ความคิดเห็นที่ 3

สิทธิการครอบครองที่ดิน

 แนวคำพิพากษาของศาลฎีกา จะถือการครอบครองที่ดิน มีความสำคัญกว่าเอกสารสิทธิ์ (โฉนดที่ดินหรือ นส.3) คุณหลงทางมาแต่แรก ที่ไป ฟ้องศาล ขอ นส.3 ก. คืน  แต่ไม่สนใจการเข้าไปครอบครองที่ดิน  จึงไม่ใช่การอ้างสิทธิครอบครอง  เมื่อมีการแย่งการครอบครองเกินหนึ่งปี คุณย่อมเสียเปรียบ...กระดาษแผ่นเดียว(นส.3) ไม่สำคัญเท่ากับการถือครองที่ดิน และทำประโยชน์.... ฎีกาที่คุณพยายามยกมานั้น  ใช้ในกรณีฟ้องอ้างกรรมสิทธิ์ โดยการครองปรปักษ์  ซึ่งต้องมีการแย่งการครอบครองเกิน 10 ปี...    แต่กรณีของคุณไม่ใช่เรื่องการครอบครองปรปักษ์  แต่เป็นการแย่งสิทธิครอบครอง  ซึ่งมีอายุความเพียงปีเดียว...   การจะอ้างสิทธิโดยการครองปรปักษ์ได้ ที่ดินต้องมีเอกสาสิทธิ์ เป็นโฉนดที่่ดินเท่านั้น ซึ่งเป็นคนละกรณีกับของคุณ ครับ

โดยคุณ มโนธรรม เจษฎาสาธุชน 30 ก.ค. 2560, 03:38

ความคิดเห็นที่ 2

การถูกแย่งการครอบครอง

  ก็เป็นความผิดพลาดมาแต่แรก  ที่ไปฟ้องขอเอกสารคืนอย่างเดียว  ทำไมไม่ฟ้องขับไล่ และขอเอกสารคืน ไปพร้อมกัน... แม้ศาลจะให้จำเลยคืนเอกสาร  แต่ในเมื่อจำเลย  อ้างว่าแย่งการครอบครองมาเกินหนึ่ง ปี  ถ้าคุณมีการฟ้องขับไล่  จำเลยก็คงยก ปพพ. ม.1375 ขึ้นต่อสู้   เพราะ เป็นอำนาจฟ้อง ไม่ใช่อายุความ แม้จำเลยไม่ยกขึ้นต่อสู้ ศาลก็ยกขึ้นมาได้เอง  ตาม ฎีกา 162/2536...ก็ใช้วิธีฟ้องขับไล่ไว้ก่อน  ในชั้นการเจรจาไกล่เกลี่ย  อาจมีช่องทางเจรจาและได้ที่ดินคืน  โดยยอมจ่ายเงินแก่จำเลยตามสมควร  แต่ถ้าจำเลยรู้เท่าทันว่า ตนได้เปรียบในข้อกฎหมาย ที่คุณไม่โต้แย้งการแย่งการครอบครองเกินหนึ่งปี  ไม่ยอมเจรจาด้วย และให้ศาลพิจารณาและพิพากษาไปตามรูปคดี  คุณย่อมเสียเปรียบ ครับ

โดยคุณ มโนธรรม เจษฎาสาธุชน 29 ก.ค. 2560, 05:12

ความคิดเห็นที่ 1

จะทำยังไงดีคับในเมื่อจำเลยไม่ยอมคืนเอกสาร ผมไม่สามารถที่จะไปออกเป็นโฉนดหรือแม้กระทั่งดูบริเวณพื้นที่ดิน(เนื่องจากเป็นมรดก) สุดท้ายจำเลยก้อมาแย่งสิทธิ์การครอบครอง

โดยคุณ กัมปนาท 28 ก.ค. 2560, 20:40