WebBoard :กฎหมาย|สงสัยว่าจะถูกบริษัทเก่าขึ้นทะเบียนBlacklist

สงสัยว่าจะถูกบริษัทเก่าขึ้นทะเบียนBlacklist

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

สงสัยว่าจะถูกบริษัทเก่าขึ้นทะเบียนBlacklist

  • 351
  • 1
  • post on 17 ก.ค. 2562, 02:11
ข้อมูลอาจจะยาวหน่อยนะครับอาจารย์

สวัสดีครับ 
 
พอดีผมมีความสงสัยว่าจะถูกบริษัทเก่าขึ้น Blacklist และ บอยคอร์ด ในการไปสัมภาษณ์งาน เพราะผมตกงานมาเป็นปีแล้ว ไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีใครรับ และประกอบกับว่าได้ทราบเรื่องมาจากคนสนิทว่า มีการส่งรูป และ ประวัติของผม ไปให้บริษัทต่างๆ ว่าถ้ามีบุคคลนี้ไปสมัครงานที่ไหนห้ามรับเข้าทำงาน 

ผมขออนุญาตเล่าเรื่องนะครับ เรื่องมันมีอยู่ว่า เมื่อเดือน พ.ค. ปี60 ผมได้เข้าทำงานที่บริษัทแห่งนึง เกี่ยวกับสื่อออนไลน์ มีProbation 4 เดือน ทั่วๆไป ในระยะการทำงาน 3 หรือ 4 เดือนแรก ผม ไม่ค่อยไปทำงานสายเลย ออกกจะไปคนแรกๆของออฟิศด้วยซ้ำ ในรายละเอียดงานผมมีหน้าที่ดูแลเพจ ดูตารางงาน ลงโฆษณา นัดคิวต่างๆ ผมก็ทำตามคำสั่งทั้งหมด จนเมื่อถึงวันที่ 30ต.ค. 60 มีการเรียกเข้าไปคุยเรื่องทดลองงาน ทางหัวหน้างานแจ้งว่าผมทำงานไม่เก่ง ไม่มีประสิทธิภาพแต่ผมมีความตั้งใจในการทำงานมาก ทางหัวหน้าจึงมรการต่อโปรให้จนถึงเดือนธันวาคม 60 (ในขณะนั้นที่ผมมีการพูดคุย ผมมีการอัดเสียงสนทนาไว้ เพื่อเป็นหลักญานในการพูดคุยเผื่อมีการเล่นไม่ซื่อกับผม) ผมตอบตกลงและทำงานมาเรื่อยๆ แต่ผมมีความรู้สึกว่า ทางบรัษัทไม่เอาผมไว้แน่ จึงได้มีการหางานใหม่เวลาผมอยู่บ้าน  ก็มีการลาหยุดบ้าง เพราะมีเรียกนัดสัมภาษณ์ หลังจากนั้นสิ่งที่ผมเจอคือในบริษัทจะให้มีการเล่นเกมส์กันทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ ซึ่งผม ไม่ชอบเล่นเกมส์ออนไลน์ เพราะเค้าจะเอาเวลาส่วนตัวของผมไป ผมปฏิเสธหลายครั้งเพราะผมไม่ชอบจริงๆ แต่ทางหัวหน้างานก็บอกว่ามันเป็นส่วนนึงของงานผมจึงต้องจำใจเล่น เหตุการที่ทำให้ผมปฏิเสธครั้งแรกก็เริ่มขึ้น คือ ช่วงนั้นผมรถเสียจึงไม่มีรถใช้ ในขณะที่ผมกำลังจะออกจากบ้านเพื่อให้คุณแม่ไปส่งขึ้นรถ ทางแผนกทุกคนเล่นตอนเช้าซึ่งผมไม่อยากเล่น ผมเลยไม่เข้าเกมส์ก็มีการทักแชทมาว่าให้เข้าเกมส์ ผมจึงจำใจเล่น ในขณะที่เดินกำลังจะขึ้นรถอยู่นั้นโทรศัพท์ผมตกพื้น หน้าจอแตก ทำให้ผมหัวเสียมาก และจะไปบริษัทเพื่อขอว่าเราจะไม่เล่น จึงเปลี่ยนมาใช้มือถือเครื่องสำรองซึ่งเก่ามากแล้ว ผมคิดว่าผมคงไม่ได้เล่นไปสักพัก แต่ทางหัวหน้างานบอกว่าต้องโหลดเกมส์มาเล่น ผมจึงจำใจเล่นอีกครั้ง และมีการพูดคุยถึงเหตุผลว่าทำไมผมไม่ชอบเล่น เพราะบ้านผมอยู่ปทุม ออฟฟิตอยู่รัชดา การเดินทางค่อนข้างลำบาก และเมื่อผมกลับจากออฟฟิตผมมีนัดออกกำลังกายเกือบทุกวัน