ความคิดเห็นที่ 1

การยักยอกทรัพย์

  การไปบันทึกประจำวันไว้ที่โรงพัก  ก็ไม่มีข้อเท็จริง   ที่ชัดเจนว่า นายจ้างไปแจ้งความดำเนินคดี  หรือเพียงไปแจ้งตำรวจ ให้ลงบันทึกประจำวันไว้เท่านั้น  เพราะเรื่องนี้ เป็นปัญหาข้อกฎหมาย ที่ต้องพิจารณาตรงจุดนี้ ให้ชัดเจน เพราะจะมีผลต่อรูปคดี  อย่างมาก.....ถ้านายจ้างเพียงไปแจ้งตำรวจ ให้ลงบันทึกประจำวันไว้  ไม่ได้มีเจตนา แจ้งความดำเนินคดี  ถ้าผ่านไปเพียงสามเดือน  คดีนี้ก็จะขาดอายุความ  เพราะคดียักยอกทรัพย์  สามารถยอมความกันได้  แต่ถ้านายจ้างมีเจตนาแจ้งความดำเนินคดี  อายุความจะกลับกลายเป็น  10 ปี....และอีกประเด็นหนึ่ง ที่มีการบันทึกไว้ ให้ลูกจ้างชดใช้ฯ  อาจจะเข้าข่ายเป็นการยอมความกันตามกฎหมาย  ถ้าลูกจ้างไม่ใช้เงินตามสัญญา  นายจ้างต้องไปฟ้องทางแพ่งเอาเองเท่านั้น  ไม่สามารถดำเนินคดีอาญาได้  เพราะยอมความกันแล้ว....ถ้ามีการแจ้งความดำเนินคดี  ก็นำประเด็นดังกล่าวข้างต้นมาเป็นข้อสู้ได้  เช่น  ไม่แจ้งความ(ร้องทุกข์)ภายในสามเดือน  หรือ แม้มีการแจ้งความ   ก็มีการตกลงยอมความกันแล้ว ไม่สามารถดำเนินคดีอาญาได้อีก....อย่างไรก็ตามคดียักยอกทรัพย์ โทษจำคุกไม่เกินสามปี ปรับ ไม่เกินหกหมื่นบาท  ถ้ามีการดำเนินคดี และส่งฟ้องศาล  ถ้าให้การรับสารภาพ  และยินยอมใช้ฯ ตามที่นายจ้างเรียกร้อง  กรณีไม่มีเงิน  ก็สามารถขอผ่อนชำระเป็นงวดๆได้  ศาลน่าจะไม่ลงโทษจำคุก ตาม ปอ. ม.56 ม.78...

โดยคุณ มโนธรรม เจษฎาสาธุชน 15 ส.ค. 2564, 08:20