เป็นสมาชิกทนายคลายทุกข์แล้วได้อะไร|เป็นสมาชิกทนายคลายทุกข์แล้วได้อะไร

เป็นสมาชิกทนายคลายทุกข์แล้วได้อะไร

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

เป็นสมาชิกทนายคลายทุกข์แล้วได้อะไร

มีคนถามมายังผมและทีมงานทนายคลายทุกข์ว่า เป็นสมาชิกทนายคลายทุกข์แล้วได้อะไร ตอบ มีเพื่อนมีฝูง ที่มีอุดมการณ์เหมือนกัน คือ

บทความวันที่ 6 มี.ค. 2550, 00:00

มีผู้อ่านทั้งหมด 1342 ครั้ง


                       เป็นสมาชิกทนายคลายทุกข์แล้วได้อะไร

 

 ถาม    มีคนถามมายังผมและทีมงานทนายคลายทุกข์ว่า เป็นสมาชิกทนายคลายทุกข์แล้วได้อะไร

ตอบ    1. มีเพื่อนมีฝูง ที่มีอุดมการณ์เหมือนกัน คือ นิยมชมชอบในความยุติธรรม ไม่ชอบถูกข่มเหงรังแก ซึ่งปัจจุบันทนายคลายทุกข์มีสมาชิกที่ลงทะเบียนและทำกิจกรรมร่วมกันประมาณเกือบสี่หมื่นคน

            2. เวลาที่ท่านประสบปัญหาชีวิต ปัญหาด้านกฎหมาย ถูกข่มเหงรังแก ถูกเอารัดเอาเปรียบ ท่านสามารถที่จะขอความช่วยเหลือหรือขอคำแนะนำได้อย่างทันท่วงที จากทีมงานทนายคลายทุกข์และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน ที่เต็มที่ เต็มใจ รับใช้เพื่อนสมาชิกทุกท่าน

            3. เพื่อนสมาชิกจะได้มีโอกาสทำกิจกรรมร่วมกันเป็นประจำทุกเดือน เนื่องจากทนายคลายทุกข์ได้มีการจัดงานทนายคลายทุกข์สัญจรไปตามเขตต่าง ๆ ทั่วกรุงเทพมหานครและปริมณฑลอย่างสม่ำเสมอทุกเดือน เพื่อบรรยายให้ความรู้ทางด้านกฎหมาย รวมทั้งเป็นการรวมพลัง รู้รักสามัคคี ระหว่างเพื่อนสมาชิกด้วยกัน และกับชุมชนในแต่ละเขต

 

            ผมทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หวังว่า ท่านที่อ่านบทความข้างต้นแล้ว จะสมัครเป็นสมาชิกของทนายคลายทุกข์ ซึ่งจะได้รับสมาชิกติดตัวทุกคน เสียค่าสมัครคนละ 30 บาท ปรึกษาได้ทุกเรื่อง มีเพื่อนเพิ่มขึ้นอีกสามหมื่นกว่าคน และมีเพื่อนเพิ่มขึ้นทุกเดือน ๆ ละหลายพันคน

 

            ท่านใดสนใจ อยากจะเป็นพี่น้องกับพวกเรา สมัครได้ที่ 02-948-5700 และที่ www.decha.com , www.decharadio.com ขอบคุณครับ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 67

รบกวนขอปรึกษาอ.เดชาดังนี้ครับ

1. ผมรับจ้างควบคุมงานได้ค่าตอบแทนเป็นรายเดือนโดยไม่มีสัญญา(ไม่ใช่ลูกจ้าง)

2. ทำงานให้กับบริษัทแห่งหนึ่งโดยส่งไปควบคุมงานกับอีกบริษัทในนามของบริษัทที่ผมรับจ้าง

3. บริษัทที่ผมรับจ้างค้างจ่ายค่าจ้าง 3เดือน(โดยจ่ายเพียงบางส่วน)และเข้าสู่เดือนที่ 4 แต่จ่ายเต็มเดือนของเดือน 3

ขอถามว่า

1. ผมจะหยุดการทำงานทั้งหมดกับบริษัทที่ไปควบคุมได้หรือไม่

2. การหยุดงานเพื่อเรียกร้องเงินส่วนที่ยังค้างคืนให้ครบและจะกลับทำงานอีกครั้งมีความผิดหรือไม่

3. หากออกจากการควบคุมงานกับบริษัทที่ไปคุมงานจะสามารถเอาผิดกับผมได้หรือไม่ในแง่เซ็นรับของต่างๆเพื่องานที่ไปควบคุม

    เจตนาของผมต้องการได้เงินให้ครบตามจำนวนบริษัทผู้ว่าจ้างไม่มีความชัดเจนที่จะจ่ายเงินให้ครบได้เมื่อไหร่ และผมเองก็ไม่อยากควบคุมงานอีกต่อไปแล้วครับ

   สุดท้ายผมอยากสมัครเป็นสมาชิกด้วยครับมีข้อกำหนดอะไรบ้าง

  

โดยคุณ ขอความช่วยเหลือ 11 ก.ค. 2552, 11:54

ตอบความคิดเห็นที่ 67

การจ้างดังกล่าวมีลักษณะเป็นการจ้างแรงงาน  ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541   ลูกจ้างจึงมีสิทธิลาหยุดหรือลาพักผ่อนได้   และนายจ้างต้องจัดให้มีวันหยุดหรือวันลาพักผ่อนตามที่กฎหมายกำหนด

โดยคุณ อ.เดชา กิตติวิทยานันท์  17 ก.ค. 2552, 11:31

ความคิดเห็นที่ 66

การจ้างดังกล่าวมีลักษณะเป็นการจ้างแรงงาน  ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541   ลูกจ้างจึงมีสิทธิลาหยุดหรือลาพักผ่อนได้   และนายจ้างต้องจัดให้มีวันหยุดหรือวันลาพักผ่อนตามที่กฎหมายกำหนด

โดยคุณ อ.เดชา กิตติวิทยานันท์  17 ก.ค. 2552, 11:31

ความคิดเห็นที่ 65

เรียนถาม อ. เดชา ครับ

เมื่อวันที่ 4/7/52  ลูกสาวผมอายุ 10 ปีนั่งเล่นที่ด้านนอกหน้าบ้าน  แล้วมีเด็กผู้ชายอายุ 4 ปีบ้านอยู่ในซอยเดียววกัน ขว้างหินมาโดนที่ขอบตาด้านล่างแตก  เย็บ 5 เข็ม  จะเรียกร้องค่าสินไหมได้ไหม

ขอบคุณครับ

โดยคุณ ชิด (สมาชิก) 4 ก.ค. 2552, 22:19

ตอบความคิดเห็นที่ 65

เรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากผู้ปกครองหรือบิดามารดาของผู้เยาว์ได้  ตาม ป.พ.พ.มาตรา 444, มาตรา 445, มาตรา 446  และบิดามารดาหรือผู้อนุบาลของผู้เยาว์ต้องร่วมรับผิดตามมาตรา 429

โดยคุณ อ.เดชา กิตติวิทยานันท์  13 ก.ค. 2552, 16:21

ความคิดเห็นที่ 64

เรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากผู้ปกครองหรือบิดามารดาของผู้เยาว์ได้  ตาม ป.พ.พ.มาตรา 444, มาตรา 445, มาตรา 446  และบิดามารดาหรือผู้อนุบาลของผู้เยาว์ต้องร่วมรับผิดตามมาตรา 429

โดยคุณ อ.เดชา กิตติวิทยานันท์  13 ก.ค. 2552, 16:21

ความคิดเห็นที่ 63

 อยากเรียนถาม อ.เดชา

เรื่องออกงานก่อนสัญญาครับ เรื่องมีอยู่ว่า ผมทำงานมาได้10เดือนแล้วแต่ได้บันจุมา5เดือน ในละหว่างที่ทำงานผมและหน.ความเห็นไม่ค่อยตรงกันผมทำอะไรก็จะต้องถูกตำหนิไปทุกเรื่อง ทั้งที่เรื่องงานผมว่าผมทำถูกแล้วเพราะจากประสบการที่ทำงานมาทั้งเรื่องเสนอราคาและคุยกับลูกค้า ก่อนวันเกิดเหตุผมได้เสนอราคาลูกค้าโดยได้ราคาจากผู้รับเหมา(เป็นสินค้าที่บริษัทไม่ได้ขายโดยตรง) ผมก็ทำเรื่องเสนอหน.ไปก็ผ่านได้ จากนั้นลูกค้าขอต่อรองราคา ผมจึงให้ผู้รับเหมาเสอนราคาอีกที่และผมเองก็ศึกษาสินค้าด้วยจึงแย้งผู้รับเหมาไปว่าราคาและพื้นที่มากไปผู้รับเหมาจึงเสนอราคาและพื้นที่ที่ต่ำลงมามาก ผมจึงทำราคาไปให้หน.ดูและคิดทั้งราคาเก่าและไหม่ให้ดูแต่ราคาที่ผมเสนอกับลูกค้าจะลงมาต่อหน่ายมากหน่อยแต่พื้นที่ลดลงมานิดหน่อยเพื่อไม่ไห้ดูว่าการเสอนราคาครั้งก่อนพื้นที่สูงเกินไป แต่พอเอาเรื่องไปเสนอหน.กับถูกว่าทั้งที่ผมแค่ขอความคิดเห็นเพิ่มเติม หน.บอกว่าผมทำให้บริษัทเสียชื่อเสียงและผมทำงานบกผ้องต่อหน้าที่ ผมจึงเดินออกมาจากบริษัท และถัดมาอีก2วันผมได้ฝากใบลาออกไปให้หน.และฝ่ายบุคคล หน.ได้โทรแจ้งว่าจะฟ้องคนค้ำ ผมอยากถาม อ.เดชา ว่าผมจะถูกฟ้องไม่ครับเพราะมีสัญญาการทำงาน2ปี ถ้าออกก่อนจะต้องชดใช้50000บาท และอย่าถ้ามว่าวันทำงานนที่ผมทำไป17วันผมต้องได้เงินไม่ครับและเงินที่ผมสงเงินสมทบไปจะได้คืนไหมครับ รบกัวน อ.เดชาช่วยตอบด้วยครับเพราะผมไม่อยากให้คนค้ำเขาเดือดร้อน ถ้าถูกฟ้องจะมีทางไหนที่จะสู้คดีได้ครับ

โดยคุณ จิรภัทร 3 ก.ค. 2552, 12:47

ตอบความคิดเห็นที่ 63

ต้องไปตรวจดูในสัญญาระหว่างคุณกับนายจ้างว่ามีข้อตกลงเป็นอย่างไรบ้าง  ถ้าในสัญญาระบุว่า ต้องทำงานครบ 2 ปี  แต่คุณออกไปก่อนครบกำหนด  คุณก็เป็นฝ่ายผิดสัญญา  นายจ้างสามารถเรียกค่าเสียหายจากการผิดสัญญาของคุณได้  แต่ยังมีทางออก  สามารถนำเอกสารต่าง ๆ เข้ามาขอคำปรึกษาได้ที่ 02-9485700 ค่ะ

โดยคุณ ทีมงานทนายคลายทุกข์  13 ก.ค. 2552, 11:34

ความคิดเห็นที่ 62

ต้องไปตรวจดูในสัญญาระหว่างคุณกับนายจ้างว่ามีข้อตกลงเป็นอย่างไรบ้าง  ถ้าในสัญญาระบุว่า ต้องทำงานครบ 2 ปี  แต่คุณออกไปก่อนครบกำหนด  คุณก็เป็นฝ่ายผิดสัญญา  นายจ้างสามารถเรียกค่าเสียหายจากการผิดสัญญาของคุณได้  แต่ยังมีทางออก  สามารถนำเอกสารต่าง ๆ เข้ามาขอคำปรึกษาได้ที่ 02-9485700 ค่ะ

โดยคุณ ทีมงานทนายคลายทุกข์  13 ก.ค. 2552, 11:34

ความคิดเห็นที่ 61

เรียนอาจารย์เดชาค่ะ

หนูมีเรื่องขอความกระจ่างหน่อย คือแม่หนูได้เช่าที่วัดเป็นรายปีที่จะปลูกบ้าน

ความยาวของที่ 14 เมตร กว้าง 6 เมตรและได้ทำการขอแบบแปลนจากทาง

เทศบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ระหว่างที่ทำการก่อสร้างได้มีบ้านข้างในซึ่งเช่า

ที่วัดเหมือนกันไปยื่นคำร้อง ขอระงับการปลูกบ้านเหตุผลเพราะเค้าหาว่าเราปลูกเกิน

พื้นที่ทางเข้าออก ซึ่งจากถนนมาถึงตัวบ้านก็ห่าง 2 เมตรอยู่แล้วปลูกสร้างตามแบบแปลน

ทุกอย่างแล้วคนที่เขียนแบบแปลนก็มาบอกให้แม่ของหนูระงับการก่อสร้าง เลยอยาก

เรียนถามอาจารย์ว่า แม่หนูทำผิดด้านไหนไหม พอมีวิธีไหนบ้างที่จะให้เรื่องราวผ่านไปได้

เพราะคนที่ไปร้องเรียนก็ทำงานอยู่ที่ทำการอำเภอเค้าเลยรู้จักคนเยอะ

โดยคุณ ปาริชาติ เยื่อแก้ว (สมาชิก) 3 ก.ค. 2552, 02:48

ตอบความคิดเห็นที่ 61

ถ้าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่หน่วยงานของรัฐบาล  ท่านสามารถดำเนินคดีต่อเจ้าพนักงานผู้นั้นได้  ตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครอง โดยยื่นฟ้องได้ที่ศาลปกครองถนนแจ้งวัฒนะ กทม.

โดยคุณ ทีมงานทนายคลายทุกข์  13 ก.ค. 2552, 11:36

ความคิดเห็นที่ 60

ถ้าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่หน่วยงานของรัฐบาล  ท่านสามารถดำเนินคดีต่อเจ้าพนักงานผู้นั้นได้  ตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครอง โดยยื่นฟ้องได้ที่ศาลปกครองถนนแจ้งวัฒนะ กทม.

โดยคุณ ทีมงานทนายคลายทุกข์  13 ก.ค. 2552, 11:36

ความคิดเห็นที่ 59

รหัสสมาชิก R 38435 คับ (ลืมๆ)

โดยคุณ  (สมาชิก) 2 มิ.ย. 2552, 23:48

ความคิดเห็นที่ 58

ติดตามรายการอ.เดชา มา3-4ปีแล้วครับ ตั้งแต่ฟังเฉยๆจนตอนนี้มาลงเรียนนิติฯที่ม.ราม ภาคปกติเพิ่มแล้วครับ

รายการอ.เดชามีประโยชนืมากครับ ทำให้สมาชิกที่รับฟังเป้นคนรอบรู้ และสามารถช่วยสังคมให้มีความยุติรรมได้อีกทาง

ตอนนี้ต่อป.โท (อาชญา)ว่างๆสนใจงานสายลับ ท่านอ.เดชา พอแนะนำแนวทางให้หน่อยได้มั้ยคับ

