คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1730/2566

บทความวันที่ 10 ธ.ค. 2568, 10:46

มีผู้อ่านทั้งหมด 153 ครั้ง

เงินทำบุญช่วยงานศพ  เอามาหักจากค่าเสียหายตามฟ้องไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1730/2566
            จำเลยขับรถยนต์เฉี่ยวชนผู้ตายและเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตายทันทีในวันเกิดเหตุ โจทก์ร่วมไม่มีสิทธิเรียกค่าสินไหมทดแทนที่ต้องขาดประโยชน์ทำมาหาได้เพราะไม่สามารถประกอบการงานตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 443 วรรคสอง
          ก่อนถึงแก่ความตาย ผู้ตายซึ่งเป็นบิดาโจทก์ร่วมเป็นผู้จัดการดูแลสวนและนาแต่เป็นการประกอบอาชีพของผู้ตายตามปกติโดยไม่ปรากฎว่าผู้ตายมีความผูกพันตามกฎหมายที่ต้องทำการงานในครัวเรือนหรืออุตสาหกรรมแก่โจทก์ร่วม กรณีไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 445 โจทก์ร่วมมีสิทธิเรียกค่าสินไหมทดแทนเพื่อที่ต้องขาดแรงงาน
             พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 มาตรา 20 เป็นสิทธิทางแพ่งที่ผู้ประสบภัยหรือทายาทโดยธรรมของผู้ประสบภัยจะได้รับค่าเสียหายเพื่อเยียวยาบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น  และมาตรา 25 วรรคสอง  บัญญัติว่า ให้ถือว่าค่าเสียหายเบื้องต้นเป็นส่วนหนึ่งของเงินค่าสินไหมทดแทนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และมาตรา 4 บัญญัติว่า ค่าเสียหายเบื้องต้น หมายความว่า ค่ารักษาพยาบาล  ค่าใช้จ่ายอันจำเป็นเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล ค่าปลงศพ ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการจัดการศพ  รวมทั้งค่าเสียหายและค่าใช้จ่ายที่จำเป็นอย่างอื่นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบภัยในเบื้องต้น จึงต้องนำเงินค่าเสียหายเบื้องต้นที่โจทก์ร่วมได้รับไปแล้ว และถือว่าเป็นค่าเสียหายส่วนหนึ่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาหักออกจากค่าปลงศพด้วย
            แต่เงินช่วยค่าทำศพ 10,000 บาท เป็นการช่วยเหลือค่าปลงศพให้แก่โจทก์ร่วมบางส่วนตามหลักมนุษยธรรม มิใช่จำเลยช่วยค่าทำศพ โดยยอมรับผิดและไม่ได้มอบให้ในฐานะเป็นค่าเสียหายส่วนหนึ่ง แต่เป็นการให้ในลักษณะร่วมทำบุญอันเป็นการสำนึกในศีลธรรมจะนำมาหักกับจำนวนเงินค่าปลงศพที่โจทก์ร่วมฟ้องเรียกร้องไม่ได้

ปรึกษาข้อกฎหมายสอบถาม 02-948-5700 หรือ 081-616-1425 หรือ 081-625-2161, 081-821-7470