กู้เงินปลูกสร้างจากแบงค์อนุมัติมาเรียบร้อยแล้ว

บทความวันที่ 11 ม.ค. 2555, 00:00

มีผู้อ่านทั้งหมด 10914 ครั้ง

การลดวงเงินกู้หลังจากที่ทำการเซ็นต์สัญญาและจำนองที่ดินแล้ว


          กู้เงินปลูกสร้างจากธอส.แบงค์อนุมัติมาเรียบร้อยแล้ว มีการเซ็นต์สัญญาจำนองที่ดินและเบิกเงินมาสองงวดแล้ว และได้สร้างไปแล้ว  จนถึงขั้นตอนจะขึ้นโครงสร้างหลังคาแล้ว  แต่อยู่ๆ บ.ประเมินมาบอกว่าธนาคารจะลดวงเงินจากที่อนุมัติเดิมลงอีก 20% ด้วยเหตุผลที่ว่าที่ดินที่สร้างบ้านมันอยู่เกินระยะไฟฟ้า ประปาเข้าถึง  แต่ไม่เข้าใจว่า ถ้าเป็นในกรณีนี้วงเงินควรจะโดนลดมาตั้งแต่ก่อนอนุมัติการปล่อยกู้  ทำไมปล่อยให้ทำจนโครงสร้างจะเสร็จแล้ว  ถึงมาบอกว่าจะลดวงเงิน
          ทั้งที่ตอนอนุมัติเงินและเซ็นสัญญาเรียบร้อย  ไม่ได้มีการแจ้งว่าวงเงินจะถูกลดลงแต่อย่างใด  ทำมาจนโครงสร้างจะเสร็จแล้ว ธนาคารจึงมาแจ้งว่า  จะลดวงเงินเนื่องจากไฟฟ้าประปาเข้าไม่ถึง  ได้ทำการสอบถามกลับไปกับสำนักงานใหญ่ว่า ถ้าเป็นตามนั้นจริง ทำไมตอนที่ประเมินครั้งแรกก่อนอนุมัติเงินมา  ไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้เลย  ก่อนหน้านี้เคยมีปัญหามารอบนึงกับเรื่องแบบบ้านคือ มีแบบบ้านสองอัน อันนึงเป็นหลังใหญ่ อีกอันเป็นหลังเล็ก  บ้านที่เราต้องการสร้างเป็นหลังเล็กเนื่องจากแบบหลังใหญ่ขอหนังสืออนุญาติจากเขตไม่ผ่านค่ะ
          ทีนี้ตอนส่งเอกสารได้ส่งแบบบ้านเข้าไปทั้งสองตัวเลย  เข้าใจว่าตอนส่งเอกสาร อาจจะเป็นที่ข้าพเจ้าไม่ก็พี่ชายส่งแบบบ้านหลังใหญ่ติดเข้าไปด้วย  ธนาคารเอาแบบหลังใหญ่ไปตีราคา อนุมัติเงินกู้ออกมา  พอมีการมาประเมินเพื่อเบิกเงินงวด ได้รับแจ้งว่าบ้านผิดแบบ บ.ประเมินบอกว่าบ้านหลังเล็กลงอาจจะโดนลดวงเงิน  แต่พอเข้าไปคุยกับธ. ทางนั้นเอาเอกสารมาเช็คดูพบว่า ทางธ. ได้รับแบบบ้านทั้งสองตัวค่ะ  แต่มีการเซ็นต์รับรองสำเนาถูกต้องเฉพาะในแบบหลังเล็ก(แบบที่ใช้สร้างและได้หนังสือรับอนุญาติจากเขตเรียบร้อยแล้ว) เลยไม่แน่ใจว่า ที่อ้างแบบนี้ มันเกี่ยวเนื่องกับปัญหาแบบบ้านในตอนแรก เลยพยายามหาเรื่องลดวงเงินทีหลังรึป่าว
         

คำแนะนำสำนักงานทนายความ ทนายคลายทุกข์
          หากการกระทำของธนาคารซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจเป็นเหตุให้ท่านได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหาย  อันเนื่องมาจากการกระทำของธนาคารนั้น  ชอบที่ท่านในฐานะผู้บริโภคที่จะยื่นเรื่องราวร้องทุกข์ต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคทำการตรวจสอบและสอบสวนข้อเท็จจริงแก่ธนาคารตามกฎหมายต่อไป ตามมาตรา  20 (1)  แห่ง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522  ได้