ความคิดเห็นที่ 3

ตอบกลับ

ขอบพระคุณอย่างสูงนะคะที่กรุณาตอบ

ส่วน  " ในฐานะผู้เช่าซื้อสามารถติดตามนำรถมาไว้ในครอบครองของคุณได้เสมอ ขอความร่วมมือกับตำรวจและไฟแนนซ์ เพื่อไปยึดรถที่คุณเช่าซื้อคืนมาได้.....เรื่องนี้คุณต้องเข้มแข็งเด็ดเดี่ยว หย่าเป็นหย่า ไม่ยอมประนีประนอมใดๆทั้งสิ้น แต่ถ้ายังห่วงหน้าพะวงหลัง แบบตัดไม่ตาย ขายไม่ขาด คุณย่อมเป็นเบี้ยล่างให้เขาย่ำยีต่อไปครับ "

 ถามนะคะ  ว่าถ้าดิฉันไม่ได้ออกเงินดาวน์รถ และไม่ได้จ่ายค่างวดรถ แต่เป็นเงินของสามี เค้ามาอาศัยชื่อดิฉันในการเช่าซื้อค่ะ ไม่ได้ยินยอม แต่ด้วยความที่เค้าเป้นสามี  เลยต้องจำใจอย่างมาก แต่พอทำก็รู้ว่าโดนหลอกใช้ เพราะผู้ชายขึ้นบัญชีดำเรื่องการเงินเลยค่ะ  ดิฉันไม่อยากได้รถ แต่อยากเป็นอิสระจากพันธะสัญญาเรื่องรถ โดยที่เค้าเป็นผู้ค้ำอยู่ค่ะ มีวิธีการไหนมั๊ยค่ะที่จะสามารถทำได้ ตอนนี้เหมือนคนโง่มาก ทนทุกข์ทรมาน กับการที่เค้าเอารถไปใช้แบบลอยหน้าลอยตา

โดยคุณ พลอยแดง 5 เม.ย. 2555, 14:43

ความคิดเห็นที่ 2

ตอบกลับ

1. พฤติการณ์ที่สามีอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่องภรรยาเดิมเป็นภรรยาอีกคนหนึ่งทั้งสามีทำร้ายหรือทรมานจิตใจท่านเป็นการร้ายแรง และไม่ให้ความช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูท่าน ซึ่งเป็นภริยาตามกฎหมายตามสมควร ล้วนแต่เป็นเหตุฟ้องหย่าตามกฎหมายที่ท่านสามารถนำมาอ้างเป็นเหตุฟ้องหย่าสามีและเรียกค่าเลี้ยงชีพได้ ตาม ป.พ.พ.มาตรา 1516(1)(3)ฉ และ (6) , 15126
2. การที่สามีจดทะเบียนสมรสกับท่านในขณะที่ท่านและสามีไม่มีคู่สมรสอยู่ก่อน ย่อมเป็นการสมรสที่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ฝ่าฝืนบทบัญญัติตาม ป.พ.พ.มาตรา 1552 ไม่ตกเป็นโมฆะ แม้ว่าสามีจะแจ้งระยะเวลาจะแจ้งระยะเวลาการสิ้นสุดการสมรสระหว่างสามีและภรรยาเดิมด้วยการหย่าผิดเวลาที่แท้จริงไปก็ตาม ย่อมเป็นดุลพินิจของท่านเองในอันที่จะตรวจสอบได้หากได้มีความสงสัย การกระทำของสามียังไม่ถือเป็นการหลอกลวงให้ท่านได้รับความเสียหาย
3. ข้อสงสัยประการอื่นให้ท่านปรึกษาทางโทรศัพท์กับทีมงานทนายคลายทุกข์ 02-9485700

โดยคุณ ทีมงานทนายคลายทุกข์ (สมาชิก) 3 เม.ย. 2555, 16:25

ความคิดเห็นที่ 1

ตอบกลับ

 1. ดิฉันจะสามารถฟ้องหย่าเพื่อเรียกร้องค่าทดแทนเลี้ยงดูได้มั๊ยคะ

ตอบ....ถ้าสามารถพิสูจน์ได้ว่า   เขาหย่าโดยมีเจตนาลวง คือไม่มีเจตนาจะหย่ากับภรรยา  ก็ฟ้องหย่าได้ครับ

2. ดิฉันจะสามารถฟ้องในข้อหาหลอกลวงให้จดทะเบียนได้มั๊ยคะ

ตอบ.....นายทะเบียนเขาก็บอกความจริง  ทำไมคุณไม่เชื่อครับ

3. ดิฉันจะสามารถฟ้องฝ่ายชายและภรรยาเก่าในข้อหาสมรู้ร่วมคิดในการแก้ปัญหา หนี้สินของเค้า โดยการแต่งงานใหม่เพื่อทำนิติกรรมทางการเงินและอื่นๆได้หรือไม่คะ

ตอบ....ก็ฟ้องได้   แต่โอกาสชนะมีน้อยครับ

4.ดิฉันสามารถฟ้องภรรยาเก่าในข้อหาคุกคามและทำร้ายต่อจิตใจ ได้มั๊ยคะ

ตอบ....ถ้ามีพยานหลักฐานชัดเจนว่าถูกคุกคาม  ก็แจ้งความดำเนินคดีได้ครับ

5.ดิฉัน สามารถฟ้องหย่าในข้อหา ไม่ยกย่องเลี้ยงดูฉันท์ภรรยา และให้การยกย่องเลี้ยงดูผู้หญิงอื่นมากกว่าภรรยา เข้าข่ายพฤติกรรมการมีชู้ในทางปฏิบัติในขณะสมรสกับดิฉันอยู่

ตอบ.....เป็นเพียงเหตุที่ใช้ฟ้องหย่า  และเรียกค่าทดแทนได้   แต่....ในทางปฏิบัติ   คุณอาจเสียเวลาเปล่าครับ

6. ใช้คำพูดที่ไม่รักษาน้ำใจ ด่าทอ ดูหมิ่น ประจาญต่อหน้าสาธารณชนทำให้เกิดความอับอายอย่างมาก ได้มั๊ยคะ

ตอบ.....ก็ใช้เป็นเหตุฟ้องหย่าได้ ครับ
ตอน นี้อยู่กับความทรมานที่ทำไมดิฉันต้องมาต่อสู้ในการใช้ชีวิตอยู่เพื่อให้ได้ ใช้ชีวิตครอบครัวกับเค้า แต่เค้ากลับไปใช้กับคนอื่น รถก็ไปใช้กับครอบครัวอื่น แต่เป็นชื่อดิฉันเค้าทำได้ยังไง กรรม! เงิินที่มีอยู่ก้ใช้กับเค้าจนหมด พอเงินหมดก็พูดกับดิฉันได้แย่มากๆๆ

ตอบ......คุณในฐานะผู้เช่าซื้อสามารถติดตามนำรถมาไว้ในครอบครองของคุณได้เสมอ  ขอความร่วมมือกับตำรวจและไฟแนนซ์ เพื่อไปยึดรถที่คุณเช่าซื้อคืนมาได้.....เรื่องนี้คุณต้องเข้มแข็งเด็ดเดี่ยว  หย่าเป็นหย่า   ไม่ยอมประนีประนอมใดๆทั้งสิ้น    แต่ถ้ายังห่วงหน้าพะวงหลัง  แบบตัดไม่ตาย  ขายไม่ขาด   คุณย่อมเป็นเบี้ยล่างให้เขาย่ำยีต่อไปครับ

โดยคุณ มโนธรรม เจษฎาสาธุชน (สมาชิก) 2 เม.ย. 2555, 19:56