เจ้าของบ้าน รัดคอโจรที่บุกเข้ามาในบ้านจนถึงแก่ความตาย ถูกแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
ทนายคลายทุกข์นำแนวคำพิพากษาเกี่ยวกับกรณีเจ้าของบ้านป้องกันตัวภายในบ้านมาให้ FC ศึกษาดู คำพิพากษาฎีกาที่ 169/2504 และฎีกาที่ 7940/2551 ผู้ครอบครองเคหสถานมีสิทธิ์ป้องกันมิให้ใครเข้ามารุกรานทำร้ายแม้จะมีทางหนีได้แต่หนีไม่ทันก็อ้างป้องกันตัวได้ คดีเจ้าของบ้านฆ่าโจรตาย โดยทั่วไปพนักงานสอบสวนก็จะมีความเห็นควรสั่งฟ้องและอัยการก็จะ ออกคำสั่งฟ้องคดีส่วน เจ้าของบ้านจะอ้างป้องกันก็ไปต่อสู้กันในชั้นศาลถ้าศาลตัดสินว่าเป็นการป้องกันก็ไม่มีความผิดแต่ถ้าไม่ใช่ก็ติดคุก ชีวิตมันก็แค่นั้นแหละ #ทนายคลายทุกข์
คำพิพากษาฎีกาอ้างอิง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 169/2504
ผู้ตายบุกรุกเข้าไปจะทำร้ายจำเลยจนถึงบ้านจำเลยจึงยิงเอาเพราะถ้าไม่ยิงผู้ตายก็จะฟันจำเลยเช่นนี้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการป้องกันชีวิตพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7940/2551
บ้านและบริเวณบ้านของจำเลยถือว่าเป็นเคหสถานที่ประชาชนทั่วไปย่อมเห็นว่าเป็นที่ปลอดภัยไม่ควรถูกบุคคลอื่นรุกล้ำเข้ามากระทำการอันไม่ชอบด้วยกฎหมาย จำเลยไม่จำเป็นต้องหลบหนีและมีสิทธิที่จะป้องกันสิทธิของตนเพราะจำเลยเป็นผู้สุจริตหาต้องถูกบังคับให้ไปเสียจากเคหสถานของจำเลยซึ่งมีสิทธิที่จะอยู่อาศัยและเคลื่อนไหวโดยอิสระ หากจำเลยจำต้องหนีแล้วเสรีภาพของจำเลยก็จะถูกกระทบกระเทือน
ผู้ตายขับรถเข้ามาในบริเวณบ้านของจำเลยเพื่อจะบังคับ ผ. ซึ่งเป็นบุตรสาวของจำเลยและเคยเป็นภริยาของผู้ตายให้ไปอยู่กินด้วยกันเช่นเดิมแล้วเกิดโต้เถียงกันจำเลยพูดจาห้ามปราม ผู้ตายไม่ฟังและได้ลงจากรถพร้อมกับถืออาวุธมีดยาว 12 นิ้ว เดินไปหาจำเลย จำเลยจึงวิ่งขึ้นไปบนบ้านหยิบเอาอาวุธปืนยาวกึ่งอัตโนมัติขนาด .22 ซึ่งเป็นอาวุธปืนที่จำเลยได้รับอนุญาตให้มีและใช้ ทั้งเป็นอาวุธปืนที่ปกติใช้ยิงนกหรือสัตว์ขนาดเล็กและมีแรงปะทะน้อยลงจากบ้าน เพื่อปรามมิให้ผู้ตายทำร้ายจำเลยหรือทำลายทรัพย์สินของจำเลยหรือบังคับให้ ผ. ไปอยู่กับผู้ตาย โดยไม่มีกริยาอาการที่จะยิงทำร้ายผู้ตายซึ่งถูก ผ. โอบกอดไว้ ดังนี้จะถือว่าจำเลยมีเจตนาสมัครใจเข้าทะเลาะวิวาทกับผู้ตายหาได้ไม่ หลังจากนั้นสักครู่ผู้ตายสะบัดตัวหลุดและเดินเข้าหาจำเลยเพื่อทำร้ายจนห่างประมาณ 1 วา โดยมีอาวุธมีดยาวเช่นนี้นับว่าเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึงแล้ว จำเลยย่อมมีสิทธิจะป้องกันเนื่องจากหากปล่อยให้ผู้ตายเข้ามาใกล้กว่านั้น โอกาสที่จะใช้อาวุธปืนยาวยิงเพื่อป้องกันตัวย่อมจะขัดข้อง การที่จำเลยใช้อาวุธดังกล่าวยิงไปที่ผู้ตายไป 1 นัด แต่ผู้ตายยังเดินเข้ามาหาจำเลยอีก จำเลยจึงยิงผู้ตายอีก 2 นัด ติดต่อกันผู้ตายจึงล้มลง นับว่าเป็นการพอสมควรแก่เหตุในภาวะและวิสัยเช่นนั้น แต่หลังจากผู้ตายล้มลงนอนหงายจำเลยยังเดินเข้าไปยิงผู้ตายอีก 2 นัด จึงเป็นการกระทำเกินสมควรแก่เหตุ จำเลยจึงมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ
ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 68 ผู้ใดจำต้องกระทำการใดเพื่อป้องกันสิทธิของตนหรือของผู้อื่นให้พ้นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย และเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง ถ้าได้กระทำพอสมควรแก่เหตุ การกระทำนั้นเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย ผู้นั้นไม่มีความผิด
มาตรา 290 ผู้ใดมิได้มีเจตนาฆ่า แต่ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี
มีข้อสงสัย ปรึกษากฎหมายกับทีมงานทนายความทนายคลายทุกข์ โทร.02-9485700