นายจ้างต้องร่วมรับผิดกับลูกจ้างในการกระทำละเมิดของลูกจ้าง (โดยไม่ต้องคำนึงว่าปล่อยปละละเลยหรือไม่)|นายจ้างต้องร่วมรับผิดกับลูกจ้างในการกระทำละเมิดของลูกจ้าง (โดยไม่ต้องคำนึงว่าปล่อยปละละเลยหรือไม่)

นายจ้างต้องร่วมรับผิดกับลูกจ้างในการกระทำละเมิดของลูกจ้าง (โดยไม่ต้องคำนึงว่าปล่อยปละละเลยหรือไม่)

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

นายจ้างต้องร่วมรับผิดกับลูกจ้างในการกระทำละเมิดของลูกจ้าง (โดยไม่ต้องคำนึงว่าปล่อยปละละเลยหรือไม่)

  • Defalut Image

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1888/2567

บทความวันที่ 15 ส.ค. 2568, 09:58

มีผู้อ่านทั้งหมด 98 ครั้ง


นายจ้างต้องร่วมรับผิดกับลูกจ้างในการกระทำละเมิดของลูกจ้าง (โดยไม่ต้องคำนึงว่าปล่อยปละละเลยหรือไม่)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1888/2567
            จำเลยที่ 2 กระทำละเมิดต่อโจทก์  แม้ขณะจำเลยที่ 2 ชักชวนโจทก์ให้เป็นลูกค้าของจำเลยที่ 1  จำเลยที่ 2 ยังไม่ได้เป็นพนักงานลูกจ้างของจำเลยที่ 1 และมีการกระทำอันเป็นการละเมิดต่อโจทก์ในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 1 ต่อเนื่องกันตลอดมา  จำเลยที่ 1 ในฐานะนายจ้างจึงต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 2 ในผลแห่งละเมิดนั้นด้วยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 425 กรณีไม่จำต้องพิจารณาว่าจำเลยที่ 1 ปล่อยปละละเลยในการดำเนินงานของจำเลยที่ 2 จนเป็นเหตุให้เกิดการทำละเมิด  หรือมีส่วนร่วมในการกระทำละเมิดต่อโจทก์หรือไม่  เพราะไม่มีผลต่อความรับผิดในฐานะนายจ้างของจำเลยที่ 1 
          โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยทั้งสองคืนหลักทรัพย์(หุ้น) ที่สูญหายไปจากบัญชีหลักทรัพย์ของโจทก์ หากคืนไม่ได้ให้ใช้ราคา  เป็นกรณีที่หากจำเลยทั้งสองไม่ส่งมอบทรัพย์(หุ้น)คืนให้โจทก์  จำเลยทั้งสองต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์เพื่อราคาวัตถุอันไม่อาจส่งมอบได้เพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งอันเกิดขึ้นระหว่างผิดนัด โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้มีสิทธิเรียกดอกเบี้ยในจำนวนเงินที่จะต้องใช้เป็นค่าสินไหมทดแทนได้ตั้งแต่เวลาอันเป็นฐานที่ตั้งแห่งการกะประมาณราคานั้น  ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 225
            เมื่อศาลมีคำพิพากษาให้จำเลยทั้งสองส่งมอบหลักทรัพย์(หุ้น) ที่สูญหายจากบัญชีหลักทรัพย์คืนแก่โจทก์ หากคืนไม่ได้ให้ใช้ราคาแทนเป็นเงินจำนวนเท่าใดแล้ว  วันอ่านคำพิพากษาย่อมเป็นเวลาอันเป็นฐานที่ตั้งแห่งการประมาณราคาใช้แทนให้ โจทก์มีสิทธิเรียกดอกเบี้ยราคาใช้แทนทรัพย์(หุ้น) นับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษาเป็นต้นไป  มิใช่นับแต่วันที่หลักทรัพย์(หุ้น) สูญหายไปจากบัญชีหลักทรัพย์อันเป็นช่วงเวลาก่อนวันที่ศาลมีคำพิพากษากำหนดราคาใช้แทนให้

ปรึกษาข้อกฎหมายสอบถาม 02-948-5700 หรือ 081-616-1425 หรือ 081-625-2161, 081-821-7470

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก