ผมมีเรื่องปรึกษาด่วนครับ ก่อนสมรสภรรยาผม และ ญาติอีก 3คน

บทความวันที่ 23 เม.ย. 2553, 00:00

มีผู้อ่านทั้งหมด 16186 ครั้ง

ภรรยาโดนฟ้องให้ล้มละลาย สามีจะเป็นอย่างไร

        ผมมีเรื่องปรึกษาด่วนครับ  ก่อนสมรสภรรยาผม และ ญาติอีก 3คน ไปค้ำประกันหนี้ให้พ่อของภรรยา (โดยภรรยามีชื่อเป็นผู้ค้ำลำดับที่ 4)  ตอนนี้พ่อของภรรยาเสียแล้ว  ทางเจ้าหนี้ บสท. ส่งหนังสือมาให้ชำระหนี้แทน  แต่ไม่ได้ไปดำเนินการ  จึงมีหมายศาลให้ไปขึ้นศาลล้มละลาย  ตอนนี้ผมจดทะเบียนสมรสกับภรรยาโดยขณะจดทะเบียนได้กู้เงินซื้อบ้านไว้หลังหนึ่งในนามผมคนเดียว  จึงอยากสอบถามดังนี้ครับ
     1. การติดตามหนี้ผู้ค้ำจะเรียงลำดับการค้ำหรือไม่ หรือ ทุกคนมีส่วนในหนี้เท่าๆกัน
     2.  หนี้ดังกล่าวเป็นหนี้ส่วนตัว จะมาเรียกร้องให้ชำระหนี้จากสินสมรสได้หรือไม่
     3.  ปรึกษาทนายแล้ว  ทนายบอกให้ไปหย่า จะมีผลต่อบ้านหรือไม่ เพราะผมใช้ชื่อกู้คนเดียว แต่ภรรยาเซ็นต์รับรองตอนกู้เท่านั้น    แต่ในความเป็นจริงพ่อกับแม่ผมเป็นผู้จ่ายเงินให้ทุกงวดจะสามารถนำไปเป็นหลักฐานอะไรได้หรือไม่
      4. หากต้องการไกล่เกลี่ยกับเจ้าหนี้ บสท. ภรรยาผมต้องรับภาระหนี้เท่าไหร่เต็มจำนวน หรือ แบ่งตามจำนวนลูกหนี้ และ ทางเจ้าหนี้จะลดให้เฉพาะในส่วนที่ภรรยาผมรับผิดชอบได้หรือไม่
      5. โดยปกติเจ้าหนี้จะลดยอดให้เท่าไหร่ครับ

