อยู่กันมา 10 กว่าปี และ 2-3 ปีมานี้แทบไม่ได้นอนด้วยกันเลย
บทความวันที่ 20 เม.ย. 2553, 00:00
มีผู้อ่านทั้งหมด 26869 ครั้ง
สามีภริยาไม่ร่วมหลับนอนใช้เป็นเหตุในการหย่าได้
อยู่กันมา 10 กว่าปี และ 2-3 ปีมานี้แทบไม่ได้นอนด้วยกันเลย ผมนอนกับลูกบนเตียงส่วนเขานอนข้างล่างทุกวัน และเขาชอบดูถูกและด่าพ่อแม่ผมประจำเมื่อเขาไม่พอใจอีกอย่างเรากู้ซื้อบ้านร่วมกันแต่ผมจ่ายค่าบ้านคนเดียวเขาผ่อนรถเป็นชื่อเขาเองและใช้เองรายได้ผมมากกว่าเขาเท่าตัวรับผิดชอบค่าบ้านค่าน้ำค่าไฟค่าเทอมลูกผมก็อยากเลิกเพราะโมโหที่สุด ที่ด่าว่าพ่อแม่ทำอย่างไรเขาก็ไม่หย่าบอกให้ฟ้องเอง ส่วนบ้านเขาก็บอกว่ามีสิทธิแต่เขาไม่เคยผ่อนเลย ผมทำอย่าไรดีถึงจะได้ลูกและบ้านผมพึ่งส่งได้1 ปี เพราะกลัวศาลให้สิทธิมารดาเลี้ยงดูลูกและบ้านให้แบ่งกัน ผมก็พยายามถามลูกจะอยู่กับใครแรกๆ ลูกก็ไม่ตอบ หลังลูกบอกอยู่กับพ่อแล้ว เพราะผมจะใกล้ชิดลูกมากนอนกอดลูกทุกวัน
คำแนะนำทนายคลายทุกข์
หากท่านกับภริยาได้จดทะเบียนสมรสกัน ย่อมเป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฎหมาย เมื่อภริยาของท่านไม่ได้ร่วมหลับนอนกับท่านเป็นเวลา 2-3 ปีมาแล้ว โดยภริยาเขาลงไปนอนข้างล่างทุกวัน ซึ่งเป็นการผิดธรรมชาติของการเป็นสามีภริยากันที่ต้องอยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยา รวมทั้งการร่วมประเวณีต่อกัน อันเป็นเรื่องปกติของการเป็นสามีภริยา จึงเป็นกรณีที่ภริยาทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภรรยากันอย่างร้ายแรง ย่อมเป็นเหตุฟ้องหย่าที่ท่าน มีสิทธิฟ้องหย่าได้ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1516 (6)
และการที่ภริยาของท่านได้มีพฤติกรรมที่เขาชอบดูถูกและด่าพ่อแม่ของท่านเป็นประจำ เมื่อเขาไม่พอใจ จึงเป็นกรณีที่ภริยาได้กระทำการหมิ่นประมาท หรือเหยียดหยามบุพการีของท่าน ทั้งนี้ หากเป็นการร้ายแรง ย่อมเป็นอีกเหตุประการหนึ่งท่านมีสิทธิฟ้องหย่าได้ตามกฎหมาย ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1516 (3)
ส่วนบ้านและรถยนต์เมื่อเป็นทรัพย์สินที่คู่สมรสได้มาระหว่างสมรส แม้ต่างฝ่ายต่างแยกกันผ่อนชำระทรัพย์สินแต่ละอย่างแยกกัน โดยบ้านนั้นท่านกับภริยาสได่ร่วมกันกู้เงินมาซื้อ แม้ท่านจะเป็นผู้ผ่อนส่งแต่เพียงผู้เดียว และภริยาเป็นผู้ผ่อนค่างวดรถ ตามหลักกฎหมายแล้วเมื่อท่านกับภริยาหย่ากันแล้ว ก็ให้แบ่งบ้านและรถอันเป็นสินสมรสให้แก่ท่านและภริยาในส่วนที่เท่ากัน ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1533
ส่วนการที่ท่านจะฟ้องหย่าและขอเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองบุตรผู้เยาว์นั้น ท่านก็ย่อมมีสิทธิตามกฎหมายที่จะฟ้องเป็นคดีต่อศาล เพื่อให้ศาลเห็นว่า ตนอาจใช้อำนาจปกครองเพื่อความผาสุกและประโยชน์ของบุตรเป็นสำคัญได้
ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 1516 เหตุฟ้องหย่ามีดังต่อไปนี้
(1)สามีหรือภริยาอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่องผู้อื่นฉันภริยาหรือสามี เป็นชู้หรือมีชู้ หรือร่วมประเวณีกับผู้อื่นเป็นอาจิณ อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
(2) สามีหรือภริยาประพฤติชั่ว ไม่ว่าความประพฤติชั่วนั้นจะเป็นความผิดอาญาหรือไม่ ถ้าเป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่ง
(ก) ได้รับความอับอายขายหน้าอย่างร้ายแรง
(ข) ได้รับความดูถูกเกลียดชังเพราะเหตุที่คงเป็นสามีหรือภริยาของฝ่ายที่ประพฤติชั่วอยู่ต่อไป หรือ
(ค) ได้รับความเสียหายหรือเดือดร้อนเกินควร ในเมื่อเอาสภาพ ฐานะและความเป็นอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยามาคำนึงประกอบ
อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(3) สามีหรือภริยาทำร้าย หรือทรมานร่างกายหรือจิตใจ หรือหมิ่นประมาทหรือเหยียดหยามอีกฝ่ายหนึ่งหรือบุพการีของอีกฝ่ายหนึ่ง ทั้งนี้ ถ้าเป็นการร้ายแรง อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(4) สามีหรือภริยาจงใจละทิ้งร้างอีกฝ่ายหนึ่งไปเกินหนึ่งปี อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(4/1)สามีหรือภริยาต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก และได้ถูกจำคุกเกินหนึ่งปีในความผิดที่อีกฝ่ายหนึ่งมิได้มีส่วนก่อให้เกิดการกระทำความผิดหรือยินยอมหรือรู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดนั้นด้วย และการเป็นสามีภริยากันต่อไปจะเป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่งได้รับความเสียหายหรือเดือนร้อนเกินควร อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(4/2)สามีและภริยาสมัครใจแยกกันอยู่เพราะเหตุที่ไม่อาจอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยาได้โดยปกติสุขตลอดมาเกินสามปี หรือแยกกันอยู่ตามคำสั่งของศาลเป็นเวลาเกินสามปี ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
(5)สามีหรือภริยาถูกศาลสั่งให้เป็นคนสาบสูญ หรือไปจากภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่เป็นเวลาเกินสามปีโดยไม่มีใครทราบแน่ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
(6) สามีหรือภริยาไม่ให้ความช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูอีกฝ่ายหนึ่งตามสมควรหรือทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการที่เป็นสามีหรือภริยากันอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ ถ้าการกระทำนั้นถึงขนาดที่อีกฝ่ายหนึ่งเดือดร้อนเกินควรในเมื่อเอาสภาพ ฐานะและความเป็นอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยามาคำนึงประกอบ อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(7) สามีหรือภริยาวิกลจริตตลอดมาเกินสามปี และความวิกลจริตนั้นมีลักษณะยากจะหายได้ กับทั้งความวิกลจริตถึงขนาดที่จะทนอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยาต่อไปไม่ได้ อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
(8) สามีหรือภริยาผิดทัณฑ์บนที่ทำให้ไว้เป็นหนังสือในเรื่องความประพฤติ อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
(9) สามีหรือภริยาเป็นโรคติดต่ออย่างร้ายแรงอันอาจเป็นภัยแก่อีกฝ่ายหนึ่งและโรคมีลักษณะเรื้อรังไม่มีทางที่จะหายได้ อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(10) สามีหรือภริยามีสภาพแห่งกาย ทำให้สามีหรือภริยานั้นไม่อาจร่วมประเวณีได้ตลอดกาล อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
มาตรา 1533 เมื่อหย่ากันให้แบ่งสินสมรสให้ชายและหญิงได้ส่วนเท่ากัน
