งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ
ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ
สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ
รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ
บุตรถูกบิดา-มารดาไล่ออกจากบ้าน เรียกร้องอะไรได้หรือไม่
เนื่องจากผู้เป็นพ่อให้บุตรเลือกว่าจะอยู่กับพ่อแม่ หรืออยู่กับคนรัก ถ้าเลือกพ่อแม่ก็จะต้องไม่ยุ่งเกี่ยวกับคนรักอีก แต่ถ้าเลือกอยู่กับคนรักจะต้องออกจากบ้านไป ก่อนหน้านี้พ่อแม่เคยทำร้ายร่างกายบุตรแล้วจะไม่ยอมให้เรียนต่ออีก ผู้เป็นพ่อเคยโทรมาขู่คนรักของลูก ว่าถ้ายังยุ่งเกี่ยวจะมาเอาชีวิต รวมถึงฝั่งพ่อมีปืนที่ยืมมาจากลุง แต่ว่าพ่อนั้นไม่มีใบอนุญาติการพกอาวุธ บุตที่โดนไล่ออกจากบ้านอายุ 18 ปี ย่าง 19 ปี ถ้าหากเป็นเช่นนี้บุตรมีสิทธเรียกร้องค่าเลี้ยงดูได้หรือไม่ หรือมีสิทธตามกฏหมายอะไรได้บ้าง แล้วมีเงื่อนไขอะไรบ้าง
คำแนะนำสำนักงานทนายความ ทนายคลายทุกข์
บุตรอายุ 18 ปี ย่อมเป็นผู้เยาว์ ต้องอยู่ภายใต้อำนาจปกครอง ย่อมมีสิทธิตามกฎหมายที่จะกำหนดที่อยู่ของบุตร ทำโทษบุตรตามสมควรเพื่อว่ากล่าวสั่งสอน รวมตลอดทั้งเรียกบุตรคืนจากบุคคลอื่น ซึ่งกักบุตรไว้โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ตาม ป.พ.พ.มาตรา 1566,1567 ดังนั้น แม้ตามกฎหมายบิดามารดามีหน้าที่ต้องอุปการะเลี้ยงดูบุตรและให้การศึกษาตามสมควรแก่บุตร ในระหว่างที่เป็นผู้เยาว์ ตาม ป.พ.พ.มาตรา 1564 ก็ตาม แต่การที่บุตรไม่ยอมเชื่อฟังความห่วงใยหวังดีของบิดามารดาผู้ใช้อำนาจปกครอง กลับเลือกที่จะอยู่กับคนที่รักโดยการหนีตามกันไป ซึ่งไม่อาจคาดรู้ได้อย่างแน่แท้ว่าคนรักจะรักกันจริงมากกว่าบิดามารดาตนหรือไม่ การที่บิดามารดาไล่บุตรออกจากบ้านและไม่อุปการะเลี้ยงดูบุตรอีก ย่อมเป็นการที่ผู้ใช้อำนาจปกครองกระทำโทษแก่บุตรตามสมควร เพื่อเจตนาว่ากล่าวสั่งสอน อันเป็นสิทธิของผู้ใช้อำนาจปกครองโดยชอบด้วยกฎหมาย บุตรไม่อาจร้องเอาค่าเลี้ยงดูใด ๆ จากผู้ใช้อำนาจปกครองจนกว่าจะสำนักงานผิดแห่งการกระทำของตน