คำแนะนำทนายคลายทุกข์
1.  กรณีที่หนี้รายเดียวกัน  มีผู้ค้ำประกันหลายคนยอมเป็นผู้ค้ำประกันในหนี้รายเดียวกัน  ซึ่งตามกฎหมายแล้ว  ผู้ค้ำประกันเหล่านั้นมีความรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วมกัน  แม้ถึงว่ามิได้เข้ารับค้ำประกันรวมกัน  ตาม ป.พ.พ. มาตรา 682 วรรค 2  เพราะฉะนั้น  ผู้ค้ำประกันทุกคนต่างคนต่างต้องรับผิดในหนี้ส่วนเท่า ๆ กะน  โดยไม่เรียงลำดับการเข้าทำสัญญาค้ำประกัน
2.  เมื่อหนี้ที่ต้องรับผิดตามสัญญาค้ำประกันของภริยาท่านดังกล่าว  เป็นหนี้ส่วนต่างของภริยา  ตามกฎหมายแล้วภริยาต้องรับผิดในส่วนตัวเพื่อชำระหนี้ก่อไว้ก่อนสมรส  โดยให้ชำระหนี้นั้นด้วยสินส่วนตัวของภริยานั้นก่อน  เมื่อไม่พอ  จึงให้ชำระด้วยสินสมรสที่เป็นส่วนของภริยานั้น  ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1488
3.  กรณีที่ท่านได้มีชื่อเป็นผู้กู้ในการกู้ยืมเงินจากธนาคารมาซื้อบ้าน  ซึ่งแม้จะมีชื่อท่านเป็นผู้กู้คนเดียวก็ตาม  โดยภริยาของท่านได้เซ็นรับรองรู้เห็นในการทำสัญญากู้และจำนองดังกล่าว  แม้ท่านจะไม่ได้เป็นผู้ชำระหนี้เงินกู้ไม่หมดก็ตาม   ถ้าท่านยังไม่หย่ากับภรรยาเจ้าหนี้ก็ย่อมบังคับชำระหนี้ได้  เฉพาะบ้านซึ่งเป็นสินสมรสในส่วนของภริยาเท่านั้น  ไม่อาจบังคับสินสมรสในส่วนของคุณได้  ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1474 (1)
4.  เจ้าหนี้ บสท.  มีสิทธิที่จะได้รับชำระหนี้สิ้นเชิงได้เพียงครั้งเดียว  โดยเจ้าหนี้จะเรียกชำระหนี้จากผู้ค้ำประกันคนใดคนหนึ่งสิ้นเชิง(เต็มจำนวน)  หรือ แบ่งตามสัดส่วนที่ผู้ค้ำประกันแต่ละคนต้องรับผิดตามแต่เจ้าหนี้จะเลือก ตาม ป.พ.พ. มาตรา 291  ดังนั้น  จึงเป็นสิทธิของเจ้าหนี้ที่จะเลือกให้ผู้ค้ำประกันเหล่านั้นให้ชำระหนี้  และหากเจ้าหนี้เรียกให้ภริยาของท่านชำระ  หากภริยาจะขอไกล่เกลี่ยการชำระหนี้โดยการขอลดหนี้จากเจ้าหนี้ได้  จึงเป็นเรื่องที่จะต้องเจรจาตกลงกันในระหว่างเจ้าหนี้กับผู้ค้ำประกันเอง
5.  ส่วนจำนวนยอดหนี้ที่เจ้าหนี้จะลดยอดให้หรือไม่  เท่าไหร่นั้นต้องลองเจรจากับเจ้าหนี้เอง

ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 291  ถ้าบุคคลหลายคนจะต้องทำการชำระหนี้โดยทำนองซึ่งแต่ละคนจำต้องชำระหนี้สิ้นเชิงไซร้  แม้ถึงว่าเจ้าหนี้ชอบที่จะได้รับชำระหนี้สิ้นเชิงได้แต่เพียงครั้งเดียว (กล่าวคือลูกหนี้ร่วมกัน) ก็ดี เจ้าหนี้จะเรียกชำระหนี้จากลูกหนี้แต่คนใดคนหนึ่งสิ้นเชิง หรือแต่โดยส่วนก็ได้ตามแต่จะเลือก แต่ลูกหนี้ทั้งปวงก็ยังคงต้องผูกพันอยู่ทั่วทุกคนจนกว่าหนี้นั้นจะได้ชำระเสร็จสิ้นเชิง

มาตรา 682  ท่านว่าบุคคลจะยอมเข้าเป็นผู้รับเรือน คือเป็นประกันของผู้ค้ำประกันอีกชั้นหนึ่ง ก็เป็นได้
ถ้าบุคคลหลายคนยอมตนเข้าเป็นผู้ค้ำประกันในหนี้รายเดียวกันไซร้ท่านว่าผู้ค้ำประกันเหล่านั้นมีความรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วมกัน แม้ถึงว่าจะมิได้เข้ารับค้ำประกันรวมกัน

มาตรา 1474  สินสมรสได้แก่ทรัพย์สิน
(2) ที่คู่สมรสได้มาระหว่างสมรส
(2) ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้มาระหว่างสมรสโดยพินัยกรรมหรือโดยการให้เป็นหนังสือเมื่อพินัยกรรมหรือหนังสือยกให้ระบุว่าเป็นสินสมรส
(3) เป็นดอกผลของสินส่วนตัว
ถ้ากรณีเป็นที่สงสัยว่าทรัพย์สินอย่างหนึ่งเป็นสินสมรสหรือมิใช่ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นสินสมรส

มาตรา 1488 ถ้าสามีหรือภริยาต้องรับผิดเป็นส่วนตัวเพื่อชำระหนี้ที่ก่อไว้ก่อนหรือระหว่างสมรส ให้ชำระหนี้นั้นด้วยสินส่วนตัวของฝ่ายนั้นก่อน เมื่อไม่พอจึงให้ชำระด้วยสินสมรสที่เป็นส่วนของฝ่ายนั้น