WebBoard :กฎหมาย|ซื้อรถมือสองมาไม่ถึงเดือน รถมีปัญหา ไม่อยากใช้ต่อต้องทำยังไง (ยังไม่ได้ส่งค่างวดเลย เพราะยังไม่ครบกำหนด)

ซื้อรถมือสองมาไม่ถึงเดือน รถมีปัญหา ไม่อยากใช้ต่อต้องทำยังไง (ยังไม่ได้ส่งค่างวดเลย เพราะยังไม่ครบกำหนด)

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

ซื้อรถมือสองมาไม่ถึงเดือน รถมีปัญหา ไม่อยากใช้ต่อต้องทำยังไง (ยังไม่ได้ส่งค่างวดเลย เพราะยังไม่ครบกำหนด)

  • 1646
  • 2
  • post on 24 ก.พ. 2556, 13:46

 

ดิฉัน ได้ทำการซื้อขายกับเต้นท์รถ เอ ที คาร์เซลล์1(แยกแคราย) รถ Toyota Camry ปี 2008 ในราคา780,000 บาท โดยที่ ดาวน์ 30,000 ฟรีประกันชั้น 1 โดยที่ทางเต้นท์ไม่ยินยอมให้ลองขับ แต่แจ้งว่ารับประกันว่ารถไม่มีชนหนัก ถ้ามีรับคืน และจะดูแลถ้ารถมีปัญหาเพราะมีช่างประจำอู่ ดิฉันเองก็เข้าไปศึกษาข้อมูลของทางเต้นท์เบื้องต้น โดยทางเต้นท์จะรับประกันตัวเครื่องและเกียร์ 1 ปีสำหรับรถตั้งแต่ปี 2008 ขึ้นไป 
 