ขอให้อ.เดชา ทีมงาน และรายการอยู่คู่สังคมไทยไปนานๆคับ

โดยคุณ  (สมาชิก) 2 มิ.ย. 2552, 23:43

ความคิดเห็นที่ 57

เรียน  อ.เดชา

        ดิฉันผ่อนสินค้ากับ บ.อิออน จำนวน 4 รายการ บัตรเครดิต/มือถือ/เงินกู้/รถจักรยานยนต์ ดิฉันค้างค่างวด มา 2 เดือน แต่จ่ายเฉพาะรถจักรยานยนต์ทุกเดือนไม่เคยค้าง ดิฉันอยากถามว่า

1.สินค้าอย่างอื่นที่เราไม่ได้จ่ายเค้าแต่เราจ่ายค่ารถทุกเดือนแล้วเค้ามีสิทธิ์มายึดรถรถเราได้หรือไม่

2.ดิฉันเคยขอเจรจาทำสัญญาประนอมหนี้แต่ไม่สำเร็จเค้าบอกว่ามีรถไม่สามารถทำได้ จริงหรือไม่

โดยคุณ สุกัญญา คำสอนพันธ์ (สมาชิก) 25 พ.ค. 2552, 17:15

ตอบความคิดเห็นที่ 57

1.  ถ้ายังไม่มีการฟ้องร้อง  ก็ไม่สามารถยดรถจักรยานยนต์คุณได้

2.  การประนอมหนี้สามารถทำได้  แต่หากว่าบริษัทไม่ยอมให้คุณประนอมหนี้อาจเนื่องจากไม่มีนโยบายการประนอมหนี้

โดยคุณ อ.เดชา กิตติวิทยานันท์  26 พ.ค. 2552, 14:16

ความคิดเห็นที่ 56

1.  ถ้ายังไม่มีการฟ้องร้อง  ก็ไม่สามารถยดรถจักรยานยนต์คุณได้

2.  การประนอมหนี้สามารถทำได้  แต่หากว่าบริษัทไม่ยอมให้คุณประนอมหนี้อาจเนื่องจากไม่มีนโยบายการประนอมหนี้

โดยคุณ อ.เดชา กิตติวิทยานันท์  26 พ.ค. 2552, 14:16

ความคิดเห็นที่ 55

เรียน อาจารย์เดชา

เรื่อง กระโดดน้ำตาย เพราะต้องการปลดหนี้สินจริงหรือไม่ กระโดดน้ำตาย เพื่อผู้รับผลประโยชน์จากประกันชีวิตหรือไม่ กระโดดน้ำตายเพราะน้อยใจครอบครัวใช่หรือไม่ เพราะอะไรยังไม่ทราบเหตุผล ??

ดิฉันมีคำถามอยากเรียนถามอาจารย์ค่ะ??

(เรื่องคร่าวๆ เรื่องราวต่างๆ มีมากกว่านี้ค่ะ)
เรื่องนี้มีอยู่ว่าคุณแม่ดิฉันได้ยืมเงินป้าคือพี่สาวของแม่โดยมิได้ทำสัญญาใดๆ แม้แต่คนเดียว เพราะเชื่อใจกันมากค่ะ เงินที่ยืมมาเป็นจำนวนมาก ประมาณ 1,400,000 บาท โดยทำการส่งดอกให้ทุกๆ เดือนมิได้ขาด และได้หยิบยืมเงินเพื่อนๆ แถวบ้าน

คนแรกเป็นคนออกเงินกู้แต่มิทราบว่าดอกเท่าไหร่? ตัวเงินประมาณ 127,000 บาทก้อส่งทุกเดือน

คนที่สองเป็นช่างเย็บ ตัดเสื้อผ้าส่วนตัวของคุณแม่ ตัวเงินประมาณ 500,000 บาท ส่งทุกเดือนเช่นกัน

คนที่สามเป็นแม่บ้าน ยังไม่ทราบจำนวนเงิน

สิ่งที่น่าเสียใจที่สุดคือ คนในครอบครัวไม่มีใครรู้เรื่องซักคน เมื่อคุณแม่ดิฉันเครียดมาก แต่ว่าไม่ทราบด้วยเหตุผลใด ท่านจึงตัดสินใจกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย...

ไม่มีใครในครอบครัวรู้ว่าเครียดเรื่องอะไร ไม่เคยทราบเลยแม้แต่นิดเดียว คุณพ่อไม่เคยทะเลาะกันกับคุณแม่ มีเงินให้ตลอด คุณแม่อยู่บ้านเฉยๆ เป็นแม่บ้านธรรมดาๆ เลี้ยงลูกอีกสองคนคือดิฉันเป็นน้องสาว เรียนปริญญาตรีปี 4 ส่วนพี่ชายทำงานแล้ว

คุณพ่อทำงานการไฟฟ้าฯ มีหนี้ของการกู้ยืมการไฟฟ้าฯ บางคนอาจเข้าใจผิดว่าเป็นการเอาประกันภัยรึเปล่า? แต่ดิฉันยืนยันได้เลยว่าไม่ใช่แน่นอนค่ะ

ที่ค้างคาใจคือมีเรื่องที่ประติดประต่อกันไม่ได้เลย หลังจากที่คุณแม่เสียชีวิต ป้าแท้ๆ โทรมาบอกว่าแม่ติดตังป้าอยู่ แล้วน้องชายแม่อีกคนซึ่งไม่ถูกกับป้า โทรมาบอกพ่อว่าให้หาเอกสารประกันชีวิต เพราะได้ยินป้าพูดว่าต้องชดใช้ด้วยชีวิต เสีย 40,000 ถึงจะได้เงินก้อน ทำให้พวกเราแปลกใจ เราจึงตัดสินใจถามป้า ป้าบอกไม่เคยพูด

ส่วนเจ้าหนี้ที่เคยกล่าวถึงก้อพากันมาทวงเงินบอกว่าพ่อรู้เรื่อง พอพ่อบอกเอาสัญญามา ทุกคนนิ่ง อึ้งทุกคนเพราะไม่มี แต่ก็ยังมาทวงอยู่ร่ำไป ทั้งๆที่งานของแม่ยังไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำ

อีกประการคือ ที่รับรู้มาคือแม่ซื้อบ้านในราคา 3 ล้านกว่าบาท แต่ที่ไหน ไม่มีใครรู้ ป้าเป็นคนพูดบอกว่าเพื่อนแม่บอกมา ซื้อเรียบร้อยแร้วสวยมาก ซึ่งพวกเราก้อไม่รู้เรื่องอีกเหมือนเคย อยากจะไปถามแต่ก็ยังไม่อยากรับรู้เรื่องอะไรอีกต่อไป หากพวกนั้นอยากได้ ก็เอาไปค่ะ

ป้าบอกอีกอย่างคือแม่เอาเงินไปออกเงินกู้แต่ให้ใครมิมีใครทราบเรย แม่มิเคยไปไหนมาไหนคนเดียวแน่นอน

มีคำถามดังนี้ค่ะอาจารย์
-อยากทราบว่าพวกเจ้าหนี้ทั้งหลายที่กล่าวมาจะมีสิทธิยื่นฟ้องศาลในกรณีต่างๆ หรือกระทำการใดๆ กับครอบครัวของดิฉันได้หรือไม่ค่ะ?

-แล้วทางครอบครัวของเราไม่เคยทราบมาก่อนว่ามีการเป็นหนี้สินมากมาย ไม่มีหนังสือสัญญา ไม่มีอะไรเหลือเลย เหมือนแม่ตัดสินใจตัดหนี้ทั้งหมด เราต้องรับผิดชอบอะไรไหมค่ะ?

