ความคิดเห็นที่ 1

การรุกล้ำที่ดิน

  การรุกล้ำที่ดิน  มีหลักกฎหมายควบคุมไว้สองมิติ คือ...

      ตาม ปพพ. ม.1311  ถ้าเขารุกล้ำโดยไม่สุจริต   เขาต้องทำที่ดินให้เป็นดังเดิม(เช่นรื้อบ้านออกไป) และส่งมอบที่ดินคืนเจ้าของที่ดิน  เว้นแต่เจ้าของที่ดิน จะให้คืนตามสภาพเป็นอูยู่คือมีบ้านอยู่ด้วย  แต่เจ้าของที่ดินต้องใช้ราคาที่ดินที่เพิ่มขึ้นเพราะมีบ้านหลังนั้น  แล้วแต่จะเลือก  สรุปง่ายๆคือ  ถ้าที่ดินเปล่า ไม่มีบ้านปลูกอยู่  ราคา  5 แสนบาท  แต่เมื่อมีบ้านปลูกอยู่  ถ้าตีราคาบ้านพร้อมที่ดิน จะมีราคา  7 แสนบาท   เจ้าของที่ดินต้องชดใช้ส่วนต่างให้เจ้าของบ้าน 2 แสนบาท เป็นต้น (แล้วแต่จะเลือกแบบไหน) เรื่องแบบนี้ถ้ามีข้อพิพาท ก็ต้องมีการพิสูจน์ข้อเท็จจริงกัน

      ตาม ปพพ. ม.1312 ถ้าเขารุกล้ำโดยสุจริต  ผู้รุกล้ำก็เป็นเจ้าของบ้านหลังนั้น  แต่ต้องเสียเงินให้เจ้าของที่ดินนั้น และจดทะเบียนเป็นภาระจำยอม  ถ้าต่อมาบ้านหลังนั้นสลายไปหมด  เจ้าของที่ดินจะเรียกให้เพิกถอนการจดทะเบียนภาระจำยอมก็ได้....ถ้าสร้างโรงเรือนโดยไม่สุจริต  ต้องรื้ออกไป และทำที่ดินให้เป็นตามเดิม โดยผู้ปลูกบ้าน เป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย

      เบื้องต้น  ใช้วิธีแจ้งเตือน  โดยส่งไปรษณีย์แบบตอบรับ  ให้เขาย้ายออกจากที่ดิน ภายใน เวลาอันสมควร (15-30 วัน) ถ้ายังเพิกเฉยต้องฟ้องขับไล่  และเรียกร้องค่าเสียหาย   แน่นอนเขาก็ต้องต่อสู้ว่า เขารุกล้ำโดยสุจริต เพราะมีข้อกฎหมายรองรับให้เขาสามารถกล่าวอ้างได้  จะเป็นการรุกล้ำโดยสุจริตหรือไม่  เป็นปัญหาข้อเท็จจริง ต้องมีการพิสูจน์กัน ด้วยพยานหลักฐานต่างๆ   ทางออกที่ดีที่สุด ก็คือการเจรจาประนีประนอมกัน  น่าจะเป็นทางออกที่ปลอดภัยที่สุด และเจ็บตัว น้อยที่สุด....ขอแนะนำให้ไปที่ศาล  แจ้งเจ้าหน้าที่ศูนย์ไกล่เกลี่ย  ขอให้มีการไกล่เกลี่ยก่อนฟ้องที่ศาล  ในขั้นตอนเชิญคู่กรณีมาเจรจากัน  น่าจะมีทางออกที่เหมาะสม  การไกล่เกลี่ยก่อนฟ้องน่าจะปลอดภัย  เพราะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของศาล  ไม่ต้องมีทนายความก็ได้  และที่สำคัญที่สุด  การไกล่เกลี่ยก่อนฟ้อง ไม่มีค่าใช้จ่าย  เรื่องการไกล่เกลี่ยก่อนฟ้อง มีกฎหมายรองรับให้สามารถทำได้   ไม่ได้นั่งเทียนแนะนำ แต่แนะนำด้วยความปรารถนาดี ครับ

โดยคุณ มโนธรรม เจษฎาสาธุชน 22 ธ.ค. 2564, 08:39