16/2/13 รับรถตอนหัวค่ำ
17/2/13 รถมีอาการไหลทางซ้าย (โทรแจ้งกับทางเต้นท์ เจ้าหน้าที่บอกว่าน่าจะเกิดจากการที่จอดรถไว้นานยางรถเลยอาจจะมีผลทำให้เกิดอาการใช้ไปสักพักจะหายไปเอง)
18/2/13 เอารถไปตั้งศูนย์ ถ่วงล้อ แถวรัชดา
19-20/13 ไม่ได้ใช้รถจอดไว้เฉย
21/2/13 ขับรถไปทำงาน ถนนร่มเกล้าแล้วจอดไว้ ขับกลับตอนเย็น
22/2/13 รถมีความร้อนขึ้น เลยจอดรถ พร้อมกับทิ้งรถให้เครื่องเย็น แล้วเติมน้ำในหม้อพักรถ โทรแจ้งกับทางเต้นท์ (คุณแอน+เซล) ว่าจะทำยังไงเมื่อรถมีอาการแบบนี้เพราะซื้อรถมาแค่ ไม่กี่วัน ทางเต้นท์เลยให้ขับรถไปหาอู่แถวนั้นให้เช็ค ทางอู่แจ้งว่าปะเก็นรถน่าจะโกง ดิฉันเลยโทรแจ้งกับคุณแอนว่าจะให้ทำยังไง ทางเต้นท์ส่งเจ้าหน้าที่มาดูรถที่ทำงาน ร่มเกล้า โดยที่มีการเปลี่ยนฝาหม้อน้ำอย่างเดี่ยว อาการความร้อนก็ลดลง 
24/2/13 เอารถเข้าไปที่เต้นท์เพื่อเช็คอาการไหลซ้าย ช่างจัดการให้(ครั้งที่1) เช็คอาการหม้อน้ำพักที่หาย ช่างไม่พบรอยน้ำรั่ว พบคราบสนิมที่ท่อ คิดว่าน่าจะเกิดจากตรงนี้ ช่างทำอะไรสักอย่างแล้วลองให้ขับรถไปก่อนเพื่อดูอาการ
24/2 - 1/3 ต้องมีการเติมหม้อน้ำพักเฉลี่ย 2 วันครั้ง ดิฉันได้แจ้งกับทางช่าง ช่างให้เอารถเข้าไปที่เต้นท์เพื่อเช็คอีกครั้ง
3/2/13 เอารถไปเข้าที่เต้นท์ ช่างเช็คแล้วแก้อาการไหลซ้าย (ครั้งที่ 2) โดยทางช่างตั้งให้กินไปทางขวานิดหน่อย ส่วนอาการของน้ำหม้อน้ำไม่ได้แก้ไข แต่ทางช่างแจ้งให้ไปเช็คกับอู่ที่ทำหม้อน้ำอีกครั้งนึง
13/2/13 เอารถไปเช็คกับอู่หม้อน้ำแถวสนามบินน้ำ ครั้งที่ 1 ช่างบอกว่าไม่มีคราบน้ำ แต่ต้องใช้เวลาในการเช็คอีกครั้งลองให้กลับไปใช้ก่อน 
16/2/13 เข้าไปอู่หม้อน้ำเช็คครั้งที่ 2 ช่างพบสาเหตุแถวลูกยาง(ไม่แน่ใจ) คอยล์ID ต้องทิ้งรถไว้ให้ทำเพราะต้องใช้เวลานาน เลยตัดสินใจโทรหาช่าง(มะเหมี่ยว) ว่าจะให้ทำยังไง ช่างเหมี่ยว ให้เอารถมาให้ที่เต้นท์เค้าจะจัดการเอง ดิฉันต้องจ่ายค่าแรงช่างอู่หม้อน้ำไปเอง 400 บาท
17/2/13 เอารถไปจอดที่เต้นท์ โดยที่ช่างเหมี่ยวบอกว่าจะดูให้
18/2/13 ทางเต้นท์โทรให้เข้าไปรับรถก่อนเนื่องจาก ช่างเหมี่ยวไม่สามารถทำให้ได้(เย็บมือ) ดิฉันเข้าไปรับรถตอนเย็นโดยที่เจ้าของเต้นท์ แจ้งกับคุณแอนว่าให้บอกเราว่าไปซ่อมมาแล้วเอาบิลมาเบิก
23/2/13 เอารถไปจอดที่อู่ทำหม้อน้ำช่วงเช้า 9.30 เราต้องไปทำงานแถวพระราม9 ประมาณ 11 ทางช่างโทรกับมาให้เข้าไปที่อู่เพื่อดูว่าจะเปิดเครื่อง ดิฉันโทรกับเข้าไปที่เต้นท์ เพื่อต้องการให้เข้าไปเพราะว่สถ้าเกิดปัญหาอะไรจะได้รับทราบเพราะมันต้องมีค่าใช้จ่าย ช่างเหมี่ยวไม่สามารถเข้าไปได้เนื่องจากติดลูกค้า ระหว่างนี้ได้โทรเข้าไปทางธนาคารที่จัดไฟแนท์ เจ้าหน้าที่แจ้งว่าให้ติดต่อกับทางเต้นท์เพื่อหาทางแก้ไขเพราะว่าทางเต้นท์ต้องดูแลในกรณีนี้ให้ หลังจากเสร็จงานแวะเข้าไปที่เต้นท์ว่าจะแก้ปัญหายังไงได้เนื่องจากเราซื้อรถมาไม่นานและมีปัญหาตั้งแต่อาทิตย์แรกเราต้องการที่จะยกเลิกหรือว่าเปลี่ยนสัญญาแต่ทางคุณแอนไม่สามารถแก้ไขให้ได้เนื่องจากเอกสารทางแบงค์เกิดขึ้นหมดแล้ว(ต้องยอมรับสภาพ) และให้กลับไปที่อู่เพื่อเอารถไปให้เต้นท์ซ่อมเอง โดยที่เราต้องจ่ายค่าแรงที่อู่เอง(ไม่รับผิดชอบ)พอข้าไปดูรถ(จะเป็นลม) อู่บอกว่ามีคราบน้ำในเครื่อง เรากลับมาที่บ้านก่อนเพราะว่าไม่รู้จะทำยังไงซื้อรถราคาร่วมเป็นล้าน ร้องไห้โทรไปปรึกษากับคนที่รู้จัก(แบงค์) เค้าให้คำปรึกษาว่าต้องให้ทางเต้นท์รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เนื่องจากซื้อรถมามีปัญหาต้ังแต่อาทิตย์แรก ส่วนเรื่องทางไฟแนนท์ต้องเราวันอังคารเพราะเป็นวันหยุดต่อเนื่อง ทางคุณแอนโทรแจ้งว่าเค้าไม่รับผิดชอบเรื่องค่าอะไหร่ แต่ค่าแรงจะจัดการเอง (ทำไมไม่เหมือนกับที่เจ้าของแจ้งไว้). ดิฉันไม่มีทางเลือกเลยต้องจ่ายค่าแรงช่างที่อู่ไป 800 (มีใบเสร็จ) และให้เงินกับช่างเหมี่ยวไป 1,500 บาทเพื่อไปซื่ออะไหร่ก่อน เพราะไม่รู้จะต้องทำยังไงเพราะเวลาตอนนั้นก็ดึกมากแล้ว 
 
ข้อเรียนปรึกษาเป็นข้อๆ นะคะ
1. เนื่องจากรถมีปัญหาตั้งแต่วันแรกที่ออกรถ และมีปัญหาต่อเนื่อง ทำให้ดิฉันเสียเวลาและธุรกิจหลายครั้ง ดิฉันไม่ต้องการใช้รถคนนี้แล้วและต้องการยกเลิกสัญญา ต้องทำยังไงบ้างคะ
2. ถ้าดิฉันต้องการดำเนินการทางคดีไว้เป็นหลักฐาน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการทำธุรกรรมต้องทำยังบ้างคะ
3. ในกรณีที่ดิฉันเข้าไปตั้งศูนย์มาแล้วถึง 3 ครั้งแต่อาการยังเป็นเหมือนเดิม(ไหลซ้าย) ดิฉันคิดว่าน่าจะเกิดจากรถคนนี้มีการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงมาหรือเปล่าจึงทำให้เกิดอาการแล้วแก้ไม่หาย ดิฉันสามารถคืนรถได้หรือเปล่าเพราะทางเต้นท์แจ้งว่า เค้ามีบริษัทรับประกันการซื้อรถคืนในกรณีนี้ด้วย
 
 


Sent from my iPad
โดยคุณ กนกวรรณ (223.205.xxx.xxx) 24 ก.พ. 2556, 13:46

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 2

กรณีของคุณกนกวรรณ ทางบริษัทได้รับผิดชอบและดูแลลูกค้าเป็นอย่างดี แต่เนื่องด้วยทางด้านตัวลูกค้าได้นำรถไปซ่อมที่อู่นอกและเกิดการเสียหาย ซึ่งอยู่นอกเงื่อนไขการรับประกันของบริษัท ทางบริษัทมีนโยบาย และให้ความสำคัญในเรื่องบริการหลังการขาย และดูแลเอาใจใส่ลูกค้าเป็นอันดับ1 จึงเรียนมาเพื่อแจ้งให้ทราบและให้เกิดความมั่นใจในการเลือกซื้อรถกับเรา

โดยคุณ พิสิฐศักดิ์ รอดนาโพธิ์ 10 ธ.ค. 2559, 16:31

ความคิดเห็นที่ 1

  1-2-3.  การยกเลิกสัญญาและคืนรถ  น่าจะเป็นไปไ้ด้ยาก เพราะเต็นท์ตระหนักดีว่า  เป็นเรื่องทางแพ่ง  ก็ต้องมีการฟ้องร้องเอาเอง  ซึ่งคงมีเรื่องยืดยาว  และคุณย่อมเสียเปรียบ  เพราะใช้จ่ายในรายการการต่างๆมากมายแล้ว  ถ้ามามีคดีอีกก็ยิ่งมีค่าใช้จ่ายมากขึ้น และต้องใช้เวลานาน  ถ้าได้รับการช่วยเหลือเยียวยา น้อยกว่าที่ควร หรือรถไม่อยู่ในสภาพที่จะใช้งานได้ตามปรกติ  ควรแจ้ง สคบ.  ให้ช่วยเหลือ  เพื่อหาทางยกเลิกสัญญา  สายด่วน 1166  ครับ

โดยคุณ มโนธรรม เจษฎาสาธุชน (สมาชิก) 25 ก.พ. 2556, 01:12

ตอบความคิดเห็นที่ 1

 หลังจากที่ได้มีการพูดคุยกับทางเจ้าของเต้นท์ ดิฉันเลยตัดสินใจจะขายคืนรถให้เต้นท์ เนื่องจากปัญหาทั้งหมดเพราะอนาคตไม่รู้จะเจออะไรอีก ทางเต้นท์จะรับซื้อคืนมูลค่า 600,000 บาท มันเป็นการเอาเปรียบชัดๆ รถมีปัญหาตั้งแต่อาทิตย์แรก ดิฉันคุยกับสามีโดยที่ถ้าเค้าจะรับซื้อคืนในราคา 700,000 ก็จะยอมขาดทุน 80,000 และก็ดอกเบี้ยที่เกิดกับไฟแนนท์ แต่นี้ หายไป 180,000 และก็ไม่รวมกับดอกเบี้ยที่จะเกิด มันไม่มากเกินไปหรือเปล่าคะ 

ในฐานะผู้เสียหายและประชาชนธรรมดาที่โดนเอาเปรียบแบบนี้ ควรจะทำยังไง หรือต้องยอมให้แบงค์เป็นคนมาฟ้องกับดิฉันดีไหมคะ ถ้าเราไม่จ่ายค่างวดเลย 

โดยคุณ กนกวรรณ 25 ก.พ. 2556, 10:05

แสดงความเห็น