-ทางครอบครัวเราไม่มีเงินมากมาย พูดได้ว่ามีกินแต่ไม่มีเก็บ รถซักคันก้อไม่มี บ้านก็ไม่มี อยู่แฟลตมาตลอดตั้งแต่ดิฉันจำความได้ ไม่มีปัญญาไปใช้หนี้ตั้งหลายล้านค่ะ จะมีทางออกใดบ้างค่ะ ต้องใช้หนี้แทนแม่หรือเปล่าค่ะ???

-พวกเจ้าหนี้กดดันทำให้แม่ตัดสินปัญหาด้วยการฆ่าตัวตาย เราจะฟ้องร้องใครได้หรือไม่ค่ะ

-หากแม่ซื้อบ้านไว้จริงดิฉันกับครอบครัวมีสิทธิในบ้านหรือไม่ค่ะ แต่เพื่อนแม่ที่รู้อยู่คนเดียวว่าจริงหรือไม่ เขาไม่มาหา ไม่พูดถึง ไม่กล่าวถึงเลยแม้แต่น้อย ดิฉันควรทำอย่างไรดีค่ะ..??

ขอขอบพระคุณอาจารย์เดชาล่วงหน้าค่ะ
ดิฉันไม่มีปัญญาพอที่จะหาทางออกแล้วค่ะ อาจารย์ช่วยตอบคำถามของดิฉันด้วยนะค่ะ ถือว่าสงสารเด็กกำพร้าแม่โดยที่ไม่รู้เหตุผล....ค่ะ ขอบพระคุณอาจารย์อีกครั้งค่ะ
 

โดยคุณ ศิริพร นันทพานิชย์ (สมาชิก) 21 พ.ค. 2552, 13:39

ตอบความคิดเห็นที่ 55

1.  เจ้าหนี้ทั้งหลายมีสิทธิยื่นฟ้องครอบครัวคุณได้  แต่ทายาทไม่จำต้องรับผิดเกี่ยวกับทรัพย์มรดกที่ตกทอดให้แก่ตน ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1601

2.  รับผิดชอบไม่เกินกว่าทรัพย์มรดกของคุณแม่คุณที่ตกทอดแก่ทายาท

3.  การข่มขู่ชีวิตของแม่คุณ  ก็สามารถฟ้องได้ครับ 

4.  บ้านคุณแม่คุณเป้นมรดกให้ทายาท  อาจถูกฟ้องเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ได้

โดยคุณ อ.เดชา กิตติวิทยานันท์  26 พ.ค. 2552, 14:21

ความคิดเห็นที่ 54

1.  เจ้าหนี้ทั้งหลายมีสิทธิยื่นฟ้องครอบครัวคุณได้  แต่ทายาทไม่จำต้องรับผิดเกี่ยวกับทรัพย์มรดกที่ตกทอดให้แก่ตน ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1601

2.  รับผิดชอบไม่เกินกว่าทรัพย์มรดกของคุณแม่คุณที่ตกทอดแก่ทายาท

3.  การข่มขู่ชีวิตของแม่คุณ  ก็สามารถฟ้องได้ครับ 

4.  บ้านคุณแม่คุณเป้นมรดกให้ทายาท  อาจถูกฟ้องเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ได้