ผมแจ้งหัวหน้างานแบบนี้ เค้าก็หาทางออกให้ผมโดยให้ผมระบุเวลามาว่าผมสามารถเล่นได้กี่โมง ผมบอกว่าประมาณ 3-4 ทุ่ม เพื่อจะให้ทางหัวหน้างานตอบว่าไม่โอเค แต่เค้าบอกว่าได้ ในเมื่อผมต้องยอมจำนน ผมก็ต้องยอมปรับเพื่อให้เข้ากับคนอื่นๆได้ ผมก็เล่นมาเรื่อยๆ จนผมรู้สึกไม่ไหว เพราะผมง่วงและต้องตื่นแต่เช้าในการออกไปทำงานแต่ก็ต้องยอมจำใจเล่น ต่อมาไม่นานรถผมซ่อมเสร็จ ผมก็ขับรถไปทำงานปกติ แต่มีการทักแชทมาตอนเช้าว่าให้เข้าเกมส์ มันทำให้ผมโมโหมากเนื่องจากผมขับรถอยู่จึงไม่ได้ตอบไป ทางพี่ในแผนกจึงมีการโทรมาบอกว่าให้เข้าเกมส์ ผมก็จำใจเข้า แต่เหตุการณ์คือ ผมเกือบประสบอุบัติเหตุ จึงเป็นอีกครั้งที่ผมแจ้งหัวหน้างานว่าผมขอไม่เล่น เพราะถ้าเกิดแบบนี้อีกมันได้ไม่คุ้มเสีย แต่ทางหัวหน้างานบอกว่าเค้าจะไม่ทำอีก ผมก็จำใจเล่นเป็นครั้งที่2 ครั้งที่3ขณะที่ผมกลับจากออกกำลังกายได้มีการโทรมาอีกว่าให้ผมเข้าเกมส์ ครั้งนั้นทำให้ผมขับรถชน ผมยิ่งไม่พอใจเพราะผมได้แจ้งแล้วกับทางหัวหน้าว่าช่วงเวลานี้ผมทำอะไรอยู่ และพอครั้งสุดท้ายในขณะที่ผมกำลังกลับบ้าน มีพี่ในแผนกทักแชทมาว่าให้ผมเล่นเกมส์ในขณะที่ผมขับรถอยู่ผมจึงไม่พิมตอบ จึงมีการโทรมาให้ผมเข้าไปเล่นเกมส์ ผมแจ้งไปว่า พี่ครับผมขับรถอยู่ไม่สะดวก เค้าบอกว่าแปปนึงๆ ผมก็จำใจเล่นทั้งที่ในใจโกรธและโมโหมาก เพราะตอนนี้ผมรู้วึกว่าผมไม่มีเวลาส่วนตัว ที่บ้านก็บ่นและว่าว่าจะเล่นอะไรนักหนา ผมก็ได้เล่าและปรึกษาให้ที่บ้านฟัง  ที่บ้านและคนในครอบครัวไม่มีใครพอใจ เพราะถ้าผมเกิดอุบัติเหตุ และเสียเงินอีกมันไม่ดี รวมทั้งหมดที่เล่ามาผมเสียค่าซ่อมมือถือไป 4000 บาทถ้วน ส่วนรถประกันจ่าย ทำให้ผมรู้สึกเพิ่มขึ้นว่าบริษัทไม่โอเค หลังจากนั้นไม่นาน ผมก็จำใจเล่น และทำงานมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมีการเรียกคุยรอบที่สอง ในวันที่ 21 พ.ย. 60 (ซึ่งผมได้ทำการอัดเสียงไว้เช่นเคย) แต่คราวนี้มาพร้อมกับใบลาออก ซึ่งผมเคยปรึกษากับครอบครัวแล้วว่าอย่าเซ็นต์ ทางหัวหน้างานแจ้งมาว่า ผมมีพฤติกรรมไม่ดี ขาดลามาสายบ่อย ซึ่งเค้าไม่เคยว่าและไม่เคยหักเงิน แต่การทำงานของผมเค้าแจ้งว่าผมไม่เก่ง ความรู้ไม่พอ ซึ่งผมเคยแจ้งไว้แล้วตั้งแต่ตอนสัมภาษณ์ว่าผมไม่เก่ง แต่ผมสามารถพัฒนา และผมมีความรับผิดชอบ ช่วงแรกก่อนที่จะมีการเรียกคุยครั้งแรก ผมไม่เคยมาสาย ทำไมถึงไม่มองจุดนั้นของผมบ้าง ผมไม่เคยลักทรัพย์ ไม่เคยทุจริตบริษัท ทำไมไม่พิจารณาบ้าง เค้าตอลว่าเค้าพิจารณาไปแล้ว ผมก็โอเค แต่ผมจะไม่เซ็นใบลาออกเด็ดขาด เนื่องจากผมมีความรู้สึกแปลกๆว่าเหมือนหลอกใช้งานผมและผมได้เข้าไปหาความรู็จากกรมแรงงานกลางและข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตมาบ้างเพื่อป้องกันตัวผมเอง และทางหัวหน้างานแจ้งว่าให้ผมสามารถไปหางานใหม่ได้ในเดือนธันวาคม 60 โดยจะไม่หักเงินเดือน แต่ผมไม่ได้รับปากอะไร ผมพูดว่าครับ แค่นั้น แต่ผมได้มีการปรึกษากับทางครอบครัวแล้วว่า พอรับเงินเดือน เดือนพ.ย. 60 ผมจะไม่ไปทำงานและจะแจ้งกรมแรงงานเรื่องการให้ออกโดยไม่เป็นธรรม หลังจากนั้นผมก็ได้เดินทางไปกรมแรงงานกลางเพื่อเล่ารายละเอียดต่างๆให้เจ้าหน้าที่ฟัง ก็มีารดำเนินเรื่องมีหมายศาลไปถึงทางบริษัทและมีวันนัด พอถึงวันนัดที่กรมแรงงานกลาง ผมไปคนเดียว ไปเจอกับทางหัวหน้างานและทนายของบริษัทก็ได้มีการไกล่เกลี่ยกัน ซึ่งผมได้พูดว่าผมไม่ได้ต้องการเงินอะไร แต่แค่ต้องการเงินชดเชย อย่างน้อย 1 เดือน เพื่อที่สามารถให้ผมเอาไปใช้ในการเดินทางไปสมัครงานและใช้ชีวติประจำวันหรือนำไปลงทุนทำอะไรสักอย่าง ไม่ได้ต้องการอย่างที่ในนายทะเบียนแจ้งไป สรุปไกล่เกลี่ยเสร็จผมได้เงินมา 25000 บาทโดยที่ไม่ได้ติดใจอะไร และไม่คิดว่าทางบริษัทจะติดใจอะไร และผมก็ใช้ชีวิตตามปกติ จนกระทั่งวันนี้ผมมีเพื่อนคนนึงทำงานในวงการสื่อเช่นกัน ได้เล่าให้ผมฟังว่า ทางหัวหน้าเค้า ซึ่งผมรู้จัก มีการบอกว่า ผมถูก Blacklist จากวงการสื่อ โดยการมีการส่งต่อรูป และประวัติของผมไป ถ้าเห็นผมมาสมัครงานที่ไหนไม่ให้รับเข้าทำงาน และไม่ต้องเรียกสัมภาษณ์โดยมีเหตุผลว่าผมเป็นภัยต่อบริษัท ถ้ารับผมเข้าทำงานอาจโดนเหมือนกัน ซึ่งผมเสียใจมาก ว่าผมเป็นภัยอย่างไรเพราะตอนนี้ผมสมัครงานที่ไหนที่เกี่ยวกับสื่อก็ไม่มีที่ไหนรับเข้าทำงาน อนาคตของผมต้องเสียเพราะสิ่งที่ผมเรียกร้องให้กับตัวผมเองโดยแค่คำที่มีอำนาจมีเงินแค่เพราะเค้าไม่เคยเห็นผมทำงาน ไม่เคยเห็นผมลงมือทำ เพราะผมไม่รู้ว่าแต่ละครั้งว่าผลงานแต่งละชิ้นเวลาถูกเสนอไป เป็นชื่อผมหรือหัวหน้างาน วันนี้ผมเป็นทุกข์ใจมากจึงอยากสอบถามอ.เดชาครับ ว่าผมควรทำอย่างไร และสามารถตรวจสอบข้อมูลว่าผมติดBlacklist ได้ไหม และผมสามารถเรียกร้องอะไรได้บ้าง เพราะผมไม่เคยคิดเป็นภัยต่อบริษัทใดๆเลย ผมถูกกระทำให้ผมเสื่อมเสียงชื่อเสียงในวงกว้างแบบนี้ ทั้งๆที่ผมเรียกร้องสิทธิ์ของผม ผมผิดด้วยหรือครับอาจารย์
โดยคุณ Musejoe (172.68.xxx.xxx) 17 ก.ค. 2562, 02:11

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 1

ติดแบล็คลิส

  อาจจะมีการมีหนังสือเวียนแจ้งไปยังบริษัทต่างๆจริง ว่าคุณ มีปัญหา ในการทำงาน  เพราะเคยมีการฟ้องศาลแรงงาน  เรื่องแบบนี้ เป็นเรื่องบอกต่อๆกันไป จะไปฟ้องร้องน่าจะไม่คุ้ม และยังมองไม่เห็นช่องทางว่า่จะแก้ไขกันอย่างไร  คงต้องปรับตัวหางานสาขาอื่นทำ....คำตอบนี้ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นเท่านั้น...
โดยคุณ มโนธรรม เจษฎาสาธุชน 17 ก.ค. 2562, 07:03

แสดงความเห็น