นิติบุคคล/ผู้ถือหุ้น/สินสมรส
บริษัทที่คู่สมรส ถือหุ้นอยู่มีบุคคลภายนอกเป็นกรรมการมีฐานะเป็นนิติบุคคลแยกต่างหากจากบุคคลอื่นและผู้ถือหุ้น ดังนั้น กิจการของบริษัทรวมทั้งทรัพย์สินของบริษัท จึงมิใช่สินสมรสที่คู่สมรสจะมาฟ้องแบ่งกันได้ อ้างอิงคำพิพากษาฎีกาที่ 2854/2561
คำพิพากษาฎีกาที่ 2854/2561
คดีก่อนโจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาให้โจทก์และจำเลยหย่ากันและแบ่งสินสมรส ประเด็นในคดีก่อนมีว่า มีเหตุหย่าหรือไม่ หากศาลพิพากษาให้หย่าจึงจะมีการแบ่งสินสมรสกันว่ามีทรัพย์สินใดที่เป็นสินสมรส เมื่อศาลพิพากษายกฟ้องเนื่องจากไม่มีเหตุหย่า จึงไม่ได้วินิจฉัยว่าทรัพย์สินใดเป็นสินสมรสที่จะต้องแบ่ง คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้แยกสินสมรสและให้จำเลยชำระค่าอุปการะเลี้ยงดู ประเด็นแห่งคดีมีว่า มีเหตุให้แยกสินสมรสหรือไม่ และจำเลยต้องชำระค่าอุปการะเลี้ยงดูหรือไม่ และสินสมรสที่ต้องแยกได้แก่ทรัพย์สินใดประเด็นแห่งคดีนี้และประเด็นแห่งคดีก่อนต่างกัน แม้ทรัพย์สินที่อ้างตามฟ้องคดีนี้จะเป็นทรัพย์สินตามฟ้องกับคดีก่อน แต่คดีก่อนยังไม่ได้วินิจฉัยว่า ทรัพย์สินใดเป็นสินสมรสที่ต้องแบ่ง ดังนี้ ถือไม่ได้ว่าฟ้องโจทก์คดีนี้เกี่ยวกับสินสมรสเป็นประเด็นที่วินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกันกับคดีก่อน ฟ้องโจทก์คดีนี้ไม่เป็นฟ้องซ้ำหรือดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำกับคดีก่อน
บริษัทมีฐานะเป็นนิติบุคคลแยกต่างจากบุคคลอื่นและผู้ถือหุ้นมีสิทธิและหน้าที่ต่างๆ เป็นของตนเอง การดำเนินกิจการต่างๆ เป็นอำนาจหน้าที่ของกรรมการบริษัทภายในขอบอำนาจหน้าที่หรือวัตถุประสงค์ตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมาย ข้อบังคับจัดตั้ง ดังนั้น กิจการของบริษัทรวมทั้งทรัพย์สินของบริษัท ซึ่งมีโรงงานผลิตเส้นหมี่และใบห่อเกี๊ยวรวมอยู่ด้วย มิใช่สินสมรสที่โจทก์จะฟ้องขอให้นำมาแบ่งแก่โจทก์ แต่เป็นของบริษัทภายใต้การดำเนินกิจการของกรรมการบริษัท หากจะเกิดความเสียหรือเกิดความหายนะ ก็เป็นเรื่องที่กรรมการบริษัทจะรับผิดชอบต่อผู้ถือหุ้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1169
เงินค่าอุปการะเลี้ยงดูตามที่โจทก์ฟ้องเป็นของบริษัทที่ อ.ต้องนำรายได้ของบริษัทมาจ่ายให้แก่โจทก์และจำเลยเมื่อมีกำไร มิใช่ค่าอุปการะเลี้ยงดูที่คู่สมรสต้องอุปการะเลี้ยงดูแก่กัน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1461 วรรคสอง อันจะถือเป็นเหตุให้แยกสินสมรสระหว่างโจทก์กับจำเลยซึ่งเป็นสามีภริยากัน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1484(2) ไม่ ทั้งบริษัทถูกสรรพากรฟ้องต่อศาลล้มละลายกลางให้พิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดและพิพากษาให้ล้มละลายแล้ว เป็นข้อบ่งชี้ว่าบริษัทมีหนี้สินล้นพ้นตัวไม่มีรายได้ที่จะนำมาชำระค่าเลี้ยงดูโจทก์และจำเลยตามที่ตกลงกันได้ ทั้งจำเลยมีหนี้สินจำนวนมาก ดังนี้ จะถือว่าจำเลยผิดข้อตกลงหาได้ไม่ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
โจทก์ฟ้องขอบังคับให้แยกสินสมรสและเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูเป็นคดีปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้สำหรับคำขอให้แยกสินสมรสซึ่งต้องชำระค่าขึ้นศาลในแต่ละชั้นศาลเพียง 200 บาท และเป็นคดีปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ในส่วนคำขอให้ชำระค่าอุปการะเลี้ยงดู แต่คดีนี้เป็นคดีครอบครัวซึ่งพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2553 มาตรา 155 บัญญัติให้รับยกเว้นไม่ต้องชำระค่าขึ้นศาลและค่าฤชาธรรมเนียม จำเลยให้การในส่วนสินสมรสที่โจทก์ขอแยกว่า กิจการของบริษัททั้งสองแห่งไม่ใช่สินสมรสแต่เป็นของบริษัททั้งสองแห่งไม่ถือว่าเป็นการโต้แย้งกรรมสิทธิ์ ไม่ต้องเสียค่าขึ้นศาลอย่างคดีมีทุนทรัพย์