โดยคุณ อ.เดชา กิตติวิทยานันท์  26 พ.ค. 2552, 14:21

ความคิดเห็นที่ 53

มีคำถามอยากเรียนถาม อ.เดชา ครับ

เรื่องการอายัดเงินเดือน

กระผมมีคำถามใน เรื่องการอายัดเงินเดือน . เนื่องจากว่า ด้วย การที่พักอาศัยของกระผมเดิมนั้นได้ถูกกรมบังคับคีดได้ บอก การขายทอดตลาดไปแล้วนั้น และกระผมได้เข้า มารับฟังการขายทอดจากกรมบังคับคดีโดยที่ กระผมไม่ได้ค้าน ยินยอมให้ คนที่มาประมูลนั้นได้ไป และก็มีคน มาซื้อต่อจากคนประมูลไปได้แล้ว (ที่ได้ รับฟังในการประมูลอยู่ที่ราคา 550,000 โดยประมาณ : ซึ่ง ยอดเงินต้นรวมดอกเบี้ยเดิมนั้นอยู่ ที่ 979,960.85 รวมดอกเบี้ยแล้ว จากยอดเงินต้น 650,863.23) จนคิดว่า เรื่องมัน จบลงแล้ว แต่ อยู่ๆๆ นัน ได้ มี จม. และแบบฟอร์ม มาให้ชำระเงิน จากบริษัทบริหารสินทรัพย์มา และไม่ ได้ระบุจำนวน เงินคงเหลือ(ซึ่งอันนี้กระผมคิดว่าหน้าจะเป็นเงินคงเหลือคงค้างจากยอดที่ประมูลได้นั้น : แต่ก็ไม่มี การแจ้งยอดเงินคงเหลือจากเงินต้นทาง จม. หรือ หมายศาลอะไรมาเลย) ดั้งนั้น เมื่อวันที่ 20 เม.ย. 2552 มี จม. จากกรมบังคับคดีมา ได้แจ้งมาว่า แจ้งการอายัดเงินเดือนมา เพื่อทราบ โดย อายัด เงินเดือน ร้อยละ30 ซี่ง ตัวกระผมเองเข้าใจว่า (ไม่รู้ถูกหรือเปล่า) ว่า การที่จะอายัดเงินเดือนนั้น ตัวกระผมจะต้องไปขึ้นศาลด้วยใช้เปล่าและตัวกระผมก็ไม่ได้รับหมายศาลใดๆเลย ซึ่งกระผมไม่รู้ว่าจะต้องทำยังงัยดี กระผม จะมี สิทธิเรียกร้อง อะไรได้เปล่า และถ้าฝ่าย โจทก์ ไม่ให้ ใช้สิทธิ์หรือ อื่นๆ กระผมจะต้องทำยังงัยบ้างซึ่งกระผมเองก็มีพาละที่จะต้องเลี้ยงดูบุตร 3 คน (กระผมหย่ากับภรรยาแล้ว) แต่จะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่างๆ ของบุตรทั้ง3 คน และ บิดาและมารดา ของกระผมเองด้วย

กรุณาช่วยให้คำชี้แนะมาให้กระผมด้วยนะครับหรือโทรมาที่ เบอร์ 086-6025182

โดยคุณ กษิดิ์เดช จิตจรัสบุณย์ (สมาชิก) 5 พ.ค. 2552, 22:31

ตอบความคิดเห็นที่ 53

1.  หากคุณต้องการทราบว่า จำนวนยอดหนี้ที่คุณจะต้องชำระให้แก่เจ้าหนี้เหลืออยู่จำนวนเท่าไหร่  คุณสามารถตรวจสอบได้ที่เจ้าพนักงานบังคับคดี

2.  หากมีการขายทอดตลาดทรัพย์สินของลูกหนี้แต่ไม่พอชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้จนครบจำนวน (ตามคำพิพากษาของศาล)  เจ้าหนี้มีสิทธิที่จะขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดียึดหรืออายัดทรัพย์อื่นของลูกหนี้ได้อีก 

ในกรณีของคุณการขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึด(ไม่พอชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ได้  เจ้าหนี้จึงสามารถอายัดเงินเดือนของคุณได้อีก 30%  ของเงินเดือนที่ได้รับ  และหากมีการอายัดแล้วต้องเหลือค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพให้แก่ลูกหนี้ 10,000 บาท ตาม ป.วิ.แพ่ง มาตรา 284 และมาตราร 286 (3)

โดยคุณ อ.เดชา กิตติวิทยานันท์  13 พ.ค. 2552, 15:39

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก