไม่เข้าใจบ้างล่ะ บางรายเก่งหน่อยก็ทำให้ผู้หญิงคนใหม่เกลียดเมียหลวงไปเลย ว่าไม่ใส่ใจผู้ชายแต่ยังหวงไว้อีก คุณทั้งคู่บางทีก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขากะล่อนแต่เชื่อเขามากเกินไป พออยู่กับอีกคนก็พูดไปอีกอย่าง สังเกตุใหมว่าผู้ชายจะอยู่เฉยๆ ปล่อยให้พวกคุณอาละวาดใส่กัน พอเรื่องเริ่มจะสงบ ก็จะโผล่หัวออกมาพูดแก้ตัวงอนง้อพวกคุณ (ทั้งสองคน แต่คนละเวลากัน) เมียหลวงก็จะคิดว่าเมียน้อยพูดไม่รู้เรื่อง ไม่ยอมเลิกลาบางทีพวกคุณควรหันกลับไปมองผู้ชายคนนั้นใหม่นะ ว่าเขานั่งมองคุณทะเลาะกันเฉยๆ หรือกำลังมองไปที่ผู้หญิงใหม่ๆ  

   ขอให้มีสติ มองที่"ตัว"ปัญหา

โดยคุณ nana 21 มิ.ย. 2555, 13:47

ความคิดเห็นที่ 3

รบกวนสอบถามหน่อยนะค่ะ

ถ้าในกรณีที่สามีหนูเคยคบหากับผู้หญิงอีกคนนึงมาก่อนโดยที่ผู้หญิงคนนั้นเค้าอายุมากกว่าสามีหนูขณะที่เค้าสองคนคบกันฝ่ายหญิงเค้าให้เงินสามีหนูใช้และซื้อของให้สามีหนูด้วยโดยฝ่ายหญิงบอกว่าให้เฉยๆไม่ได้ต้องการอะไรตอนที่เค้าสองคนคบกันเค้าตกลงกันว่าเราจะไม่ผูกมัดกันถ้าฝ่ายใดเจอคนใหม่หรือจะมีครอบครัวก็ยอมที่จะเลิกลาด้วยดี ต่อมาสามีหนูได้มาเจอหนูและเราสองคนคบกันมาเรื่อยๆแต่ผู้หญิงคนนั้นเค้ายังโทรมาอยู่ เค้าบอกกับหนูว่าเค้าขอคุยกับสามีหนุเพื่อปรึกษาแต่ที่จริงแล้วผู้หญิงคนนั้นเค้าไม่ยอมเลิกกับสามีหนูมากว่าที่หนูรู้ก็เพราะว่าหนูเห็นข้อความที่เค้าส่งมาให้สามีหนูว่า รักนะ คิดถึงนะ และเวลาที่แฟนหนูไม่รับเค้าก็จะโทรเข้ามาหาหนูให้บอกสามีหนูรับโทรศัพท์ พอนานๆเข้าหนุกับสามีหนูจะแต่งงานกันหนูเลยบอกให้สามีหนูเลิกคบเค้าโดยเด็จขาดไม่ว่าจะในฐานะอะไรก็ตาม สามีหนูก็เข้าใจและไม่ได้ติดต่อกับผู้หญิงคนนั้นอีกเลย มีแต่ผู้หญิงคนนั้นติดต่อมาแต่หนูก็บอกผู้หญิงคนนั้นแล้วนะค่ะว่าหนูไม่ให้เค้าคบกับสามีหนูไม่ว่าจะฐานะอะไรก้ตามเค้าก็เข้าใจและเค้าก็รับปากหนูว่าจะไม่ติดต่อสามีหนูอีก ต่อมาไม่นานผู้หญิงคนนั้นก็ส่งข้อความมาหาสามีหนูแล้วก็โทรมาด้วยพอหนูรับเค้าก็ไม่คุย หลายครั้งเลยนะค่ะ แต่พอสามีหนูรับเค้ากับพูดด้วยเค้าบอกแฟนหนูว่าจะซื้อบ้านให้สามีหนูๆรับไม่ได้หนูเลยด่าเค้าไป แต่เค้าก็เงียบหายไปเลยนะค่ะเพราะหนูบอกเค้าไปว่าถ้ายังโทรมาอีกจะแจ้งความข้อหาละลานเพราะทุกครั้งที่เค้าโทรมาหนูกับสามีต้องทะเลาะกันตลอล ต่อมาหนุกับสามีแต่งงานกันได้ประมาณหนึ่งเดือนผู้หญิงคนนั้นส่งข้อความมาหาสามีหนูอีกว่า ขอทุกสิ่งทุกอย่างที่ให้ไปคืน แล้วเค้ายังมาหาว่าหนู ส่งข้อความไปด่าเค้า และฝากคนอื่นไปด่าเค้าเสียๆหายๆ และเค้าบอกอีกว่าหนูจะไปทำร้ายเค้า ทั้งๆที่หนูไม่เคยส่งข้อความไปหาเค้าเลยตั้งแต่ที่หนูแต่งงานกับสามีหนูมา หนูเลยอยากจะถามว่าสามีหนูต้องคืนของที่เค้าถวงไหมค่ะ และหนูสามารถทำอะไรเค้าได้บ้างเพื่อไม่ให้เค้ามายุงกับครอบครัวหนูอีก หนูมีสิทธิอะไรบ้างไหมค่ะ เพราะเค้าบอกว่าเค้าจะมาหาหนูที่บ้านหนูก้ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเค้าจะมาทำไม อีกอย่างสามีหนูเค้ารับราชการหนูกลัวสามีหนุเสียชื่อเสียงอ่ะค่ะ หนูพอจะทำอะไรได้บ้างค่ะ รบกวนด้วยค่ะเดือนร้อนจริงๆตอนนี้สามีหนูเครียดมากเลยค่ะ ขอบคุณไว้นะที่นี้ด้วยนะค่ะ

โดยคุณ สุจิตรา 10 ธ.ค. 2554, 13:34

ความคิดเห็นที่ 2

 ดิฉันทำงานบริษัทแห่งหนึ่ง เป็นเลขาฯ มีการพูดคุยกับเจ้านายในเวลางาน และนอกเวลางาน ทำให้เจ้านายผู้หญิงเกิดการหึงหวง พยายามหาว่าฉันมีความสัมพันธ์แบบชู้สาวกับนายผู้ชาย พยายามหาเรื่อง และใช้คำหยาบคายกับดิฉัน ทั้งๆที่ดิฉันไม่มีอะไรกันเลย กรณีนี้ดิฉันจะแจ้งความได้หรือไม่ค่ะ ขอบคุณค่ะ

โดยคุณ 31 ส.ค. 2554, 09:00

ความคิดเห็นที่ 1

แล้วในกรณีที่เมียหลวงได้หย่าขาดกับสามีก่อนที่จะมาคบกับผู้หญิงคนใหม่ละคะแต่สามียังไปมาหาสู่กับเมียหลวงเพราะต้องการไปเยี่ยมลูก อย่างนี้ผู้หญิงคนใหม่ถือว่าเป็นเมียน้อยรึป่าวคะ  เมียหลวงเอารูปของผู้หญิงคนใหม่ไปลงประจานใน Facebook แล้วใช้ถ้อยคำหยาบคาย พร้อมทั้งส่งข้อความมาขู่ โดยที่ผู้หญิงคนใหม่ไม่มีการตอบโต้แต่อย่างใด ในกรณีนี้สามารถฟ้องได้มั้ยคะ แล้วข้อความใน Facebook สามารถใช้เป็นหลักฐานได้หรือไม่  รบกวนตอบด้วยนะคะ ตอนนี้กลุ้มใจมาก ๆ ค่ะ

ขอบคุณค่ะ

โดยคุณ หนูยิ้ม 11 ส.ค. 2553, 07:17

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก