เรื่องมีอยู่ว่าผมรู้จักกับผู้หญิงคนนึงทาง social network ทีแรกผมก็ไม่ได้สนใจอะไรนัก จนผมได้เบอร์โทรเธอ หลังจากที่ได้คุยกันแล้วผมยอมรับว่าผมชอบเธอมาก ผมอยากรู้จักเธอจริงๆ ผมเสนอเงินให้เธอ ทีแรกเธอก็ไม่ยอมรับ เธอบอกผมว่าถ้าคิดว่าให้เงินเธอแล้วจะหวังได้ตัวเธอก็เก็บเงินไว้เถอะ เพราะเธอไม่ใช่หญิงไซด์ไลน์ ผมบอกเธอว่า
ผมให้ ไม่ได้หวังอะไร ให้ด้วยความเสน่หา เธอจึงยอมให้เลขที่บ/ชมา เธอบอกเป็นบ/ชของเพื่อนเธอ ผมแอบผิดหวังเล็กน้อย เพราะที่ผมเสนอโอนเงินให้เธอ ผมหวังจะทราบชื่อ-นามสกุลที่แท้จริงของเธอ แต่ดูเหมือนเธอจะรู้ทันผม ผมโอนเงินให้เธอหลายต่อหลายครั้ง พยายามซื้อใจเธอ เพราะคิดจะจริงจังกับเธอ(ผมมีภรรยาอยู่แล้วน่ะครับ) ผ่านมาเดือนแล้วเดือนเล่า ผมพยายามจะนัดเจอเะอเพื่อทำความรู้จักและสานสัมพันธ์ แต่เธอก็ดูเฉยเมยเหมือนแบ่งรับแบ่งสู้ จนผมจับได้ว่าเธอโกหกผมเรื่องชื่อ-นามสกุล การศึกษา หน้าที่การงาน เธอไม่ใช่ผู้หญิงในรูปที่ผมเห็น ผมโมโหมากจึงส่งsms ไปด่าเธอด้วยคำพูดหยาบคายและขู่ให้เธอโอนเงินคืนผม ไม่งั้นผมจะแจ้งความข้อหาฉ้อโกง
พอเธออ่านข้อความผม เธอโทรกลับมาขอเลขที่บ/ชเพื่อโอนเงินคืนผม ผมก็ให้ไป เธอบอกเดี๋ยวพรุ่งนี้เธอโอนคืนให้ พอผ่านไปคืนนึงผมนอนคิดได้ว่าจริงๆแล้วเธอก็เป็นคนดีเหมือนกัน เพราะที่ผ่านมาผมเคยโอนเงินให้ผู้หญิงในเน็ตหลายรายแล้วเพื่อขอมีเพศสัมพันธ์ด้วย พอถึงเวลานัดจริงๆผู้หญิงเหล่านั้นกลับเบี้ยวผม ผมก็ทำแบบเดียวกันคือขู่ให้โอนเงินคืน แต่ไม่มีใครโอนเงินคืนผมเลยสักราย วันรุ่งขึ้นเธอโอนเงินคืนผมจริงๆ แต่ยังขาดอยู่หนึ่งแสนบาท เธอบอกเธอจะพยายามรวบรวมเงินจำนวนที่เหลืออยู่นี้มาคืนให้
ผมยิ่งหลงรักเธอเข้าไปอีก ว่าเธอเป็นคนดีจริงๆ ผมอยากสานสัมพันธ์ต่อโดยไม่สนว่าเธอหลอกผม ผมจึงโอนเงินให้เธออีกแสนนึงโดยโอนเข้าบ/ชเพื่อนของเธอเหมือนเดิม เธอโทรมาต่อว่าผมว่าโอนมาให้อีกทำไม แค่นี้เธอก็ไม่มีปัญญาจะใช้คืนแล้ว
เธอบอกมันเป็นภาระของเธอที่เธอต้องไปหาธนาคารเพื่อโอนเงินคืนผมอีก ผมจึงออกอุบายเพื่อความสบายใจของเธอ ผมบอกว่าเงินสองแสนนั่นผมขอซื้อเครื่องสำอางที่เธอเป็นตัวแทนจำหน่อยอยู่แล้วกัน(ผมสืบทราบว่าเธอขายเครื่องสำอางอยู่)
เธอก็ตกลง เหมือนเรื่องจะเป็นไปด้วยดี แต่มีเหตุการณ์ทำให้ผมกับเธอผิดใจกัน เธอไม่ยอมรับโทรศัพท์ผม แถมตัดการติดต่อทุกช่องทาง ผมพยายามติดต่อผ่านเพื่อนและคนรู้จักของเธอ แต่ไม่มีการตอบกลับ เธอฝากเพื่อนมาบอกว่าเธอไม่ต้องการติดต่อกับผมอีก ผมจึงแค้นมาก พยายามติดต่อเธอเพื่อขอเงินคืน (เธอยังไม่ได้ส่งของตามที่ตกลงกันไว้ให้ผม) ผมทำเหมือนเดิมคือส่งsmsไปข่มขู่เธอว่าถ้าไม่คืนเงิน ผมจะแจ้งความข้อหาฉ้อโกงเงิน แต่คราวนี้เะอเงียบไปจริงๆ ติดต่อไม่ได้เลย ผมบอกตรงๆว่าเรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาสำหรับผม ที่บ้านผมรวย แถมอาชีพของผมคือกัปตันสายการบินแห่งหนึ่ง
ผมมีรายได้ดี แต่ผมแค้นมาก ผมไม่รู้จะทำยังไง ผมจึงเข้าแจ้งความกับทางตำรวจว่าถูกฉ้อโกงเงิน(คนที่ผมแจ้งคือเพื่อนของเธอ) ผมมีหลักฐานการโอนเงินเข้าบ/ชของเพื่อนเธอ ทางตำรวจรับเรื่องไว้และตอนนี้ตำรวจสืบทราบที่อยู่ของเพื่อนเธอแล้วและออกหมายเรียกตัวให้เจ้าตัวมารับทราบข้อกล่าวหา และผู้ต้องหาได้ติดต่อมาขอเข้าพบพนง.สอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาแล้วด้วย
ประเด็นคำถาม คือ
1.ผมอยากทราบว่าผมจะมีความผิดข้อหาแจ้งความเท็จหรือไม่ เพราะผมแจ้งความกับตำรวจว่าผมถูกฉ้อโกงเงินจากผู้หญิงคนที่ผมโอนเงินไปให้(ซึ่งคือเพื่อนของเธอ) โดยเราตกลงซื้อขายรถยนต์กันแต่ทางนู้นไม่ยอมส่งมอบรถยนต์ให้ ผมจึงอะลุ่มอะล่วยให้เธอส่งเป็นเครื่องสำอางแทน ผมมีหลักฐานการแจ้งความคือหลักฐานการโอนเงิน
เข้าบ/ชของเพื่อนเธอ และข้อความทางอีเมลล์ที่ผมเสนอให้เธอส่งเครื่องสำอางมาแทนเพื่อชดใช้หนี้ (ที่ผมต้องอ้างว่าซื้อขายรถยนต์กันเพราะเกรงว่าตำรวจจะไม่รับแจ้งความเนื่องจากจำนวนเงินก็มากอยู่ จะซื้อเครื่องสำอางอะไรกันเป็นแสน)
2.ถ้าทางนู้นปฎิเสธข้อกล่าวหาและแจ้งความกลับว่าผมเอาเรื่องเงินมาใช้ข่มขู่เธอ เพื่อให้เธอกลับมาหาผมจะได้ไหมครับ ถ้าเธอมีหลักฐานการโอนเงินกลับมาบ/ชผมแล้วครั้งนึง ประกอบกับหลักฐานการพูดคุยที่ผมข่มขู่เธอไว้ว่า ให้เธอมานอนกับผมแล้วเราหายหนี้กัน
รบกวนคุณทนายช่วยตอบด้วยนะครับ ขอบพระคุณล่วงหน้าครับ