คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4168/2567

บทความวันที่ 17 มิ.ย. 2568, 13:59

มีผู้อ่านทั้งหมด 188 ครั้ง

เจ้าหนี้ขยายระยะเวลาชำระหนี้ให้กับผู้เช่าซื้อ ผู้ค้ำประกันหลุดพ้น
#ขยายระยะเวลา #ผู้ค้ำประกัน #ผู้เช่าซื้อ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4168/2567
           หลังจากที่จำเลยที่ 1 ชำระค่าเช่าซื้องวดที่ 24 ประจำวันที่ 13 เมษายน 2563 โจทก์มีหนังสือฉบับลงวันที่ 1 พฤษภาคม 2563 ผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระหนี้ตามที่กำหนดไว้ในสัญญาเช่าซื้อตั้งแต่งวดเดือนพฤษภาคม 2563 ถึงงวดเดือนกันยายน 2563 รวมจำนวน 5 งวด โดยจำเลยที่ 1 ยังไม่ต้องชำระค่าเช่าซื้อให้แก่โจทก์ จำเลยที่ 1 ต้องชำระค่าเช่าซื้องวดดังกล่าวตั้งแต่งวดเดือนตุลาคม 2563 เป็นต้นไป  และจำเลยที่ 1 ต้องชำระค่าเช่าซื้องวดเดือนสุดท้ายในวันที่ 13 กันยายน 2567 แต่โจทก์ยังคงคิดดอกเบี้ยในระหว่างพักชำระหนี้  เช่นนี้การผ่อนปรนเงื่อนไขตามสัญญาเช่าซื้อโดยการพักชำระหนี้ 5 งวด ของโจทก์ ย่อมมีผลทำให้จำเลยที่ 1 ไม่ต้องชำระค่าเช่าซื้องวดเดือนพฤษภาคม 2563  โดยไม่ถือว่าจำเลยที่ 1 ผิดนัด ซึ่งระหว่างนี้โจทก์ไม่อาจใช้สิทธิฟ้องบังคับตามสัญญาเช่าซื้อได้  ทั้งกำหนดเวลาชำระค่าเช่าซื้องวดสุดท้ายซึ่งเดิมจะครบ 72 งวด ในวันที่ 13 เมษายน 2567 ย่อมถูกขยายออกไปเป็นวันที่ 13 กันยายน 2567  พฤติการณ์ย่อมถือว่าเป็นกรณีที่โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ยอมผ่อนเวลาชำระหนี้ให้แก่จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นลูกหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 700 วรรคหนึ่ง อันเป็นผลทำให้จำเลยที่ 2 ผู้ค้ำประกันต้องรับภาระผูกพันตามสัญญาค้ำประกันยาวนานขึ้นจากที่ระบุไว้ในสัญญา
          มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยแจ้งไปยังสถาบันการเงินตามสำเนาหนังสือธนาคารแห่งประเทศไทย ลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563 และวันที่ 26 มีนาคม 2563 ไม่มีลักษณะเป็นคำสั่งที่บังคับให้สถาบันการเงินต้องปฏิบัติตาม หากแต่เป็นเพียงการขอความร่วมมือจากสถาบันการเงิน การจะพักชำระหนี้ตามมาตรการดังกล่าวหรือไม่ ยังต้องคำนึงถึงเจตนาของคู่สัญญาเป็นสำคัญ และตามสำเนาหนังสือธนาคารแห่งประเทศไทยลงวันที่ 26 มีนาคม 2563 ข้อ 2(3) กำหนดว่าการดำเนินการให้ความช่วยเหลือแก่ลูกหนี้ตามมาตรการนี้  สถาบันการเงินไม่จำเป็นต้องขยายระยะเวลาการชำระหนี้เสร็จสิ้นตามสัญญา  แต่หากมีการขยายระยะเวลาการชำระหนี้เสร็จสิ้นตามสัญญาออกไปแล้วก็ขอให้ถือปฏิบัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่เกี่ยวข้องกับหลักประกันและผู้ค้ำประกัน ดังนั้น หากโจทก์จะให้ความช่วยเหลือจำเลยที่ 1 ผู้เช่าซื้อด้วยการขยายระยะเวลาชำระหนี้เสร็จสิ้นอันเป็นการผ่อนเวลาออกไปก็ต้องอยู่ในบังคับของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 700 กล่าวคือ ต้องให้จำเลยที่ 2 ตกลงด้วยในการผ่อนเวลานั้น  โจทก์เพียงมีหนังสือแจ้งผ่อนเวลานั้น โจทก์เพียงมีหนังสือแจ้งผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระหนี้ด้วยการขยานระยะเวลาชำระหนี้ให้แก่จำเลยที่ 1 โดยไม่ปรากฎว่าจำเลยที่ 2 ได้ตกลงยินยอมด้วยในการขยายระยะเวลาชำระหนี้หรือการผ่อนเวลาตามสัญญาค้ำประกันไป  ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 700 วรรคหนึ่ง
           โจทก์ฎีกาเฉพาะแต่ในปัญหาเรื่องความรับผิดของจำเลยที่ 2 ผู้ค้ำประกัน คดีในชั้นฎีกาเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ ต้องเสียค่าขึ้นศาล 200 บาท  และไม่ต้องเสียค่าขึ้นศาลอนาคต

มีปัญหาข้อกฎหมายสอบถาม 02-948-5700 หรือ 081-616-1425 หรือ 081-625-2161, 081-821-7470