ที่ดิน สปก.ผู้มีสิทธิใช้ไม่มีสิทธิขายต่อหรือให้เช่าได้|ที่ดิน สปก.ผู้มีสิทธิใช้ไม่มีสิทธิขายต่อหรือให้เช่าได้

ที่ดิน สปก.ผู้มีสิทธิใช้ไม่มีสิทธิขายต่อหรือให้เช่าได้

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

ที่ดิน สปก.ผู้มีสิทธิใช้ไม่มีสิทธิขายต่อหรือให้เช่าได้

  • Defalut Image

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1943/2564

บทความวันที่ 5 ม.ค. 2566, 09:17

มีผู้อ่านทั้งหมด 1602 ครั้ง


ที่ดิน สปก.ผู้มีสิทธิใช้ไม่มีสิทธิขายต่อหรือให้เช่าได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1943/2564
               การที่ทางราชการออกหนังสืออนุญาตให้ ป. เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน ย่อมแสดงว่าที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นที่ดินที่อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม  ตาม พ.ร.บ. การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2518  ซึ่ง ป. มีสิทธิเพียงใช้ประโยชน์ในที่ดินดังกล่าวเท่านั้น ป. จะทำการแบ่งแยกหรือโอนสิทธิในที่ดินนั้นไปยังบุคคลอื่นไม่ได้ ต้องห้ามตาม พ.ร.บ.การปฏิรูปที่ดินฯ มาตรา 39  แม้ ป. จะทำหนังสือแสดงเจตนาสละสิทธิการเข้าทำประโยชน์ก็มีผลเพียงให้ที่ดินแปลงดังกล่าวกลับคืนไปให้แก่สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเพื่อนำไปจัดสรรให้แก่เกษตรกรรายอื่นต่อไป  ซึ่งพ.ร.บ.การปฏิรูปที่ดินฯ มาตรา 19(7) บัญญัติให้คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมมีอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบในการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการคัดเลือกเกษตรกรและสถาบันเกษตรกร  ซึ่งจะมีสิทธิได้รับที่ดินจากการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม  เมื่อไม่ปรากฎว่าสำนักงานสงฆ์ ท. ได้รับการพิจารณาและอนุมัติจากคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมให้เข้าอยู่ในที่ดินดังกล่าว  อีกทั้งไม่ได้ความว่าสำนักสงฆ์  ท. ได้สร้างขึ้นเป็นสำนักงานสงฆ์ถูกต้องตามวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวงตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505  ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ (ฉบับที่ 2)   พ.ศ.2535  มาตรา 31(2)  ประกอบมาตรา 32  วรรคหนึ่ง อันจะมีสภาพเป็นนิติบุคคลสามารถถือครองทรัพย์สินได้ สำนักสงฆ์ ท.ย่อมไม่ใช่ผู้มีสิทธิใช้ประโยชน์ในที่ดินหรือเข้าถือครองที่ดินแปลงดังกล่าวได้และในกรณีเช่นนี้ถือว่าที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นกรรมสิทธิ์ของสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมตาม พ.ร.บ. การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2518  มาตรา 36ทวิ
             ต้นปาล์มน้ำมันเป็นไม้ยืนต้นย่อมตกเป็นส่วนควบของที่ดินและย่อมตกเป็นกรรมสิทธิ์ของสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมตามกฎหมาย  คณะกรรมการหมู่บ้านเพื่อเกษตรกรรมตามกฎหมาย คณะกรรมการหมู่บ้านที่ดูแลสวนปาล์มน้ำมันก็ดี  หรือแม้แต่วัด ก. ที่ทำหน้าที่ดูแลสำนักสงฆ์ ท. ก็ดี  ไม่อาจอ้างสิทธิในการเป็นเจ้าของตามต้นปาล์มน้ำมันในที่ดินแปลงดังกล่าวได้  การที่จำเลยว่าจ้างให้คนเข้าไปตัดผลปาล์มน้ำมันในที่ดินแปลงดังกล่าว  จึงเป็นการลักเอาไปซึ่งทรัพย์สินของสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม  แม้ข้อเท็จจริงนี้จะแตกต่างจากที่โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยลักเอาผลปาล์มน้ำมันของสำนักสงฆ์ ท. ไป ก็เป็นเพียงรายละเอียด มิใช่เป็นข้อแตกต่างในข้อสาระสำคัญ  ศาลจึงพิจารณาตามข้อเท็จจริงที่ได้ความได้ ตาม ป.วิ.อ.มาตรา 192 วรรคสอง
              จำเลยทำสัญญาเช่าที่ดินจากวัด ก. จริง ฉะนั้น  การที่จำเลยว่าจ้างคนให้เข้าไปตัดผลปาล์มน้ำมัน  ย่อมเป็นการกระทำที่จำเลยเข้าใจว่าตนมีสิทธิเข้าไปเก็บผลปาล์มในทรัพย์สินที่เช่าได้  ถือไม่ได้ว่าจำเลยกระทำไปโดยมีเจตนาทุจริตที่จะลักผลปาล์มน้ำมันของสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม  การกระทำของจำเลยจึงไม่มีความผิดฐานลักทรัพย์ตามฟ้อง

#ทนายคลายทุกข์ #ที่ดินสปก. #สำนักงานปฏิรูปที่ดิน
#ปรึกษาคดี โทร.02-9485700, 081-6161425, 081-8217470, 081-6252161 

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก