การครอบครองปรปักษ์  มีหลักการตาม  ปพพ. ม.1382 คือ  การแย่งการครอบครองทรัพย์สินของผู้อื่น  มีองค์ประกอบที่สำคัญคือ  1. เข้ามาครอบครองโดยสงบ (เจ้าของไม่เคยโต้แย้ง)  2.  โดยเปิดเผย (คนทั่วไปรู้เห็น) 3.  ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ( ไม่ใช่การเช่า หรือการให้อาศัย ) 4.  แย่งการครอบครองติดต่อกัน 10  ปี( กรณีเป็นที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์ เป็นโฉนดทที่ดิน)

  ตามข้อเท็จจริง ที่บอก การที่คุณอนุญาตให้พี่สาวสร้างบ้าน และสร้างรั้วรอบที่ดินทั้งหมด  ก็คงอ้างการครอบครองปรปักษ์ไม่ได้   แต่... ถ้ามีพี่สาวร้องศาลว่าเขาได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ โดยอ้างเหตุ..1-4 ข้างต้น  คุณก็ต้องพิสูจน์ให้ศาลเห็นว่า คุณอนุญาตให้เขารุกล้ำมาในที่ดิน ต้องหาพยานหลักฐานมาอ้างอิง   คุณก็ได้ประโยชน์อย่างเดียว คือมีชื่อในเอกสารสิทธิ์  แต่การพิสูจน์  ก็คงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก ในขณะนี้ ความเป็นพี่น้องกัน คงไม่มีการเรียกร้องเรื่องการครอบครองปรปักษ์   แต่ในชั้นบุตรหลาน น่าจะมีปัญหาแน่นอน...คุณก็ค่อนประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง  ที่อนุญาตให้พี่สาวสร้างบ้านรุกล้ำมาในที่ดินส่วนที่เป็นของคุณ และสร้างรั้วไว้มั่นคง  การรับปากว่าจะทุบทิ้งเมื่อคุณจะสร้างบ้าน  เป็นคำพูดที่เลื่อนลอย ใช้เป็นพยานหลักฐานไม่ได้  คุณจึงอยู่ในฐานะเสียเปรียบ  การทุบทิ้ง เป็นเรื่องใหญ่มาก  มีค่าใช้จ่าย และต้องสูญเสียสิ่งที่เขาทำลงไป  เขาจะยอมทุบทิ้งง่ายๆหรือ   ถ้ามีคนยุยงให้เขาอ้าง การครอบครองปรปักษ์  ความอยากได้  อาจทำให้เขาเรียกร้องหรือร้องศาลว่า เป็นการครอบครองปรปักษ์ คงมีปัญหาตามมามากมาย....ทางออก  ต้องให้พี่สาวทำรั้ว ขยับเข้าไปตามแนวเขตที่แท้จริง  หรือ ที่ดินส่วนที่พี่สาวรุกล้ำเข้ามา  ก็มอบให้พี่สาวไป  คุณก็รักษาที่ดินส่วนของคุณที่ยังเหลืออยู่  โดยการแสดงการครอบครองให้ชัดเจน  เช่น พูดต้นไม้  การให้พี่สาวสร้างรั้วรอบที่ดินทั้งหมด  ต้องหาทางเปลี่ยนแปลง เพื่อให้ชัดเจนว่า ส่วนไหนเป็นของคุณ  ถ้าปล่อยไว้เช่นนี้  คุณย่อมเสียเปรียบ....ด้วยความปรารถนาดี ครับ