งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ
ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ
สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ
รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ
ผู้จัดการมรดกไม่ยอมแบ่งมรดก ศาลจำคุกไม่รอการลงโทษ
คำพิพากษาฎีกาที่ 1543/2568
ฟ้องโจทก์ทั้งสองเดิมกล่าวหาว่าจำเลยในฐานะผู้จัดการมรดกกระทำผิดหน้าที่ด้วยการเบิกถอนเงินจากบัญชีเงินฝากที่เปิดไว้ในนามผู้จัดการมรดกเพียงรายการเดียว 2,000,000 บาท โอนเข้าบัญชีเงินฝากส่วนตัวของจำเลยโดยทุจริต แต่เมื่อได้ความจากการไต่สวนมูลฟ้องว่า จำเลยเบิกถอนเงินจำนวนดังกล่าวจากบัญชีเงินฝากส่วนตัวของจำเลยโอนเข้าบัญชีเงินฝากส่วนตัวของจำเลยอีกบัญชีหนึ่ง มิได้ถอนจากบัญชีเงินฝากที่เปิดในนามผู้จัดการมรดกตามที่บรรยายในฟ้อง การที่โจทก์ทั้งสองแก้ฟ้องการถอนเงินของจำเลย 4,000,000 บาท อีกรายการหนึ่งเพื่อให้ตรงกับข้อนำสืบของโจทก์ทั้งสองในชั้นไต่สวนมูลฟ้องว่าเป็นการถอนจากบัญชีเงินฝากที่เปิดไว้ในนามผู้จัดการมรดกโอนเข้าบัญชีเงินฝากส่วนตัวของจำเลย ถือไม่ได้ว่าเป็นการแก้ไขเล็กน้อยที่เกิดจากการพิมพ์จำนวนเงินผิดพลาดตกหล่นแต่เป็นข้อกล่าวหาใหม่อีกข้อกล่าวหาหนึ่งโจทก์ทั้งสองต้องฟ้องหรือแก้ฟ้องอันเป็นความผิดต่อส่วนตัวภายในกำหนดอายุความ 3 เดือน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 96 โจทก์ทั้งสองเพิ่งขอแก้ฟ้องเมื่อรู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิดเกินกว่า 3 เดือน จึงขาดอายุความ สิทธินำคดีอาญามาฟ้องเป็นอันระงับไป ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2)
เงินจำนวน 2,000,000 บาท ที่ถูกถอนและโอนในระหว่างบัญชีเงินฝากส่วนตัวของจำเลยไม่เกี่ยวข้องกับบัญชีเงินฝากที่จำเลยเปิดในนามผู้จัดการมรดกของผู้ตายแม้ที่มาของเงินเกิดจากจำเลยถอนเงิน 4,000,000 บาท จากบัญชีเงินฝากที่เปิดไว้ในนามผู้จัดการมรดกโอนเข้าไปบัญชีเงินฝากส่วนตัวของจำเลยก่อน จากนั้นจำเลยแบ่งถอนเงินที่รับโอนจากบัญชีฝากดังกล่าวนำไปเข้าบัญชีเงินฝากส่วนตัวของจำเลย การกระทำของจำเลยก็ไม่อาจเกิดเป็นความผิดขึ้นได้
จำเลยถอนเงินออกจากบัญชีเงินฝากที่เปิดในนามผู้จัดการมรดกโดยทุจริต ย่อมเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 353 ประกอบมาตรา 354 สำเร็จแล้ว หลังจากนั้นจำเลยจะโอนหรือแบ่งโอนเงินจำนวนนี้ต่อไปอย่างไร หรือจะโอนไปอีกกี่ทอด ย่อมไม่อาจก่อให้เกิดความผิดในข้อหาเดียวกันนี้ได้อีก
สาระสำคัญของการใช้เงินอยู่ที่ว่าเงินมรดกของผู้ตายซึ่งเบิกถอนจากบัญชีเงินฝากที่เปิดไว้ในนามผู้จัดการมรดกได้ถูกนำมาใช้เพื่อจัดการมรดกของผู้ตายให้เกิดประโยชน์แก่บรรดาทายาทโดยธรรมผู้มีสิทธิรับมรดกหรือไม่ การนำบัญชีเงินฝากส่วนตัวของจำเลยที่มีอยู่แล้วมาใช้รับโอนเงินที่ถอนออกมาย่อมถือได้ว่าเป็นการเบียดบังทรัพย์มรดก ตราบใดที่จำเลยมิได้นำเงินที่ถอนออกมาไปใช้จ่ายเพื่อประโยชน์ส่วนตัว ลำพังจำเลยเบิกถอนเงินมรดกของผู้ตายจากบัญชีเงินฝากที่เปิดไว้ในนามผู้จัดการมรดกโอนมาเข้าบัญชีเงินฝากส่วนตัวของจำเลยเพียงเท่านี้ ยังไม่อาจถือได้ว่าจำเลยยักยอกทรัพย์มรดกในส่วนนี้
จำเลยเบิกถอนเงินมรดกของผู้ตายนำไปใช้ในการสร้างบ้านหลังใหม่อันเป็นประโยชน์ส่วนตัวของจำเลยโดยทายาทอื่นไม่มีส่วนได้รับประโยชน์ใดๆ การจัดการมรดกของผู้ตายในพฤติการณ์เช่นนี้ เป็นการกระทำผิดหน้าที่ของผู้จัดการมรดก เป็นการกระทำโดยทุจริตเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ประโยชน์ที่เป็นทรัพย์สินของโจทก์ทั้งสองซึ่งเป็นทายาท เมื่อเงินที่ใช้ในการก่อสร้างบ้านหลังใหม่เป็นเงินมรดกของผู้ตายที่ต้องนำมาแบ่งปันให้แก่ทายาททุกคนโดยเท่าเทียมกัน แม้ ช. ซึ่งเป็นบิดาของโจทก์ทั้งสองและจำเลยก็ไม่มีสิทธิใดๆ ตามกฎหมายที่จะสั่งให้จำเลยซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายนำเงินจำนวนนี้มาใช้สร้างบ้านหลังใหม่โดยต้องการที่จะให้ตกเป็นของจำเลยแต่เพียงผู้เดียวได้ จำเลยไม่อาจยกเอาความประสงค์ของ ช. ขึ้นเป็นข้อแก้ตัวได้ว่าจำเลยมีสิทธิได้รับประโยชน์จากเงินมรดกของผู้ตายส่วนนี้ลำพังแต่เพียงผู้เดียวทั้งขณะที่เจรจาไกล่เกลี่ยกันจำเลยยืนยันว่าที่ดินที่ปลูกบ้านใหม่จำเลยประสงค์ที่จะโอนเป็นของตนแต่เพียงผู้เดียว พฤติการณ์ของจำเลยแสดงว่าการเบิกถอนเงินมรดกของผู้ตายเพื่อนำมาสร้างบ้านใหม่ เป็นการกระทำเพื่อประโยชน์ของจำเลยเองอันถือไม่ได้ว่าเป็นไปโดยสุจริต การกระทำของจำเลยเป็นความผิด การกระทำของจำเลยเป็นความผิดจตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 353 ประกอบมาตรา 354
การจัดการทรัพย์สินอันเป็นกรรมสิทธิ์รวมของเจ้าของหลายคนโดยอาศัยคะแนนข้างมาก ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1358 เป็นเรื่องการจัดการเพื่อใช้ประโยชน์และดูแลรักษาทรัพย์สิน ไม่ใช้บังคับกับการจำหน่ายจ่ายโอนทรัพย์สินอันมีกรรมสิทธิ์รวมให้แก่บุคคลอื่นไปทั้งหมดโดยเจ้าของรวมผู้มีคะแนนข้างน้อยไม่ยินยอมด้วยได้ เจ้าของรวมแต่ละคนยังคงมีสิทธิจำหน่ายจ่ายโอนทรัพย์สินเฉพาะส่วนที่ตนมีกรรมสิทธิ์อยู่โดยไม่กระทบต่อสิทธิเจ้าของรวมคนอื่น ช. เจ้าของรวมคนหนึ่งไม่อาจมีคำสั่งหรือทำพินัยกรรมให้จำเลยในฐานะผู้จัดการมรดกของผู้ตายไปจดทะเบียนรับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาททั้งหมดมาเป็นของจำเลยผู้เดียวได้ จำเลยในฐานะผู้จัดการมรดกของผู้ตายมีหน้าที่ต้องนำมาแบ่งปันกันอย่างเท่าเทียม จะอ้างว่าจำเลยสมควรที่จะได้รับมรดกที่ดินพิพาทส่วนที่ผู้ตายเป็นเจ้าของรวมนี้ไปด้วยทั้งหมดแต่ผู้เดียวโดยไม่ได้แบ่งให้แก่ทายาทคนอื่นๆ ย่อมไม่อาจกระทำได้
ปรึกษาข้อกฎหมายสอบถาม 02-948-5700 หรือ 081-616-1425 หรือ 081-625-2161, 081-821-7470