.) นายจ้างได้กล่าวหาว่าดิฉันเอาคอมพิวเตอร์ของสำนักงานมา1ชุด 

ซึ่งดิฉันสามรถแจงได้ ว่าไม่ได้เอามา แบบนี้สามารถถอนฟ้องได้ไหมค่ะ 

1.ตอบ...การถอนแจ้งความสามมารถทำได้เสมอ  ถ้านายจ้างไม่ติดใจเอาความ  แต่ถ้านายจ้างแจ้งความแล้ว ตำรวจก็ต้องมีหมายเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา และ สอบสวน กระบวนนี้คงว่ากันยาวพอสมควร  คงไม่จบลงอย่างรวดเร็ว  ลองใช้การเจรจากับนายจ้างดู ให้เขายอมลดราวาศอกให้

2.) นายจ้างได้แจ้งว่าดิฉันเอาเงินบริษัทมาจำนวน 130,000 บาท

ข้อนี้ดิฉันสามารถไกล่เกลี่ยขอชดใช้ โดยการทำหนังสือกู้เงินได้ไหมค่ะ 

2.ตอบ...ไม่ทราบว่า นายจ้างแจ้งหาอะไร  ถ้าแจ้งว่ายักยอกทรัพย์ ก็สามารถไกล่เกลี่ยกันได้  ถ้าแจ้งข้อหาลักทรัพย์  ตามหลักเจรจากันไม่ได้ (ยอมความไม่ได้) แต่ในทางปฏิบัติ ถ้าคืนเงินแก่นายจ้าง  นายจ้างอาจถอนการแจ้งความได้  ตำรวจคงไม่ติดใจเเอาความ

3.) หมายเรียกผู้ต้องหา ได้แจ้งมาให้ไปพบเจ้าพนักงาน วันที่ 11 สิงหาคม 2566 นี้ ซึ่งดิฉันไม่สามารถไปพบได้ จะเลื่อนนัดครั้งที่ 1 ได้รึป่าวค่ะ และ ในเมื่อไปพบแล้วเจ้าหน้าที่มีสิทธิจับดิฉันเข้าคุกไหม

3.ตอบ...ตามหลักถ้ามีหมายเรียก สองครั้งแล้ว ไม่ไป  คงมีการขอศาลออกหมายจับ  ทางแก้ปัญหา ก็สามารถโทรไปแจ้งตำรวจเจ้าของคดี (คงมีหมายเบอร์โทรฯในหมายเรียก)บอกเหตุขัดข้อง ขอเลื่อนนัดได้....การไปพบตำรวจ  จะมีการแจ้งข้อหา  อาจจะมีการควบคุมตัว นำไปฝากขั่งได้  ก็ควรเตรียมการให้พร้อม  เช่นเตรียมหลักทรัพย์ หรือหาบุคคลไม่ขอประกันตัว  และบางที การไปพบตำรวจ ตามหมายเรียก อาจจะไม่มีการควบคุมตัวก็ได้ (ปล่อยชั่วคราว)คดีนี้ ไม่ได้ร้ายแรงอะไรนัก   ถ้าทำผิดจริงควรรับสารภาพแต่แรก  ถ้ามีการฟ้องศาล  ศาลคงปรานี  ไม่ให้จำคุก  เพราะสำนึกผิด

4.) ที่กล่าวมาข้างต้น สามารถยอมความได้รึป่าวค่ะ ดิฉันจะมีคดีติดตัวไหม ถ้ามีอายุความนานเท่าไหร่ค่ะ

4.ตอบ..ตอบแล้วข้างต้น   ถ้าข้อหายักยอกยอมความได้   แต่ลักทรัพย์ยอมความไม่ได้   แต่ในทางปฏิบัติ ถ้าสามารถเจรจากับนายจ้างได้สำเร็จ  เขาอาจถอนแจ้งความได้เสมอ...เขาคงต้องการทรัพย์ และต้องการเงินคืนมากกว่า... 

...ที่โรงพัก ที่ศาล  มีทนายอาสา  ใช้บริการจากเขาได้ (ไม่มีค่าใช้จ่าย)